14 ส.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง รวบ 2 ผู้ต้องหา หลอกเหยื่อลงทุนหุ้นอเมริกา เสียหาย 1,000 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และตำรวจกก 5 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุมนางกัญญาภัค อายุ 52 ปี และนายนครินทร์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับรวมกว่า 59 หมายจับ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และฉ้อโกงโดยจับกุมได้ที่ ถ.พุทธมณฑลสาย 1 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2559 บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการขายตรง และให้คำปรึกษาทางธุรกิจขายตรงสินค้าเพื่อสุขภาพทุกประเภท อ้างว่าทางบริษัทจะนำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ของประเทศอเมริกา จึงประกาศระดมทุนให้ผู้ที่สนใจ โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนเป็นแพ็กเกจ และหากมีการชักชวนคนอื่นๆ มาลงทุนได้อีก ผู้ชักชวนจะได้สิทธิซื้อหุ้นของบริษัทในราคาพิเศษ และได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยบริษัทได้มีการจัดสัมมนา ดูงานให้ความรู้เรื่องการระดมทุน การออมในหุ้น จนมีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก
ต่อมาวันที่ 22 พ.ย.2562 ผู้เสียหาย 15 ราย ที่เป็นนักลงทุนหุ้นกับบริษัทดังกล่าว ได้รวมตัวกันมาร้องทุกข์โดยเเจ้งว่าหลังลงทุนซื้อหุ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 จนผ่านมานานถึง 4 ปี บริษัทได้อ้างว่าหุ้นยังไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์อเมริกา ไม่สามารถปันผลกำไรให้ได้ อีกทั้งยังไม่สามารถทำการถอนหุ้นได้อีก ซึ่งเมื่อตรวจสอบภายหลังพบว่าบริษัทได้ปิดตัวลงไปแล้ว เบื้องต้นรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท
หนึ่งในผู้ลงทุน บอกว่าก่อนตัดสินใจลงทุนซื้อหุ้น ได้มีเพื่อนแนะนำ และชักชวนให้มาลงทุน อีกทั้งยังมีโอกาสได้ไปร่วมสัมนากับบริษัทในการให้ข้อมูล บริหารจัดการเงินออม และมีที่ตั้งของบริษัท รวมถึงมีใบจดแจ้งตลาดหุ้นในอเมริกา จึงทำให้มั่นใจและเชื่อมั่นว่าหากลงทุนไปแล้วจะได้ผลกำไรสูง จึงตัดสินใจซื้อหุ้นไปกว่า 5 ล้านบาท อีกทั้งยังได้มีการชักชวนเพื่อน และญาติพี่น้องร่วมลงทุนด้วย ซึ่งขั้นตอนในการซื้อหุ้น ทางบริษัทจะมีการเสนอขายแบบแพ็กเกจ โดยให้ผู้ลงทุนตัดสินใจซื้อได้ตามแพ็กเกจ ซึ่งจากแพ็กเกจดังกล่าวของหุ้น ทำให้ผู้ลงทุนตัดสินใจซื้อหุ้นในแพ็กเกจตั้งแต่ 2,500 เหรียญ เพราะจะสามารถซื้อหุ้นเพิ่มข้างนอกได้อีก ทั้งนี้การซื้อหุ้นในช่วงแรกๆ ยังเป็นการซื้อในราคาต่ำ ที่มีราคาหุ้นละ 0.0003 ซึ่งเป็นหุ้นในราคาต่ำมาก และหากเข้าตลาดอเมริกาไปแล้ว ราคาหุ้นจะเพิ่มมูลค่าเป็น 3-5 เหรียญ โดยคิดง่ายๆ ว่าหากลงทุนซื้อหุ้น 100,000 บาท หากเข้าตลาดหุ้นอเมริกา ราคาหุ้นจะได้กำไรทั้งหมดประมาณ 5 ล้านบาท จึงทำให้นักลงทุนตัดสินใจซื้อหุ้นของบริษัทฯ ไว้
จากการสืบสวนพบว่า ขบวนการนี้มีผู้ต้องหาหลายราย ซึ่งส่วนใหญ่หลบหนีไปยังต่างประเทศ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่ายังมีผู้ต้องหา 2 ราย ที่หลบหนีอยู่ภายในประเทศไทยเป็นเวลากว่า 4 ปี โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มีหมายจับรวมกันจำนวน 59 หมายจับ ในพื้นที่หลายจังหวัด เช่น กรุงเทพ เชียงใหม่ บุรีรัมย์ พิษณุโลก แสดงให้เห็นว่ามีผู้เสียหายกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยทั้ง 2 ราย มีการทำหน้าที่เป็นกรรมการบริษัท และผู้รับผลประโยชน์ ของบริษัท ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ทราบว่าตนเองมีหมายจับและหลบหนีการจับกุมมาโดยตลอด ทำให้ยากต่อการติดตามจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเฝ้าติดตามสะกดรอยนานกว่า 1 เดือน จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ได้
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้เหตุผลว่าบริษัทมีการซื้อขายหุ้นถูกต้องสามารถตรวจสอบได้
ตำรวจสอบสวนกลาง ขอแจ้งเตือนประชาชนว่า ปัจจุบัน มิจฉาชีพมักโฆษณาชักชวนลงทุนในหุ้นหรือคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) หรือขายสินค้าผ่านช่องทางเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย รวมถึงกรณีมีคนใกล้ตัวหรือคนรู้จักมาชวนให้ลงทุน อ้างว่าให้ผลตอบแทนสูงได้ในเวลาอันรวดเร็ว และหากชวนคนอื่นได้ก็จะมีโบนัสเพิ่ม เมื่อถึงจุดที่ไม่สามารถหาสมาชิกใหม่ได้เพิ่มจนไม่สามารถจ่ายเงินได้ หรือได้เงินจำนวนมากเพียงพอแล้ว ก็จะหลบหนีไปสร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยมี 4 ข้อสังเกตดังนี้ 1.ให้ผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น, 2.การันตีผลตอบแทน, 3.เร่งรัดให้ตัดสินใจ 4.อ้างว่าใครๆ ก็ลงทุน. -419-สำนักข่าวไทย