4 มิ.ย. – ตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) จับกุมเครือข่ายผู้ลักลอบค้าลูกเสือโคร่งข้ามชาติ พร้อมของกลางลูกเสือโคร่ง จำนวน 1 ตัว
เจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุม MR.HO อายุ 34 ปี สัญชาติเวียดนาม และนางสาวิตรี อายุ 42 ปี โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 ในความผิดฐาน “ร่วมกันมีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี พร้อมของกลาง ลูกเสือโคร่ง อายุประมาณ 1 เดือน 1 ตัว, ตระกร้าพลาสติกสีน้ำเงิน 1 ตะกร้า, รถยนต์ยี่ห้อ มิชซูบิชิ XPANDER สีขาว 1 คัน, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยจับกุมได้ในพื้นที่ ต.วิศิษฎ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 พ.ค.67 บก.ปทส. ได้รับการประสานและให้ข้อมูลจากมูลนิธิไวด์ไลฟ์จัสติสคอมมิชชั่น (WJZ) ว่าได้มีการติดตามกลุ่มผู้ค้าสัตว์ป่าโดยพบว่านาย HO ซึ่งอาศัยอยู่ที่ สปป.ลาว มีพฤติการณ์ลักลอบค้าสัตว์ป่า ในพื้นที่ประเทศไทย, สปป.ลาว, เวียดนาม และเมียนมา มีการโพสต์ขายลูกเสือโคร่งในกลุ่มลับ
ต่อมา กก.3 บก.ปทส. ได้วางแผนเพื่อจับกุม ขบวนการของนาย HO โดยนาย HO จะนำลูกเสือมาส่งให้ลูกค้า ณ จุดเกิดเหตุ เมื่อถึงเวลากำหนดนัดหมาย นาย HO แจ้งให้นางสาวิตรี ผู้ต้องหาที่ 2 นำลูกเสือมายังจุดนัดหมายและได้ให้ลูกค้าเข้าตรวจสอบลูกเสือจนแน่ชัดว่าเป็นลูกเสือจริง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบและสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้พร้อมของกลาง เป็นลูกเสือโคร่ง เพศเมีย อายุประมาณ 1 เดือน น้ำหนักประมาณ 6 กิโลกรัม เบื้องต้นเป็นลูกเสือที่ยังไม่ทิ้งนมแม่ หลังจากให้สัตวแพทย์ทำการตรวจสุขภาพร่างกายของลูกเสือโคร่งแล้วได้ส่งมอบให้สำนักด่านตรวจสัตว์บึงกาฬ กรมอุทยาน เพื่อดำเนินการในส่วนการอนุบาลเลี้ยงดูต่อไป เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปทส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบถามคำให้การเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การเบื้องต้นว่าเป็นลูกเสือโคร่งป่า ที่ได้สั่งมาจากฟาร์มเพาะเลี้ยงในประเทศเวียดนาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงต้องตรวจสอบต่อไปว่าเป็นเสือที่ถูกล่ามาจากป่าหรือไม่ ส่วนนางสาวิตรี ผู้ต้องหาที่ 2 ยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ทราบว่ากล่องสัตว์ที่มีชาวลาวชื่อต้นฝากใส่มาในรถให้นำมาส่งให้ผู้ต้องหาที่ 1 นั้น เป็นเสือหรือสัตว์คุ้มครอง ซึ่งชุดสืบสวนจะทำการสืบสวนขยายผลต่อไป
สำหรับเสือโคร่งนั้นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 และยังเป็นสัตว์ป่าที่ CITES ควบคุม ชนิดพันธ์บัญชีหมายเลข 1 ลำดับที่ 26 ซึ่งเป็นสัตว์ป่าที่ห้ามค้าโดยเด็ดขาดเนื่องจากใกล้สูญพันธ์ ผู้ใดครอบครองหรือค้าเสือโคร่งนั้นมีอัตราโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ. -419-สำนักข่าวไทย
