7 ก.พ. – “บิ๊กเต่า” รุกสอบผู้ช่วยรัฐมนตรี อดีตเลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ตกเป็นเหยื่อแก๊งนักร้องเรียกตบทรัพย์โครงการกำไล EM ปี 65 หลังพบพยานหลักฐานสำคัญ มีพฤติการณ์ประทุษกรรมใกล้เคียงอธิบดีกรมการข้าว
ที่อาคารศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์สำนักนายกรัฐมนตรี บริเวณชั้น 3 บริเวณหน้าห้องนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ภายใต้บังคับบัญชาของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เข้าสอบปากคำอย่างไม่เป็นทางการกับนายกองตรี ธนกฤต ถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยข้อมูลในโลกโซเชียลว่าเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2565 สมัยที่นายกองตรี ธนกฤต ดำรงตำแหน่งเลขานุการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งขณะนั้นคือนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นผู้บังคับบัญชา ถูกนายเจ๋ง ดอกจิก เข้าไปพูดคุยและร้องเรียนเพื่อหวังจะตบทรัพย์นายกองตรี ธนกฤต และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดแบบเดียวกันกับคดีของอธิบดีกรมการข้าว จึงจำเป็นต้องเข้าขอข้อมูลและสอบปากคำในเบื้องต้นก่อน เพื่อเป็นการสอบถามถึงรายละเอียดในพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาอย่างน้อย 2 คน รวมถึงพยานวัตถุ พยานบุคคล และหลักฐานต่างๆ ที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนสามารถรวบรวมมาได้ก่อนหน้านี้
ภายหลังจากการเข้าพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับการประสานมาจาก นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี (สมศักดิ์ เทพสุทิน) ว่า ต้องการช่วยเหลือในการทำงานคดีรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวของตำรวจ บก.ปปป. ในประเด็นการขยายผลวงนักร้อง ซึ่งจากการพูดคุยเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก และตรงต่อข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอยู่ ซึ่งหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมหลักฐานและประสานงานกับทาง ป.ป.ช เพื่อดำเนินการต่อ
ส่วนหน่วยงานราชการที่ถูกรังแก หรือประสบกับปัญหาอย่างกรณีการเรียกทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวและไม่ได้รับความเป็นธรรม สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้เพื่อที่จะกำจัดเหลือบไร คือต้องร่วมมือกับตำรวจ โดย นายกองตรี ธนกฤต มองเห็นในความไม่ยุติธรรมในเรื่องดังกล่าว จึงขอให้ข้อมูลการขยายผลในคดี ซึ่งหลังจากนี้อาจต้องเชิญ นายกองตรี ธนกฤต ไปสอบปากคำเพิ่มเติมในฐานะพยานอย่างเป็นทางการในภายหลัง
ด้านนายกองตรี ธนกฤต เผยว่าการร้องเรียนเรื่องต่าง ๆ ที่หน้าศูนย์ร้องเรียนทำเนียบรัฐบาล หลังจากนี้ต้องฝากไปถึงวงการนักร้อง ต้องพิจารณาให้รอบคอบและมีข้อมูลที่เพียงพอต่อการเข้ามาร้องเรียนที่แห่งนี้ ซึ่งตนได้ประสบด้วยตนเองมีข้อมูลและไทม์ไลน์ที่ชัดเจน วันนี้จึงได้นำข้อมูลดังกล่าวมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ที่เหลือคงเป็นการให้ข้อมูลช่วยเหลือในด้านคดีกับตำรวจ หวังว่าจะมีมาตรการหรือข้อกฎหมายในการร้องเรียนเรื่องต่าง ๆ เข้ามาควบคุม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนักร้องศรีสุวรรณอีก และไม่ให้เป็นการร้องเรียนกันไปมาโดยไม่มีที่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นบทเรียนกับนักร้องทั้งหลาย และเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติ
เมื่อสอบถามว่า ตอนดำรงตำแหน่งเป็นเลขานุการกระทรวงยุติธรรมอยู่นั้น ขบวนการนักร้องได้เดินทางเข้าไปพบและมีพฤติการณ์อย่างไร นายกองตรี ธนกฤต เปิดเผยว่า ในวันดังกล่าว คนในขบวนการได้เดินเข้ามาพูดคุยและแนะนำตัวอย่างปกติ เพราะประตูห้องร้องเรียนที่กระทรวงยุติธรรมไม่เคยปิดอยู่แล้ว ก่อนที่ขบวนการนักร้องจะเจรจาลักษณะพฤติการณ์แผนประทุษกรรมคล้ายกับกรณีอธิบดีกรมการข้าว ลักษณะถูกแก๊งนักร้องตบทรัพย์ ส่วนรายละเอียด ไม่สามารถให้ลึกไปกว่านี้ได้ ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ บก.ปปป. ในการดำเนินการขยายผลต่อไป. -416-สำนักข่าวไทย