ตร. สรุปอาชญากรรมออนไลน์ที่ต้องจับตามอง ปี 67

สตช. 19 ธ.ค. – ตร.สรุปอาชญากรรมออนไลน์ที่ต้องจับตามอง ปี 2567 หลัง AI เข้ามามีบทบาทสำคัญ แนะป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อคืออย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น หรือได้ยินในโลกออนไลน์ โดยยึดหลัก “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน”


พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ผ่านมาพบว่ารูปแบบคดีที่มีจำนวนการแจ้งความมากที่สุดอันดับ 1 ยังคงเป็น “การหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการทางออนไลน์” มีจำนวนกว่า 150,000 คดี ส่วนรูปแบบคดีที่มีความเสียหายรวมสูงที่สุด อันดับ 1 คือ “หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์” มีความเสียหายรวมกว่า 16,000 ล้านบาท สำหรับคดีในรูปแบบอื่น ๆ อาทิ “การหลอกให้โอนเงิน” “การหลอกให้กู้เงิน” และ “การข่มขู่ทางโทรศัพท์” ก็ยังคงรูปแบบคดีที่มีผู้เสียหายและสร้างความเสียหายในอันดับต้น ๆ เช่นเดียวกัน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังในการใช้สื่อออนไลน์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท เพราะคนร้ายจะพยายามใช้ทุกช่องทางในการเข้าถึงเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการส่ง SMS การโทรศัพท์หาเหยื่อ การลงโฆษณาในสื่อสังคมออนไลน์ หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ และในหลายกรณีพบว่าคนร้ายมีข้อมูลส่วนบุคคลเชิงลึกของเหยื่อใช้ประกอบการหลอกลวงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วย


ส่วนแนวโน้มรูปแบบของอาชญากรรมออนไลน์ในปี พ.ศ.2567 นี้ สิ่งที่ประชาชนต้องระมัดระวังนอกเหนือจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น คือการที่คนร้ายนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) มาใช้ในการสร้างเนื้อหาปลอมขึ้นมาเพื่อใช้ในการฉ้อโกง หรือสร้างความเสียหาย โดยการนำ AI มาใช้สร้างภาพหรือคลิปปลอม เพื่อนำมาแสวงหาประโยชน์ต่าง ๆ เช่น
1.การสร้างภาพหรือคลิปปลอมเป็นบุคคลอื่น (AI Deepfakes) เพื่อใช้ในการฉ้อโกง
2.การเลียนเสียงของบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือคนรู้จัก (AI Voice Covers) จากตัวอย่างเสียง เพื่อใช้ในการฉ้อโกง
3.การสร้างคลิปลามกปลอม (AI Deepfakes) ทำให้บุคคลอื่นเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือแสวงหาประโยชน์
4.การสร้างข่าวปลอม (Fake News) ที่ดูน่าเชื่อถือ ทำให้เกิดความตื่นตระหนก หรือความเข้าใจผิด

โดยวิธีการที่จะป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อคือการอย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นหรือได้ยินในโลกออนไลน์ โดยยึดหลัก “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมออนไลน์ และหากพบว่าตนเองถูกแอบอ้างหรือปลอมบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ ให้รีบดำเนินการ “แจ้งความ รีพอร์ต บอกเพื่อน” เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับญาติพี่น้อง หรือเพื่อนสนิทต่อไป หรือหากประชาชนได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงทางสื่อสังคมออนไลน์ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-412-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

อดีตผู้บังคับบัญชา “ผู้กำกับโจ้” เผยสมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร

อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดประวัติอดีตผู้กำกับโจ้ สมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร เชื่อได้รับผลกรรมที่ทำแล้ว

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อน-ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนและฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพจากสภาพอากาศร้อน และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม.-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง 30%

Exclusive! เปิดห้องขังแดน 5 “อดีต ผกก.โจ้”

กรมราชทัณฑ์ เปิดห้องขัง แดน 5 ของ “อดีต ผกก.โจ้” ให้สังคมได้เห็นสภาพความเป็นจริงอีกด้าน พบด้านในยังรักษาพื้นที่ และข้าวของเครื่องใช้ของอดีต ผกก.โจ้ เอาไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1446 ขณะที่นายกรัฐมนตรี ร่วมส่งใจให้พี่น้องชาวมุสลิมตั้งจิตมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอด ในช่วงเวลาแห่งเดือนอันศักดิ์สิทธิ์