รวบแก๊งปลอมเป็นตำรวจ “สภ.แหลมฉบัง” หลอกเหยื่อโอนเงิน

7 ธ.ค. – ตำรวจไซเบอร์รวบแก๊งปลอมเป็นตำรวจ “สภ.แหลมฉบัง” หลอกเหยื่อโอนเงินกว่า 3 แสนบาท พบหมายจับติดตัวจำนวนมาก


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 พ.ค.65 ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์จากบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง แจ้งว่าผู้เสียหายมีชื่อเป็นผู้ส่งพัสดุไปยัง จ.เชียงราย โดยอ้างว่าข้างในพัสดุประกอบด้วยหนังสือเดินทางของชาวพม่า จำนวน 12 เล่ม, บัตรเอทีเอ็ม 9 ใบ, สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้เสียหาย จำนวน 3 เล่ม และสมุดบัญชีเงินฝากของผู้อื่นจำนวน 6 เล่ม ถูกอายัดไว้ที่ศุลกากรแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ซึ่งผิดกฎหมายและจะต้องถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

หลังจากนั้นได้ให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนในแอปพลิเคชั่นไลน์ ชื่อว่า “สภ.แหลมฉบัง” โดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ร.ต.อ. ประจำ สภ.แหลมฉบัง จากนั้นได้ให้ผู้เสียหายพูดคุยวีดิโอคอลทางไลน์กับชายอีกคนที่อ้างว่าเป็น ผกก.สภ.แหลมฉบัง แล้วส่งรูปภาพถ่ายของชายวัยกลางคน ว่ามีคดีข้อหาคดีฟอกเงินและค้ายาเสพติด โดยคนร้ายอ้างว่าผู้เสียหายมีเงินหมุนเวียนอยู่ในบัญชี 3 บัญชี และแจ้งว่าเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ให้โอนเงินในบัญชีทั้งหมดของผู้เสียมายังบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี “น.ส.สุพัตรา” ทั้งหมด เพื่อตรวจสอบ เมื่อทำการตรวจสอบเสร็จแล้วก็จะทำการโอนคืนให้แก่ผู้เสียหายต่อไป เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ดำเนินการโอนเงินไปยังหมายเลขบัญชีดังกล่าวเป็นจำนวนเงินกว่า 3 แสนบาท หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับไลน์ชื่อว่า “สภ.แหลมฉบัง” ได้อีกเลย จึงคิดว่าถูกพวกมิจฉาชีพหลอกแล้ว จึงได้เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ต่อมาวันนี้ (7 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 ได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหามีหมายจับติดตัวทั้งหมด 3 หมาย ได้หลบหนีมาอยู่ที่บ้านเช่าในจังหวัดราชบุรี จึงได้เข้าไปตรวจสอบและจับกุม น.ส.สุพัตรา อายุ 22 ปี ชาว จ.ราชบุรี ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมได้บริเวณ ถนนสาธารณะหน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ที่ 10 ต.ดอนตะโก อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับว่าตนเองคือบุคคลตามหมายจับนี้จริง แต่ตนเองไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากว่าปีที่แล้วเมื่อแม่ของตนเองป่วยต้องการถังออกซิเจน และ น.ส.เอ (นามสมมุติ) รับว่าจะช่วยเป็นธุระจัดหาถังออกซิเจนให้ แต่ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยไปแสดงเป็นหลักฐานในการของยืมถังออกซิเจนจากโรงพยาบาล เนื่องจากช่วงนั้นแม่ของตนเองป่วยหนักตนเองจึงตัดสินใจนำบัตรประจำตัวประชาชนของตนเองและของแม่ไปให้แก่ น.ส.เอ ไปดำเนินการให้ แต่ที่ตนเองจำได้ก็มีแค่เหตุการณ์นี้เหตุการณ์เดียวที่ตนเองนำบัตรไปให้แก่บุคคลอื่น และตนเองก็ไม่เคยเปิดบัญชีธนาคารให้แก่ผู้อื่นเลย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้ทำการสืบสวนหาตัวผู้ร่วมกระทำความผิดต่อไป.-412-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว

เจ๊พัชกฤษอนงค์

นำ “เจ๊พัช” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

กองปราบหิ้ว “กฤษอนงค์” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตำรวจค้านประกัน เจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย