กรมราชทัณฑ์ ยืนยันปล่อยตัว “เปรมชัย” ตามเกณฑ์

17 ต.ค. – “ราชทัณฑ์” ยืนยันปล่อยตัว “เปรมชัย” ผู้ต้องขังคดีฆ่าเสือดำ โดยไม่ติดกำไล EM ข้อเท้า ย้ำไม่ Double Standard รวย-จนมีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นเหมือนกัน


นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าวันนี้ (17 ต.ค) มีผู้ต้องขังเข้ารับการพิจารณาลดวันต้องโทษจำคุก จำนวน 567 คน ไม่ผ่านการอนุมัติ 83 คน และได้รับการอนุมัติ 484 คน โดยผู้ต้องขัง 484 คน มีผู้ได้รับการอนุมัติปล่อยตัววันนี้ทันที 113 คน ในจำนวนนี้มีนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องขังคดีฆ่าเสือดำ ซึ่งต้องโทษอยู่ที่เรือนจำอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี รวมอยู่ด้วย

พร้อมย้ำว่าการลดวันต้องโทษจำคุก พิจารณาตามหลักเกณฑ์ ซึ่งจะมีการพิจารณาเดือนละ 1 ครั้ง ในวันพรุ่งนี้ และวันถัดๆ ไป ก็จะมีผู้ต้องขัง ที่เข้าหลักเกณฑ์ได้รับการปล่อยไปเรื่อย ๆ เพราะหากรอให้ครบ 1 เดือน ที่มีการประชุมจะทำให้ผู้ต้องขังที่ได้ลดวันต้องโทษก่อน จะถึงวันประชุมเสียโอกาส


กรณีนายเปรมชัย ความจริงจะต้องรับโทษจำคุกถึงวันที่ 7 ธันวาคมนี้ แต่ที่ผ่านมานายเปรมชัย มีวันสะสม คือวันที่ต้องลดการต้องโทษจำคุก จึงได้รับการปล่อยตัวเพื่อคุมประพฤติ แต่มีเงื่อนไขจะต้องมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติทุก ๆ 1 เดือน จนครบกำหนดโทษจำคุก 7 ธันวาคม 2566 โดยวันนี้ นายเปรมชัย ถือว่าอยู่ในความดูแล ของสำนักงานคุมประพฤติแล้ว

รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่าการปล่อยตัวนายเปรมชัย เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ผู้ต้องขังทุกคนจะได้รับ หากเข้าหลักเกณฑ์ ผ่านการประเมินและการพิจารณา ก็จะได้รับการปล่อยตัวทุกคน ยกเว้นในกรณีที่ผู้ต้องโทษรายนั้น ๆ เอกสารยังไม่ครบ หรือศาลสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายแล้วยังไม่ชดใช้ค่าเสียหาย หรือผู้ต้องขังบางรายเมื่อออกไปแล้วสืบเสาะได้ว่าญาติของผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายเสียชีวิต ยังติดใจ หรือมีความคาใจไม่เห็นด้วยกลับการปล่อยตัวคุมประพฤติ ก็จะต้องใช้ดุลพินิจพิจารณาอีกครั้ง

กรณีนายเปรมชัย คณะกรรมการฯ ซึ่งมีจากหลายหน่วยงานได้พิจารณาแล้วและเห็นว่านายเปรมชัย ถูกจำคุกมาเกือบ 2 ปีแล้ว และที่ผ่านมาประพฤติปฏิบัติตัวอยู่ในหลักเกณฑ์ มีการชดใช้ค่าเสียหายแล้ว หากมีผู้ไม่เห็นด้วยกับการปล่อยตัวนายเปรมชัย ก็ต้องขึ้นกับดุลพินิจของคณะกรรมการที่พิจารณาปล่อยตัว ทั้งที่ในความเป็นจริงก็ไม่มีช่องทางให้ผู้เห็นต่างได้ยื่นอุทธรณ์หรือคัดค้าน การปล่อยตัวนายเปรมชัย ถือเป็นที่สิ้นสุดและมีผลตามกฎหมายแล้ว


ส่วนกรณีได้รับการยกเว้นใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือกำไล EM นั้น รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า นายเปรมชัย มีประวัติการรักษาตัวตั้งแต่ช่วงแรกที่เข้าเรือนจำ มีปัญหาด้านสุขภาพทั้งอายุ น้ำหนักตัว นั่งกับพื้นไม่ได้ต้องใช้เก้าอี้พลาสติกเล็ก ๆ รองนั่ง โดยมีข้อมูลการรักษาต่อเนื่อง แม้กระทั่งเคยขอออกไปรักษากับโรงพยาบาลภายนอก แต่ราชทัณฑ์ เห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นขนาดนั้นก็ไม่อนุญาตให้ออกไป

กรณีการรักษาโรคเบาหวาน โดยมีการคว้านเนื้อตายที่ข้อเท้า ทำให้ใส่กำไล EM ไม่ได้เกรงว่า โรคจะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง หากมีผู้ติดใจสงสัย และเจ้าตัวยินยอมเปิดเผยประวัติทางการแพทย์ ก็สามารถขอดูประวัติการรักษาได้ ซึ่งมีการรักษาจริง ทั้งนี้ ย้ำว่าการติดกำไล EM จะพิจารณาเป็นเคสบายเคส ไม่ใช่ว่าผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติจะต้องใส่กำไล EM ทุกคน ซึ่งกรณีพิจารณาแล้วไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และเหลือโทษคุมประพฤติอีกประมาณ 2 เดือน เช่น กรณีนายเปรมชัย ก็อยู่ในดุลพินิจว่าไม่จำเป็นต้องติดกำไล EM

สำหรับผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ มีเงื่อนไขต้องมารายงานตัวต่อสำนักงานคุมประพฤติทุก ๆ 1 เดือน ส่วนการออกนอกพื้นที่ไม่มีคำสั่งห้าม แต่จะต้องขออนุญาตศาลทุกครั้งที่จะออกนอกพื้นที่ เช่นนายเปรมชัย แจ้งว่าช่วงคุมประพฤติจะพักอยู่ที่บ้านในกรุงเทพฯ แต่จู่ ๆ จะเดินทางไป พัทยา จ.ชลบุรี ก็จะต้องยื่นเรื่องผ่านสำนักงานคุมประพฤติ เพื่อยื่นต่อศาลขอออกนอกพื้นที่

นายสิทธิ กล่าวว่า การพิจารณาปล่อยตัวคุมประพฤติผู้ต้องขังยึดหลักความเท่าเทียมไม่ Double Standard หรือ 2 มาตรฐาน พร้อมยกตัวอย่างว่า ปัจจุบันมีผู้ต้องขัง “โนเนม” ที่เจ็บป่วยเกินขีดความสามารถรักษาของทางเรือนจำและโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถูกส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอก ซึ่งมีจำนวนเยอะมาก ไม่เฉพาะผู้ต้องขัง VIP ที่ได้รับสิทธิ์ไปรักษาภายนอกแต่มักเป็นข่าวเฉพาะผู้ต้องขังที่มีชื่อเสียงเท่านั้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย