27 ก.ย. – “สันธนะ” ยื่นหนังสือ พร้อมข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรีในการพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ต้องคำนึงถึงความอาวุโส ความรู้ความสามารถ ประกอบกับประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวน และงานป้องกันปราบปราม
ก่อนการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจที่วันนี้มีวาระการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนใหม่ แทน พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่จะเกษียณราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้ ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความเคลื่อนไหว เมื่อ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ได้เดินทางเข้ามายื่นหนังสือ ถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ผ่านทาง สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เพื่อเสนอแนะ แนวทาง การพิจารณาผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดย จะต้องคำนึงถึงความอาวุโส และความรู้ความสามารถ ประกอบกับประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวน และงานป้องกันปราบปราม
โดยมี 4 ข้อเสนอดังนี้ 1.เห็นควรแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อาวุโสอันดับที่ 1 เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยให้มีการประเมินผลงานภายใน6เดือน ว่าสมควรให้ดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่ หากไม่ผ่าน ต้องพิจารณาสับเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่ทันที โดยให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล มาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.แทน 2.เห็นควรแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติโอนไปรับราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 1 ปี
3.พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อาวุโสลำดับที่ 3 ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต่อไปเพื่อให้แสดงความรู้ความสามารถในงานสืบสวนสอบสวนหรือป้องกันปราบปราม 4.พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ลำดับอาวุโสลำดับที่ 4 ให้โอนย้ายไปรับราชการเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และหากท้ายที่สุด พล.ต.อ.รอย ไม่ผ่านการประเมินก็ขอให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แทน
โดยการยื่นหนังสือวันนี้ นายสันธนะ บอกว่าหากหนังสือเสนอและของตัวเองไม่ได้ถูกส่งไปอยู่ในห้องประชุมก็วอนให้สังคมช่วยพิจารณา ในฐานะที่ ตัวเองเป็นตัวแทนประชาชนแต่งตั้งตัวเองเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีนอกทำเนียบฯ เพื่อจะยุติปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ มองว่าตำแหน่ง ผบ.ตร ไม่ใช่ตำแหน่งต่างตอบแทน ดังนั้น ตำรวจที่จะขึ้นเป็น ผบ.ตร.ต้องคำนึงว่าจะต้องรักเกียรติ รักศักดิ์ศรี รักประชาชน อย่ารักแต่ตัวเอง ซึ่งการยื่นหนังสือครั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้มีวาระใดซ่อนเร้นใด ๆ. -สำนักข่าวไทย