กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – สืบนครบาล ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุด PCT5 บุกทลายโกดังส่งของเก๊ รวบชายชาวเวียดนามทันควัน ตรวจยึดของกลางกว่า 5,000 ชิ้น รวมมูลประมาณ 600,000 บาท
“เสี่ยเวียดนาม” ต้นตอเหล่าสินค้าเก๊ ทั้งพาวเวอร์แบงก์ เครื่องมือช่าง นาฬิกาข้อมือ โดยแผนประทุษกรรมจะปลอมเป็นเพจชื่อดัง เมื่อมีผู้สั่งซื้อ ไม่เพียงส่งของเก๊ไม่มีคุณภาพให้ ยังดูดข้อมูลเหยื่อเก็บไว้ เมื่อสินค้าถูกตีกลับยังนำมารียูส “ส่งดะ” กลับไปตามบ้านเรือนประชาชน โดยแฝงเล่ห์กลเก็บเงินปลายทาง ทำให้เหยื่อบางรายหลงเชื่อจ่ายเงินแบบงงๆ ทั้งที่ไม่ได้สั่งซื้อแต่อย่างใด
ล่าสุดถูกรวบคาโกดังเก็บของ พบพัสดุตีกลับเกลื่อนบ้าน นาฬิกายี่ห้อ “คาซิโน” เจ้าตัวอ้างไม่ได้ส่งดะ แค่ส่งซ้ำ สร้างความเดือดร้อนไปทั่วสำหรับคนนิยมสั่งซื้อสินค้าทางโซเชียล
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.ธิติ สงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.กิติศักดิ์ ออกรัมย์, พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ, ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น, ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร, ร.ต.อ.มนตรี เฉลิมวัฒน์, ร.ต.อ.จิรศักดิ์ ว่องไว, ร.ต.อ.ชัยวิทย์ หาญญ์สุวรรณนทีวิทย์, ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์, ร.ต.ท.เดชาธร ชมศิริ, ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุด PCT5, สืบนครบาล และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 110 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว MR.NGUYEN VAN VIET (เหงียน วาน เวียด) อายุ 40 ปี สัญชาติเวียดนาม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2246/2566 ลงวันที่ 14 ก.ค. 66
ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน”
ตรวจยึดของกลาง 1.กล่องพัสดุที่ถูกตีกลับจากลูกค้า จำนวน 468 กล่อง 2.สินค้าอีกหลายรายการ เช่น พาวเวอร์แบงก์, นาฬิกาข้อมือ, เครื่องดูดฝุ่น, เครื่องบดไฟฟ้า, มีด ประมาณ 5,000 ชิ้น
“ส่งดะ” ธุรกิจขายออนไลน์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักและสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนในปัจจุบัน “การส่งดะ” ที่กล่าวถึงคือ การส่งสินค้าไปตามบ้านเรือนประชาชน แล้วให้เหล่าบริษัทขนส่งเอกชนเก็บเงินปลายทาง ทั้งที่ประชาชนคนนั้นไม่ได้มีการสั่งซื้อของแต่อย่างใด แต่อาศัย “ลูกมึน” ผลลัพธ์คือประชาชนจะจ่ายเงินซื้อสินค้าไปแบบมึนๆ เป็นเล่ห์กลรูปแบบใหม่ที่วิวัฒนาการเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับความเติบโตของเหล่าธุรกิจโลจิสติกส์และการขายออนไลน์ โดยชาวเวียดนามหัวใสต่างหลั่งไหลเข้ามาทำธุรกิจประเภทนี้จำนวนมากในปัจจุบัน ซึ่ง พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สืบสวนขยายผลให้ถึงเหล่าต้นตอ ซึ่งได้ส่งชุด PCT5 สืบสวนจากเส้นทางของเหล่าพัสดุจนพบว่าต้นตอมาจากโกดังชาวเวียดนามรายหนึ่งย่านลาดกระบัง โดยการสร้างเพจเฟซบุ๊กหลายเพจ เช่น “Banana-Thailand”, ZMI Thailand, Power Mall, Power Buy ขายพาวเวอร์แบงก์ เครื่องมือช่าง เครื่องใช้ไฟฟ้า นาฬิกาข้อมือเก๊ และของต่างๆ อีกมากมาย
ด่านแรกเมื่อผู้ซื้อสั่งซื้อสินค้า นอกจากจะได้สินค้าที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว คนร้ายยังใช้การสั่งซื้อของลูกค้าเป็นช่องทางการเก็บข้อมูลชื่อ-ที่อยู่ เพื่อใช้ส่งดะต่อไปในภายหน้า โดยการสืบสวนสืบทราบว่าเจ้าของโกดังเป็นเถ้าแก่ชาวเวียดนามชื่อ “เสี่ยเวียด” หรือ MR.NGUYEN VAN VIET (เหงียน วาน เวียด) สัญชาติเวียดนาม พบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีเดือนละไม่ต่ำกว่า 6 หลัก ซึ่งล้วนได้มาจากการทำธุรกิจนี้
ต่อมา พ.ต.ต.กิติศักดิ์ ออกรัมย์ เจ้าหน้าที่ชุด PCT5 สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งออกหมายจับเสี่ยเวียด ซึ่งต่อมาวันที่ 28 ก.ค. 66 พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุด PCT5 และชุดสืบนครบาล และนักเรียนสืบสวน 110 เข้าจับกุมเสี่ยเวียดไว้ได้ทัน ขณะกำลังวางแผนหลบหนีออกนอกประเทศ โดยจับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ถ.พูนสิน ซ.เคหะร่มเกล้า 64 แขวงคลองสองต้นนุ่น ลาดกระบัง กรุงเทพฯ
จากการตรวจค้นบ้านพักพบเป็นโกดังเก็บสินค้าเพื่อรอ “ส่งดะ” ไปให้กับเหยื่อ โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสินค้าภายในบ้านพบว่าเป็นของเก๊ทั้งหมด และพบพัสดุที่ถูกตีกลับมาจากการส่งดะเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้กว่า 5,000 ชิ้น รวมมูลประมาณ 600,000 บาท (ต้นทุน) โดยที่ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดจับงงคือ นาฬิกายี่ห้อคาซิโน
ในชั้นจับกุม นายเหงียน วาน เวียด ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่ามีนายทุนจากประเทศเวียดนามติดต่อให้ตนเองทำธุรกิจประเภทนี้ในประเทศไทย ตนเองจึงมาลงหลักปักฐานทำธุรกิจประเภทนี้ในประเทศไทย เริ่มทำมาตั้งแต่เมื่อกลางปี 2565 ส่วนเรื่องของผิดกฎหมายหรือที่มาของสินค้า ตนไม่ขอให้การใดๆ ก่อนนำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ผู้ทำธุรกิจประเภทนี้จะเริ่มจากการขายสินค้าทางออนไลน์ โดยเป็นสินค้าประเภทคุณภาพต่ำ ไม่ตรงปก ไม่มี อย. หรือ มอก. เมื่อขายไม่ออกหรือถูกตีกลับมาแล้ว จะนำมา “ส่งดะ” ไปให้กับเหล่าลูกค้าเดิมที่อยู่ในฐานข้อมูลลูกค้าเก่าอีกครั้ง ทั้งที่เขาไม่ได้สั่งซื้อแต่อย่างใด โดยเหล่าธุรกิจพวกนี้สร้างความเดือดให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง ซึ่งประชาชนจะแจ้งความไว้ตาม สน./สภ. และแจ้งความผ่านระบบออนไลน์เป็นจำนวนมาก แต่ด้วยความเสียหายเป็นจำนวนเล็กน้อย ผู้เสียหายบางราย เห็นว่าเป็นเงินไม่มากจะไม่มาแจ้งความร้องทุกข์ ทำให้อาชญากรรมประเภทนี้ไม่อาจหมดไปจากสังคมไทย
วันนี้เรากำลังไล่กำจัดต้นตอของปัญหาเหล่านี้ แม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ สงสว่าง ผบช.น. -สำนักข่าวไทย
