กรุงเทพฯ 26 ก.ค. – ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ เอาผิดเจ้ากรมสวัสดิการทหารบก และพวก รวม 25 คน เรียกรับเงินในการก่อสร้างบ้านพักสวัสดิการทหารบก รวม 200 ครั้ง มูลค่ากว่า 44 ล้านบาท
เวลา 10.30 น. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคก้าวไกล พร้อม “คุณก้อย” ผู้เสียหายจากคดีทุจริตบ้านพักสวัสดิการทหาร และทนายความ ยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เอาผิดเจ้ากรมสวัสดิการทหารบก และพวก รวม 25 คน ในฐานร่วมกันกับเจ้าพนักงาน รับ ยอมรับทรัพย์สิน และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายปดิพัทธ์ เปิดเผยว่า เรื่องนี้หลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประเด็นการทุจริตบ้านพักสวัสดิการทหารบก และ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ท้าให้ส่งหลักฐาน จากนั้นเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้นำหลักฐานไปยื่นที่สำนักนายกรัฐมนตรี แต่ผ่านมา 5 เดือนแล้ว คดีไม่มีความคืบหน้า ซึ่งในการอภิปรายที่ผ่านมาได้เปิดเผยหลักฐานที่ส่วนใหญ่มาจากผู้เสียหาย คือ คุณก้อย และคุณเบิร์ด (นามสมมติ) ว่าการทุจริตบ้านพักสวัสดิการทหารมีการเรียกรับสินบน 5% และอมส่วนต่างค่าบ้าน จนนำไปสู่ความกดดันของทหาร ทำให้เกิดเหตุกราดยิงที่โคราช เรื่องนี้เป็นที่รับรู้ภายในกองทัพ แต่ไม่มีการลงโทษใดๆ
เมื่อคุณก้อยยื่นหลักฐานไปยังกรมสวัสดิการทหารบก และกระทรวงกลาโหม ปรากฏว่าไม่ได้รับความยุติธรรม มีการลงโทษผู้กระทำผิดเพียงงดบำเหน็จครึ่งปี ส่วนอีกคนหนึ่งกักตัวแค่ 7 วัน ทำให้เราเห็นถึงความไม่ชอบธรรม ทั้งที่ผู้บัญชาการทหารบกน่าจะรับรู้เรื่องทั้งหมด และการที่โครงการบ้านพักทหารเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2553 และสิ้นสุดโครงการในปี 2564 เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี เป็นช่วงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงควรมีส่วนรับผิดชอบด้วย
วันนี้จึงพาผู้เสียหายมายื่นฟ้องที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางตลิ่งชัน เพื่อเป็นการช่วยเหลืออีกหนึ่งช่องทาง เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเรื่อง คุณก้อยโดนกดดันอย่างหนัก
ด้านนายฤทธิ์ พัวพัน ทนายความ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ยื่นฟ้องข้าราชการทหาร 23 นาย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในกรมสวัสดิการ และมีพลเรือนอีก 2 คน ใน 2 ข้อหา คือ ร่วมกันกับเจ้าพนักงานเรียกรับ ยอมรับทรัพย์สิน และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งข้าราชการมีตั้งแต่ทหารยศนายพล นายพัน เจ้าพนักงานราชการในสังกัด ตำแหน่งสูงสุดเป็นถึงเจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ซึ่งมีการร่วมกระทำผิดแล้วกว่า 200 ครั้ง เช่น การเรียกร้องเงิน 5% จากคุณก้อย และค่าตรวจหลักทรัพย์ ค่าดูแลแฟ้มลูกค้าที่มาซื้อที่ดิน ฯลฯ มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 44 ล้านบาท
ขณะที่คุณก้อย ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ต่อสู้มาตั้งปี 2563 กับครอบครัวเพียงลำพัง ที่ผ่านมาได้ไปเรียกร้องมาทุกช่องทาง แต่กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือ และหวังว่าศาลนี้จะเป็นที่พึ่งสุดท้าย เพราะที่ผ่านมาตนและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จนถึงขั้นลูกไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย ทั้งนี้ มั่นใจในพยานหลักฐาน การฟ้องในครั้งนี้เป็นการฟ้องครั้งแรกที่มีพลเรือนร่วมทุตริตด้วย และอาจจะมีการฟ้องในครั้งต่อๆ ไปเพิ่มอีก.-สำนักข่าวไทย