กทม. 27 เม.ย.- ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายแก็งคอลเซ็นเตอร์ อ้างตัวเป็นสรรพกรหลอกตุ๋นเหยื่อ สูญเงินนับล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จับกุม น.ส.จิราภรณ์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอุตรดิตถ์ ที่ 155/2566 ลงวันที่ 21 เมษายน 2566 ซึ่งกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” พฤติการณ์ขณะเกิดเหตุ ย้อนไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความขณะที่ผู้เสียหายอยู่ภายในร้าน ได้มีโทรศัพท์จากชายไม่ทราบชื่อแจ้งว่าโทรมาจากกรมสรรพกร แจ้งต่อผู้เสียหายว่าให้ผู้เสียหายยกเลิกการสแกนจ่ายบิลในร้าน จะได้ไม่ต้องเสียภาษี ถ้าหากยังเปิดไว้ต้องทำการเสียภาษีย้อนหลัง จากนั้นชายคนดังกล่าวให้ผู้เสียหายกดหมายเลขรหัสอะไรก็ได้ที่จำได้และใช้เป็นประจำ จำนวน 4 ครั้ง และชายคนดังกล่าวแจ้งกับผู้เสียหายว่าได้ทำรายการเสร็จเรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นไม่นาน หน้าจอโทรศัพท์ของผู้เสียหายได้ขึ้นข้อความว่าเงินในบัญชีได้ถูกโอนไปยังบัญชีธนาคารของน.ส.จิราภรณ์ มูลค่าความเสียหายนับล้านบาท ผู้เสียหายรู้ว่าตนเองถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ออกหมายจับบุคคลเจ้าของบัญชีที่ผู้เสียหายได้โอนเงินให้ คือ น.ส.จิราภรณ์ ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
ต่อมา พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 ได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาคนดังกล่าว ได้ที่หน้าบ้านพัก เขตจอมทอง กทม. ตรวจสอบตามหมายจับพบว่าเคยถูกจับกุมในคดีฉ้อโกง พ.ร.บ.คอมฯ ของศาลจังหวัดอุดรธานี และได้ประกันตัวพร้อมเงือนไขติดกำไร EM ภายหลังศาลได้ตรวจสอบปรากฏว่าไม่พบสัญญาณของกำไร EM ของผู้ต้องหา คาดว่าจะได้มีการทำลายกำไร EM ศาลจังหวัดอุดรธานีจึงได้ออกหมายจับอีกครั้ง เพื่อให้จับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การภาคเสธโดยรับว่าตนเองเป็นเจ้าของบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเข้ามาจริง แต่ตนเองไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเรื่องที่ไปหลอกเหยื่อดังกล่าว โดยอ้างว่าก่อนหน้านี้ปี 65 ตนเองมีผู้ติดต่อทางเฟซบุ๊กมาติดต่อให้ตนเปิดบัญชีโดยจะให้ค่าจ้าง 1,000 บาท ตนจึงยินยอมเปิดบัญชีให้และนำเงินดังกล่าวไปให้ใช้จ่ายภายในครอบครัว ซึ่งน.ส.จิราภรณ์ ยอมรับว่าช่วงนั้นตนเองตกงาน และจำเป็นต้องหาเงินเพื่อมาดูแลตรอบครัว จนกระะทั้งมาถูกจับกุมในวันนี้
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ขอเตือนพี่น้องประชาชนว่าช่วงนี้เป็นช่วงของการต้องเสียภาษีอากรประจำปี และมีมิจฉาชีพคอยที่หาวิธีการต่างๆ เพื่อมาหลอกลวง ขออย่าหลงเชื่อบุคคลที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐต่างๆ โทรมาเพื่อให้ทำธุรกรรมหรือทำตามขั้นตอนที่กลุ่มมิจฉาชีพสร้างไว้ เนื่องจากภาครัฐไม่มีนโยบายให้ประชาชนทำธุรกรรมทางโทรศัพท์หรือต้องตรวจสอบบุคคลที่โทรมาแอบอ้างให้ดีก่อน เพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อของมิจฉาชีพต่อไป ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูล พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.๒ บก.สอท.๔ โทรศัพท์ 09๐-๙๔๕๘๖๓๕ .-สำนักข่าวไทย