กรุงเทพฯ 8 เม.ย. – นายแพทย์ ม.ร.ว.คนดัง ปฏิเสธเกี่ยวข้องแก๊งค้ายาข้ามชาติ ปลอมแปลงเอกสารเบิกเงิน 176 ล้านบาท และไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอุ้มบุญข้ามชาติชาวจีน
นายวันชัย สอนศิริ ทนายความของนายแพทย์ ม.ร.ว.คนดัง แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีนายแพทย์ ม.ร.ว.คนดัง ถูกตั้งข้อหาร่วมกันพยายามลักทรัพย์ และปลอมแปลงเอกสาร และมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามขาติ หลังก่อนหน้านี้ถูกตำรวจ สน.ทองหล่อ ออกหมายจับ นายแพทย์ ม.ร.ว.คนดัง ดอดเข้ามอบตัวเมื่อสัปดาห์ที่๋ผ่านมา พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
จากการสอบถามรายละเอียดตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งตกเป็นผู้ต้องหา ตนและทีมทนายเชื่อว่าอาจารย์หมอไม่ได้มีส่วนในการกระทำผิดดังกล่าว แต่เข้าไปพัวพันโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์และตกเป็นเหยื่อของขบวนการต่างชาติกลุ่มนี้ จากพยานหลักฐานที่มีเชื่อว่าพนักงานสอบสวนและอัยการจะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง
ด้าน นายแพทย์ ม.ร.ว.คนดัง ระบุว่า ตนกำลังทำโครงการเวลเนส บนเนื้อที่ 60 กว่าไร่ ริมเจ้าพระยา ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการระดมทุนจากนักลงทุนทั่วโลก ปรากฏว่ามีอดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของตนติดต่อเข้ามาว่ามีอดีตลูกชายอธิบดี ป. มีความสามารถระดมทุนจากนักลงทุนชาวต่างชาติและนักลงทุนในประเทศได้ และมีชายชาวกัมพูชาเชื้อสายจีนสนใจจะเข้าร่วมลงทุนในโครงการของตน แต่ประสบปัญหาเบิกถอนเงินจากบัญชีธนาคารไม่ได้ เนื่องจากสมุดบัญชีธนาคารและพาสปอร์ตหาย จึงขอความช่วยเหลือให้ช่วยประสานกับทางธนาคาร โดยตัวนายหวัง พร้อมเดินทางไปยืนยันตัวตนที่ธนาคาร แต่เมื่อไปถึงธนาคาร ธนาคาระบุว่าแค่บุคคลไม่เพียงพอต่อการยืนยันตัวตน แต่ต้องใช้พาสปอร์ตตัวจริงมาประกอบการยืนยัน จากนั้นนายหวังกับกลุ่มคนดังกล่าวหายไปประมาณ 3 สัปดาห์ ก่อนติดต่อเข้ามาว่าได้พาสปอร์ตตัวจริง จึงนัดไปเจอกันที่ธนาคาร แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพาสปอร์ตพบเป็นของปลอม และตำรวจ สน.ทองหล่อ เข้าดำเนินการจับกุมนายหวัง พร้อมเชิญตัวตน ลูกชายอดีตอธิบดี และอดีตเจ้าหน้าที่การเงิน และคนของ นาย ป. อีก 1 คน รวมเป็น 5 คน ไปที่ สน.ทองหล่อ เพื่อสอบปากคำ ก่อนปล่อยตัวตนและคนไทยทั้งหมด
ต่อมาทราบว่าตำรวจออกหมายจับตนในข้อหาร่วมกันพยายามลักทรัพย์ และปลอมแปลงตราสัญลักษณ์ จึงตัดสินใจไปมอบตัวรับทราบข้อหา ก่อนปฏิเสธทึกข้อกล่าวหา และยื่นขอประกันตัวออกมา
นายแพทย์ ม.ร.ว.คนดัง ระบุว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ออกมาตอบโต้ ต้องการปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย แต่เรื่องดังกล่าวทำให้เสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล จึงออกมาแถลงข่าวเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติแต่อย่างใด พร้อมยอมรับว่าเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนราคาแพง ไม่คิดว่าแค่ความปรารถนาจะช่วยเหลือบุคคนอื่นจะสร้างความเดือดร้อนให้มากมายขนาดนี้
นอกจากนี้ยังมีสื่อบางสำนักลงข่าวในลักษณะว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอุ้มบุญข้ามชาติชาวจีน จึงใช้จังหวะนี้ชี้แจงกับสังคม แต่ยอมรับว่ามีคนจีนเข้ามาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการอุ้มบุญเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติแล้วไม่ผ่าน มีเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่ทางคลินิกรับเป็นคนไข้ ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้.-สำนักข่าวไทย