3 เม.ย. – เร่งล่า 2 คนร้าย ขี่ จยย.ประกบยิง นศ.ปี 1 ช่างกลปทุมวัน เสียชีวิต ตรวจกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนี พบไปทางถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าสี่แยกไฟฉาย
ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช แม่และอา ของน้องภูมิ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ที่ถูกยิงอย่างอุกอาจเสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพน้องภูมิไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านเกิดใน จ.เลย หลังถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงเสียชีวิตใกล้ซอยจรัญสนิทวงศ์ 30/1 เขตบางกอกน้อย กทม. เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอย่างมาก พร้อมกันนี้บรรดาเพื่อนของน้องภูมิเดินทางมาร่วมรับศพด้วย
แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวเปิดใจกับสื่อมวลชนทั้งน้ำตาว่า แม่อยากรู้ว่าลูกแม่ไปทำอะไรให้ถึงทำกับลูกของแม่ได้ลงคออย่างนี้ น้องภูมิเป็นเด็กดี ไม่เกเร เป็นเด็กเรียบร้อย มาอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ประมาณ 1 ปีแล้ว เพื่อมาศึกษาต่อที่สถาบันดังกล่าว ลูกไม่เคยเล่าว่ามีใครปองร้าย ตามคุกคาม หรือคิดร้ายกับตนตอนเรียนที่กรุงเทพฯ เพิ่งคุยกับลูกล่าสุดเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา บอกว่าลูกจะกลับบ้านในวันที่ 8 เม.ย. แม่ย้ำเตือนเสมอว่าให้ลูกระวังตัวเองเสมอ ไปไหนมาไหนให้ระมัดระวัง เพราะที่นี่ไม่ใช่แถวบ้านของเราเอง อีกทั้งไม่เคยมีลางสังหรณ์มาก่อนว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับลูกตัวเอง แม่เองไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมลูกถึงมาเรียนที่สถาบันแห่งนี้ แต่ลูกเคยบอกว่าใฝ่ฝันอยากเป็นวิศวกร
แม่ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะพฤติกรรมของคนร้ายโหดร้ายเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสถาบันหรือไม่ แต่รับไม่ได้ที่ก่อเหตุร้ายแรงขนาดนี้ อยากให้ตำรวจเร่งตามจับตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด รวมทั้งอยากให้ผู้ก่อเหตุมากราบขอขมาแม่ ซึ่งแม่จะอโหสิกรรมให้ ยอมรับว่าตอนนี้แม่มีความกังวลว่าตำรวจจะไม่สามารถตามจับคนร้ายได้ ยืนยันว่าจะเอาผิดคนร้ายให้ถึงที่สุด
ขณะที่บรรดาเพื่อนของผู้เสียชีวิตปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ แก่สื่อมวลชน เพราะกังวลในเรื่องของความปลอดภัย แต่จากการที่ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยระบุว่าที่ผ่านมาน้องภูมิและเพื่อนไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใครมาก่อน ปกติเวลาภูมิอยู่กับเพื่อนเป็นคนเฮฮาและเรียนดี ภูมิตั้งใจอยากเป็นวิศวกร แต่ไม่นึกว่าจะมาด่วนจากไปแบบนี้ หลังจากนี้เพื่อนๆ คงต้องระมัดระวังตัวเองมากขึ้น เพราะไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร ยืนยันว่าเพื่อนๆ ของภูมิไม่เคยมีปัญหาต่างสถาบันกับใคร
ส่วนความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.ณัฐพัฒนส์ ธรรมชุตินันท์ ผกก.สน.บางกอกน้อย ระบุว่า ตอนนี้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางของคนร้าย รวมถึงกล้องวงจรปิดแล้ว เบื้องต้นพบว่าคนร้ายทั้งสองคนขี่รถจักรยานยนต์ประกบผู้ตายมาตั้งแต่หน้าหอพักบริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 42 จากนั้นเมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุมีการประกบยิงจำนวนหลายนัด จนรถผู้ตายเสียหลักล้มลง จากนั้นคนร้ายวนรถกลับมาก่อนกระหน่ำยิงจนเสียชีวิต และหลบหนีไปทางถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าสี่แยกไฟฉาย
พ.ต.อ.ณัฐพัฒนส์ กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เนื่องจากพฤติการณ์ก่อเหตุอุกอาจมาก อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ เนื่องจากคนร้ายใส่หมวกกันน็อกเต็มใบทั้งสองคน รวมถึงมีการเรียกเพื่อนมาสอบปากคำบางส่วนแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ซึ่งตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องของความขัดแย้งระหว่างสถาบัน
มีรายงานว่าชุดสืบสวนไล่เส้นทางคนร้ายจนพบว่าผู้ก่อเหตุขับรถตามผู้ตายมาจากคอนโดฯ ย่านซอยจรัญสนิทวงศ์ 42 เรื่อยมาจนกระทั่งถึงทางรถไฟบางขุนนนท์ ซึ่งห่างจากคอนโดฯ เพียง 100 เมตร ประกอบกับจุดดังกล่าวไม่มีแสงไฟ จึงอาศัยความมืดก่อเหตุ และหลบหนีมุ่งหน้าไปทางสี่แยกไฟฉาย เหตุการณ์ประกบยิงนักเรียนช่างกลเสียชีวิตครั้งนี้มีลักษณะคล้ายกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2565 ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน มีคนร้ายจำนวน 2 คน สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงนักศึกษาช่างกลปทุมวัน จำนวน 8 นัด จนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณซอยเทอดไท 86 (แยกกำนันแม้น) ท้องที่ สน.บางขุนเทียน ขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ส่วนผู้ก่อเหตุทั้งสองคดีนี้จะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันหรือไม่นั้น ตำรวจยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ.-สำนักข่าวไทย