ลูกป่วยจิต ใช้หัวเตาแก๊สปิกนิกทุบหัวแม่เสียชีวิตในห้องพัก

กรุงเทพฯ 15 ม.ค. – ลูกชายวัย 37 ปี ป่วยทางจิต ใช้หัวเตาแก๊สปิกนิกทุบหัวแม่บังเกิดเกล้า วัย 61 ปี เสียชีวิตในห้องพัก ย่านลาดกระบัง หลังถูกจับกุมได้แต่ส่ายหัวไปมาและหลับตานิ่งเงียบ


เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15 ม.ค. ร.ต.ท.กฤษฎา สายคง รองสว. (สอบสวน) สน.ลาดกระบัง ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต เหตุเกิดที่ ในอพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ ในซอยลาดกระบัง 26 ถนนอ่อนนุช ลาดกระบัง แขวงและเขตลาดกระบัง กทม. จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ธรรศพงศ์ พัฒนกิตติสกุล รองผกก.ป.สน.ลาดกระบัง พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.ลาดกระบัง แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ สูง 4 ชั้น ห้องที่เกิดเหตุอยู่ที่ชั้นที่ 3 บนฟูกที่นอนพบร่าง นางชัย อายุ 61 ปี พนักงานทำความสะอาด บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ทำหน้าที่แม่บ้านภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถูกหัวเตาแก๊สปิกนิกทุบศีรษะนอนจมกองเลือดในสภาพตะแคงฝั่งซ้าย มีผ้าห่มคลุมมาถึงเอว เลือดเปรอะหมอน กระเซ็นไปตามพื้นและผนังห้อง ใกล้ศพพบหัวแก๊สของเตาแก๊สปิกนิกเปื้อนเลือดตกอยู่


ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายน้อย อายุ 37 ปี บุตรชายของนางชัยไว้ได้ โดยนายน้อยมีอาการนิ่ง ไม่พูดจา ไม่ยอมให้การใดๆ ได้แต่ส่ายหัวไปมาและหลับตานิ่งเงียบ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้นำไปสอบสวน ที่ สน.ลาดกระบัง

จากการสอบสวนพยานที่พักอาศัยอยู่ที่อพาร์ตเมนต์เดียวกันได้ความว่า ได้ยินเสียงคนลักษณะทำร้ายร่างกายกัน เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา แต่ไม่มีเสียงด่าทอกันแต่อย่างใด จากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงจากห้องดังกล่าวอีก กระทั่งญาติของผู้ตายมาพบศพอยู่ในห้อง พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

ต่อมา หลานสาวของนางชัย ได้รุดมาดูศพให้การด้วยเสียงสั่นเครือว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการไม่ปกติมีสภาพเหมือนคนวิกลจริต ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปี เคยพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีธัญญา มีประวัติการรักษา แต่เมื่ออาการดีขึ้นปรากฏว่านายน้อยกลับไม่กินยาต่อเนื่อง ระยะหลังมีอาการตาขวาง เคยเตือนกับผู้เสียชีวิตว่า ให้ระวังตัวเพราะอยู่ด้วยกันเพียง 2 คน ถ้าพูดอะไรไม่เข้าหูอาจจะทำให้เกิดเหตุทำร้ายร่างกายกันได้ เพราะนายน้อยมีอาการไม่ปกติอยู่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุขึ้นจริงๆ


ภายหลังจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนตัวนายน้อยนำตัวไปสอบสวน โดยมีเจ้าหน้าที่พฐ. และแพทย์ร่วมตรวจสอบ เพื่อนประเมินอาการป่วย ก่อนพิจารณาสถานที่ในการควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง