“ชูวิทย์” จุดตะเกียง-ฝากเทียนให้ตำรวจและอัยการ

กรุงเทพฯ 5 ม.ค.-“ชูวิทย์” จุดตะเกียง-ฝากเทียนให้ตำรวจและอัยการ ทำสำนวน-เก็บรวบรวมพยานหลักฐานให้มากขึ้น พร้อมเปิดพยานผู้รับเหมาที่ระบุถูก “ตู้ห่าว” ข่มขู่และไม่ได้รับเงินค่าจ้าง รวมมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท


นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แถลงเปิดพฤติการณ์ของขบวนการทุนจีนสีเทาของนายตู้ห่าว และพวก พร้อมการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ เปิดฉากนายชูวิทย์ ได้จุดตะเกียง เปรียบเทียบว่าบ้านเมืองอยู่ในความมืดมิดไร้ความหวัง ไร้ผู้นำ ในการให้ความยุติธรรม ทั้งยังปักเทียนเปรียบเทียบว่า ผบ.ตร.และอัยการกำลังนั่งเทียนทำสำนวนคดี นั่งทำงานเก็บหลักฐานแบบเว้นวรรค สำนวนลักหลับ ทั้งที่พยานหลักฐานไม่แน่นหนา สำนวนอ่อน

นายชูวิทย์ มองว่าตำรวจทำให้พยานหลักฐานอ่อน เห็นได้จากการเก็บพยานหลักฐานที่ไม่ต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการตัดต่อไฟล์ภาพวงจรปิดในบ่อนกาสิโนลีลาและผับจินหลิง โดยในผับลีลามีบ่อนกาสิโน มีเซิร์ฟเวอร์กล้อง 2 ตัว มีกล้อง 36 ตัว, ในจินหลิง และวิบวับ มีเซิร์ฟเวอร์ 2 ตัว มีกล้อง 20 ตัว แต่เมื่อนำพยานหลักฐานส่งอัยการ ช่วงแรกมีการนำเซิร์ฟเวอร์ส่งอัยการ 2 ตัว และกลับมาแก้ไขในภายหลังเหลือเพียงตัวเดียว ซึ่งเป็นของผับจินหลิง แต่กลับไม่มีของผับลีลา โดยผู้ที่ส่งพยานหลักฐานดังกล่าวให้อัยการ คือ รองผู้บังคับการที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาปล่อยรถของผู้ต้องหาไป ซึ่งตอนนี้ตนเองมีไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดอยู่ในมือแล้ว ซึ่งมีภาพจำนวนมากกว่า 1000 ไฟล์


ส่วนเรื่องการสอบพยานที่ตำรวจอ้างว่า มีพยาน 10 ปาก ซึ่งอยู่ในผับดังกล่าว แต่นายชูวิทย์ อ้างว่าตนเองมีข้อมูลว่าภายในผับดังกล่าวมีพนักงานอยู่ภายในร้านจำนวนมากกว่า 50 คน แต่กลับไม่เคยมีการเรียกพนักงานคนอื่นๆ ไปสอบปากคำ

พร้อมเปิดตัวละครใหม่เป็นหญิงคนหนึ่ง โดยมีภาพวงจรปิดขณะเจ้าตัวเดินทางมาที่ สน.ยานนาวา อ้างว่าเป็นภาพนำถุงขนมเงินสดมาให้รองผู้บังคับการ ซึ่งขณะนั้นทำหน้าที่รักษาราชการแทนผู้กำกับการ สน.ยานนาวา เพื่อให้ปล่อยรถบางคันออกไป หญิงรายนี้ยังไม่ถูกเรียกไปสอบปากคำเป็นพยานหรือผู้ต้องหาในคดีของรองผู้บังคับการนายดังกล่าว จนเจ้าตัวหลบหนีไป

ในการแถลงข่าวนายชูวิทย์ เปิดตัวผู้รับเหมาคนหนึ่ง (มีแต่เสียง) ซึ่งปรากฏในคลิปที่นายตู้ห่าว พูดจาข่มขู่เกี่ยวกับอำนาจมืดและปืน โดยผู้รับเหมาคนดังกล่าวยืนยันว่า เห็นนายตู้ห่าว และพวกขนเงินสดครั้งละ 30 ล้านบาท จากผับจินหลิงไปให้กลุ่มบุคคลอื่น


ทั้งนี้ นำกลุ่มผู้รับเหมาอีก 7 คน ซึ่งเป็นผู้รับเหมาตามอาคารสถานที่ในเครือข่ายของนายตู้ห่าว และพวกทั่วประเทศ โดยในระหว่างการก่อสร้าง นายตู้ห่าว เร่งรัดให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามสัญญา และมีการใช้คำพูดข่มขู่ แต่เมื่อเสร็จงานแล้วกลับไม่ให้เงินส่วนที่เหลือตามสัญญา บางรายสูงถึง 36 ล้านบาท รวมมูลค่าแล้วมากกว่า 100 ล้านบาท

นางสาวเจี๊ยบ ผู้รับเหมาในเครือข่ายของนายตู้ห่าว ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและลาดกระบัง ติดเงินอยู่ 8 ล้านกว่าบาท ยืนยันว่าขณะนี้ทุกคนได้รับความเดือดร้อนจากเงินที่นายตู้ห่าว และพวก ไม่ยอมจ่าย จนทำให้เป็นปัญหาหนี้สินเดือดร้อนกันทุกคน อีกครั้งในวันที่เข้าไปขอความช่วยเหลือที่สโมสรตำรวจ ตำรวจก็ไม่ได้ให้การช่วยเหลือใดๆ จนต้องมาขอให้นายชูวิทย์ ช่วยเหลือ

ทั้งนี้ มองว่าคดีดังกล่าวผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกว่า ทำคดีดังกล่าวเอง แต่กลับไม่เคยลงพื้นที่ไปที่ผับดังกล่าว ยังเชื่อว่าไม่ได้เป็นคนดูแลสำนวนเอง รวมไปถึงอัยการในคดีดังกล่าว จึงทำให้ไม่ทราบแผนผังและรูปแบบห้องต่างๆ ภายในผับดังกล่าว รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ในคดี จึงเกรงว่าจะไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ทั้งหมดครบรอบด้าน

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ต้องการให้นำข้อมูลที่ตนมีทั้งหมดไปอภิปรายไม่ไว้วางใจที่สภาฯ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบในข้อมูลดังกล่าวพร้อมกับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง แต่ยืนยันจะไม่รับเป็นนักการเมือง หรือคณะกรรมาธิการคณะใดๆ

ทั้งนี้ เมื่อมีการสอบถามว่า หากสามารถให้คะแนนการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ได้ นายชูวิทย์จะให้คะแนนเต็ม 10 แต่ละหน่วยอย่างไร นายชูวิทย์ ให้คะแนนการทำงานของตำรวจนครบาล 0 คะแนน เนื่องจากมีข้อบกพร่องต่างๆ เป็นจำนวนมาก ส่วนอัยการมองว่ายังทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ยังมีความพยายามที่จะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวจึงให้ 5 คะแนน ส่วนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ถึงแม้ในช่วงแรกจะทำงานชักช้า แต่ในภายหลังดำเนินการในหลายเรื่องค่อนข้างรวดเร็ว จึงให้คะแนน 9 คะแนน ส่วน DSI ที่รับเรื่องไปแล้ว และมีการตั้งเป็นคดีพิเศษให้คะแนนหน่วยงานดังกล่าว 9 คะแนนเท่ากัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย