กรุงเทพฯ 22 ธ.ค. – โฆษกศาลยุติธรรมเชื่อ “ประสิทธิ์” หลบหนีมีการเตรียมการมาก่อน พบเสื้อผ้าติดหนวดปลอมตัว ปั๊มกุญแจผี คุม 3 ผู้ต้องสงสัยเค้นสอบ
นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยกรณีนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนชื่อดัง พยายามหลบหนีระหว่างการนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานคดีฉ้อโกงประชาชนหลอกให้ร่วมลงทุนซื้อคูปองทอง, ลงทุนซื้อแพคเกจท่องเที่ยว, ระบบสหกรณ์ออมทรัพย์ มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้าน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ว่า นายประสิทธิ์ ถูกคุมตัวมาที่ศาลเพื่อนัดสอบคำให้การกรณีหลอกลงทุนสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน จำกัด ความเสียหาย 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นคดีใหม่ที่ผู้เสียหายเพิ่งฟ้องเมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.) ซึ่งก่อนหน้านี้นายประสิทธิ์ จำเลยต้องขังอยู่ในเรือนจำคดีอื่น โดยวันนี้ถูกเบิกตัวมาที่ห้องพิจารณาคดี 903 ชั้น 9 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งจำเลยสวมใส่เครื่องพันธนาการ แต่ระหว่างนั้นจำเลยได้ขอไปเข้าห้องน้ำปวดท้องถ่ายหนัก เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 1 คน จึงพาตัวนายประสิทธิ์ ไปเข้าห้องน้ำ และยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตู
ระหว่างนั้นมีผู้สมรู้ร่วมคิดของนายประสิทธิ์ ในห้องน้ำ ได้ส่งกุญแจไขโซ่ตรวน รวมถึงเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าหุ้มส้น และหนวดปลอม หน้ากากอนามัย ให้กับนายประสิทธิ์ เมื่อนายประสิทธิ์ เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็รีบเดินออกจากห้องน้ำอย่างรวดเร็วตรงไปบันไดกลางทางลงของอาคารศาล โชคดีมีจำเลยคดีอื่นที่เดินเข้าห้องน้ำเช่นกันสังเกตเห็น จึงตะโกนแจ้งเจ้าหน้าที่ศาลที่อยู่บริเวณดังกล่าวให้เข้าจับกุม กระทั่งเจ้าหน้าที่ รปภ.ศาล ติดตามตัวจำเลยได้ที่ชั้น 3 ระหว่างนั้นนายประสิทธิ์ พยายามจะปีนบันไดกระโดดหนีลงมาด้วย จนทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาเล็กน้อย ใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 5 นาที จับกุมตัวนายประสิทธิ์ไว้ได้
เบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของนายประสิทธิ์ จำนวน 3 คน เป็นผู้ใกล้ชิดจำเลย เป็นเลขาฯ ของนายประสิทธิ์ โดยหนึ่งในนั้นเป็นผู้ที่นำเสื้อผ้ามาให้นายประสิทธิ์ ซึ่งตำรวจ สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างการสอบปากคำ เบื้องต้นทราบว่าให้การที่เป็นประโยชน์อยู่บ้าง
ทั้งนี้ เชื่อว่ามีการหลบหนีครั้งนี้มีการวางแผนกันมาเป็นอย่างดี เตรียมอุปกรณ์ปลอมตัว เสื้อผ้า และมีการติดหนวด และยังพบเงิน 1 หมื่นบาท ที่ตัวผู้สมรู้ร่วมคิด ซึ่งจะต้องสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่ากุญแจที่ใช้เป็นการปั๊มกุญแจมาจากกุญแจต้นฉบับหรือไม่ หรือมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ส่วนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่อ้างว่าเฝ้าอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำทราบว่าทางกรมราชทัณฑ์มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว เพราะไม่พบว่ามีการวิ่งตามจับกุมนายประสิทธิ์
เบื้องต้นนายประสิทธิ์ ถือว่าเข้าข่ายความผิดผู้ใดหลบหนีระหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 190 ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดจะเข้าข่ายร่วมกันกระทำความผิด ต้องรับโทษเท่ากัน อย่างไรก็ตาม ทางศาลก็จะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในข้อหาละเมิดอำนาจศาล ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนด้วย
ขณะที่หลังจากนี้ทางศาลจะตรวจสอบและเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นว่ามีช่องโหว่ตรงไหนให้ผู้ต้องหาหลบหนีหรือไม่ แต่ก็ยอมรับว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในห้องน้ำ รวมถึงการตรวจร่างกายญาติที่จะเข้าห้องพิจารณาคดีก็เป็นเรื่องยาก เพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นสิ่งของที่นำมาเพื่อช่วยเหลือนักโทษหลบหนีหรือไม่. -สำนักข่าวไทย