“ชูวิทย์” ให้ปากคำจเรตำรวจฯ ปม ตม.เอี่ยวคดีนายทุนจีนสีเทา

สตช. 13 ธ.ค. – “ชูวิทย์” เข้าให้ปากคำกับจเรตำรวจแห่งชาติ ปมตำรวจ ตม.เอี่ยวคดีนายทุนจีนสีเทา ด้าน ผบ.ตร.กำชับตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน หากพบเจ้าหน้าที่มีเอี่ยวจริง โทษวินัยร้ายแรงสุดไล่ออกจากราชการ


เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (13 ธ.ค.65) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางมาที่สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้าให้ปากคำกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมี พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ รองจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบฯ ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่งตั้งขึ้น

นายชูวิทย์ เปิดเผยว่า ในวันนี้เข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2563-2564 มีข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภาค 4 และ 5 อาจมีความเชื่อมโยงกับมูลนิธิผี สมาคมเถื่อน ในการออกวีซ่านักศึกษาไปกว่า 7,000 คน โดยเฉพาะในจังหวัดขอนแก่น มีมากถึง 3,000 คน และเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมในลักษณะนี้อีกหลายพื้นที่ พร้อมตั้งข้อสังเกตเหตุใดเจ้าหน้าที่ ตม. ถึงไม่สงสัยมูลนิธิผีมีการออกวีซ่าจำนวนมาก รวมถึงกระทรวงมหาดไทย มีการตรวจสอบบ้างหรือไม่


นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังพาดพิงถึงตำรวจตรวจคนเข้าเมืองคนหนึ่ง รับราชการไม่กี่ปี แต่มีรถหรูปอร์เช่ คอนโดฯ อยู่ย่านหลังสวน ทำไมถึงมีทรัพย์สินเหล่านี้ อีกทั้งก่อนมาพบจเรตำรวจแห่งชาติ มีบุคคลติดต่อมาเพื่อขอละเว้นส่งรายชื่อในการตรวจสอบ ซึ่งเรื่องนี้ตนเองมองว่าไม่สามารถละเว้นได้ พร้อมเดินหน้าเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยไม่ละเว้น แม้จะเป็นระดับนายพล หรือเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ตาม ยิ่งต้องให้ตรวจสอบ เพราะเคยให้สัมภาษณ์มาก่อนหน้านี้ว่าจะเอาผิดโดยไม่ละเว้น

สำหรับการสอบปากคำในวันนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จะสอบในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่กระทำผิดทางวินัย อาทิ กลวิธีการขออยู่เมืองไทยระยะยาวของกลุ่มคนจีนที่เดินทางเข้ามาแฝงตัวทำธุรกิจสีเทาในไทย, วิธีการแปลงวีซ่าจากนักท่องเที่ยวผ่านทางมูลนิธิบางแห่ง, มีเจ้าหน้าที่รู้เห็นหรือมีใครเกี่ยวข้องบ้าง รวมถึงมีใครเรียกรับเงินหรือไม่ตามกล่าวอ้าง หากพยานหลักฐานพาดพิงไปถึงใครจะเรียกมาสอบ ไม่เว้นแม้จะเป็นระดับนายพล นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ จะเดินทางลงพื้นที่ ตม.ภาค 4-5 เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน และตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่าเจ้าหน้าที่มีความเกี่ยวข้องจริง โทษทางวินัยร้ายแรงสุดคือไล่ออกจากราชการตำรวจ. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.