กรุงเทพฯ 8 ธ.ค. – ตำรวจ ปอท.จับ 11 ผู้ต้องหา แก๊งบัญชีม้าลวงรักหลอกเหยื่อนักธุรกิจหญิงสิงคโปร์ สูญเงินกว่า 42 ล้านบาท พร้อมเร่งไล่ล่าที่เหลือ
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท) จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 11 คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวตำรวจสอบสวนกลางร่วมมือกับสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ เมื่อปี 2559-2563 มีผู้เสียหายเป็นหญิงสัญชาติอเมริกันประกอบธุรกิจอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ตกเป็นเหยื่อขบวนการหลอกให้รัก หรือ Romance Scam โดยคนร้ายจะสร้างบัญชีผู้ใช้ปลอมในสื่อสังคมออนไลน์เป็นภาพโปรไฟล์ชายหนุ่มชาวต่างชาติหน้าตาดีประกอบอาชีพมั่นคง มีความต้องการจะย้ายมาใช้ชีวิตคู่กับผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายตกหลุมรัก หรือวางใจและมาใช้ชีวิตสร้างอนาคตด้วยกัน จึงโอนเงินให้ตั้งแต่ปี 2559-2563 รวมเป็นเงินกว่า 42 ล้านบาท
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการ ปอท. เปิดเผยว่า แผนประทุษกรรมของกรณีนี้คนร้ายจะเริ่มหลอกใช้กลอุบายว่ามีความเดือดร้อนในครอบครัว จึงขอยืมเงินไปแก้ปัญหา ซึ่งผู้เสียหายด้วยความรัก จึงยอมโอนเงินให้ ต่อมาเริ่มรู้ตัวว่าถูกหลอก เพราะคนร้ายเริ่มเอาคลิปภาพลับที่เคยส่งให้กันมาข่มขู่เรียกเงิน จากนั้นผู้เสียหายได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยังสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิขอให้สืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดที่อยู่เบื้องหลังขบวนการดังกล่าว ต่อมาผู้แทนกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิประจำประเทศไทยได้ประสานขอความร่วมมือตำรวจสอบสวนกลางในการสืบสวน เนื่องจากพบเส้นทางการเงินส่วนใหญ่ถูกโอนเข้ามาที่ประเทศไทยก่อนที่จะโอนต่อออกไปยังต่างประเทศ โดยพบมีบัญชีธนาคารในไทยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 22 บัญชี พบความเชื่อมโยงไปถึงผู้รับจ้างเปิดบัญชีในลักษณะเป็นบัญชีม้า เป็นคนไทยในหลายจังหวัด เช่น สงขลา ระยอง ลำปาง ทั้งหมด 21 คน กระทั่งเมื่อวานนี้ตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 11 คน ยังเหลือที่อยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีอีก 10 คน เบื้องต้นผู้ต้องหาบางคนรับสารภาพว่ามีส่วนรู้เห็นกับขบวนการ Romance Scam โดยเคยเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อพูดคุยกับมิจฉาชีพที่อยู่เบื้องหลังขบวนการหลอกลวงครั้งนี้ ซึ่งเป็นชายชาวไนจีเรีย.-สำนักข่าวไทย