ตร.ไซเบอร์ ส่งมอบสำนวนคดีหลอกลงทุนคริปโทให้ดีเอสไอ

กรุงเทพฯ 28 พ.ย.- ตำรวจไซเบอร์ส่งมอบสำนวนคดีหลอกลงทุนเทรดคริปโท-ขุดเหมืองบิตคอยน์ ให้ดีเอสไอ พร้อมของกลางรถหรูหลายคัน หลังดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ โดยคดีนี้มีผู้เสียหายกว่า 700 คน ความเสียหายเกือบ 1,000 ล้านบาท ออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน


ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ นำสำนวนการสอบสวนมามอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมี พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เป็นผู้ส่งมอบสำนวน และมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เป็นผู้รับมอบสำนวน

ในการรับมอบสำนวน ยังมีการส่งมอบของกลางที่ตรวจยึดได้ เช่น รถยนต์ยี่ห้อ Bentley สีดำ รุ่น Bentayga จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อ LAMBORGHINI สีเหลือง รุ่น HURACAN LP610-4 COUPE จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อ FERRARI สีแดง รุ่น 488 SPIDER จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อ PORSCHE รุ่น BOXSTER 718 สีเทา จำนวน 1 คัน และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ


พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นกรณีประชาชนถูกหลอกลวงให้ลงทุนซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลและทำเหมืองขุดบิตคอยน์ โดยผู้เสียหายจำนวนมากร้องทุกข์ทั้งต่อดีเอสไอ และตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กระทั่งต่อมาดีเอสไอรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษที่ 290/2565 จึงมีหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีเรื่องดังกล่าวมายังพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 กล่าวว่า มีผู้เสียหายร้องเรียนกับตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 721 คน ความเสียหายเกือบ 1,000 ล้านบาท สอบปากคำแล้วส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือจะส่งดีเอสไอสอบปากคำต่อ มีการออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน แต่หนีไปกบดานประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้ขอออกหมายแดงแล้ว ส่วนการอายัดทรัพย์สิน มีการอายัดบัญชีธนาคาร 17 บัญชี ยอดรวมประมาณ 112 ล้านบาท อายัดเหรียญคริปโท บิตคอยน์ จำนวน 40 บิทคอยน์ มูลค่าประมาณ 22 ล้านบาท ยึดรถยนต์ 8 คัน เป็นรถหรู 5 คัน รวมรถยนต์และจักรยานยนต์ที่ยึดมูลค่าราว 100 กว่าล้านบาท ซึ่งก็จะส่งให้ดีเอสไอดำเนินการต่อไป

ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ดีเอสไอ กล่าวว่า จะเห็นว่าเครื่องขุดบิตคอยน์ที่ผู้ต้องหานำมาโชว์ เป็นเครื่องที่ไม่ได้เปิดใช้งานจริง ถือเป็นการหลอกลวงชักชวนผู้เสียหายที่ชัดเจน อีกทั้งของกลางรถหรู มีบางคันใช้กระทำผิด คือ ลัมโบร์กินี และเฟอร์รารี่ เอามาโชว์ว่าถ้าลงทุนแล้วจะได้ผลตอบแทนเป็นจำนวนมาก ส่วนทรัพย์สินอื่นจะแยกส่ง ปปง. เพื่อนเยียวยาผู้เสียหายได้เร็ว และได้มากที่สุด


ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของผู้เสียหายที่เหลืออีกกว่า 400 ราย ที่ตำรวจจะส่งให้ดีเอสไอสอบปากคำ จะเปิดคิวอาร์โค้ด 1 ธันวาคม 65-31 มกราคม 66 เพื่อให้ผู้เสียหายลงทะเบียน จะแยกสอบสวนไม่ซ้ำซ้อนกัน เพราะผู้เสียหายจำนวนมากเคยร้องเรียนไว้ที่ดีเอสไอภาค 5

สำหรับข้อหากระทำผิดในคดีนี้ มี 3 ข้อหา คือ กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน, ฉ้อโกงประชาชน, และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมนครศรีฯ

น้ำท่วมนครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลาย

สถานการณ์น้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลาย ไม่มีฝนตกลงมาเติม ทำให้ระดับน้ำลดลงในหลายจุด ถนนสายหลักกลับมาเปิดให้รถสัญจรได้แล้ว

ตร.ค้นบ้านหรูย่านราชพฤกษ์ เปิดบริษัท เบื้องหลังฟอกเงินเว็บพนัน

ตำรวจไซเบอร์เข้าค้นบ้านพักหรูย่านราชพฤกษ์ พบมีการเปิดเป็นบริษัทอำพราง เบื้องหลังใช้ฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์

ข่าวแนะนำ

ชุมชนเทือกเขาหลวงเสียหายหนัก วอนเร่งช่วยด่วน

หลายพื้นที่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังคงเดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งใหญ่ โดยเฉพาะชุมชนบริเวณเทือกเขาหลวง เสียหายหนักจากน้ำป่า ชาวบ้านวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยด่วน

ขวัญใจสวนเสือพัทยา “สุดเขต” ลูกเสือโคร่งสีทองหน้าแบ๊ว

น้องสุดเขต เสือโคร่งสีทองหนึ่งเดียวในภาคตะวันออก กลายเป็นขวัญใจดวงใหม่ “หน้าแบ๊ว ขี้เล่น” อายุเพียง 11 เดือน

ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ “หมู่อาร์ม” ถูกรถขนต่างด้าวชนดับ

สุดสะเทือนใจ นำร่าง “หมู่อาร์ม” ผบ.หมู่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ถูกรถกระบะขนแรงงานต่างด้าวแหกด่านพุ่งชนเสียชีวิต กลับมาบำเพ็ญกุศล ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ