กรุงเทพฯ 16 พ.ย.-โฆษก ตร.แจงเหตุควบคุมตัวนักศึกษา 3 คน พร้อมตรวจค้นเป้าหมาย ขยายผลสอบสวน หลังการข่าวแจ้งว่าอาจก่อความวุ่นวายระหว่างประชุมเอเปค ส่วนเป้ที่พบที่ศูนย์สิริกิติ์ เป็นของนักข่าวต่างประเทศวางลืมไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ทางสมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย (MUSTFETH) ระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตำรวจนครบาล หัวหมาก เข้าควบคุมตัว 3 นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงที่ห้องพัก โดยให้เหตุผลว่านักศึกษาทั้ง 3 อาจก่อความวุ่นวายระหว่างการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก 2022 หรือ APEC 2022 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การควบคุมตัวครั้งนี้เกิดจากการข่าวที่เชื่อได้ว่ากลุ่มนักศึกษาอาจก่อเหตุความวุ่นวายระหว่างการประชุมเอเปค 2022 ตำรวจจึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายควบคุมตัวเพื่อป้องกันการเกิดเหตุไว้ก่อนขั้นต้น และกำลังตรวจค้นเป้าหมายที่ต้องสงสัยว่ามีความเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนในรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใด ๆ
ส่วนการบริหารมาตรการรักษาความปลอดภัยในกรณีมีการกิจกรรมชุมนุม โฆษกตร. กล่าวว่า สามารถทำได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ห้ามเข้าในพื้นที่ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำหนดพื้นที่ห้ามชุมนุม โดยรอบศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และที่พักผู้แทนประเทศที่โรงแรม 19 แห่ง ระหว่างวันที่ 14 – 19 พฤศจิกายนนี้
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้าที่บริเวณลานคนเมืองศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(เสาชิงช้า) ช่วงเย็นวันนี้(16 พ.ย.) พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า ตำรวจไม่กังวล แต่การชุมนุมพรุ่งนี้(17 พ.ย.) ที่มีลักษณะดาวกระจายและอาจเคลื่อนขบวนไปที่ศูนย์ การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตามหลักการเจ้าหน้าที่ต้องควบคุม และไม่อนุญาตให้เข้าในพื้นที่ตามประกาศฯ หากฝ่าฝืน จะต้องบังคับใช้กฎหมาย ตำรวจมีแผนรองรับสำหรับทุกสถานการณ์ หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นโดยบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญ
โฆษกตร. กล่าวว่า กรณีช่วงเช้าที่ผ่านมา(16 พ.ย.) เจ้าหน้าที่พบกระเป๋าเป้วางไว้ในศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์บริเวณหน้าห้องจัดประชุม ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นของผู้สื่อข่าวต่างประเทศสำนักหนึ่งวางลืมไว้ ไม่ใช่วัตถุอันตราย ทั้งนี้ ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้รับแจ้งวัสดุต้องสงสัยในหลายพื้นที่ แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นวัตถุที่มีบุคคลลืมทิ้งไว้ ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้สะท้อนให้เห็นถึงมาตรการที่เข้มงวดของเจ้าหน้าที่.-สำนักข่าวไทย