สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 14 พ.ย.-ศูนย์กองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจร เตรียมพร้อมทั้งด้านการดูแลความปลอดภัยผู้นำ การอำนวยความสะดวกจราจรช่วงจัดประชุมเอเปค ประชุมประเมินสถานการณ์ทุกวัน
พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) แถลงผลการประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจร เพื่อเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม และเปิด ศูนย์กองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจร การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 ระหว่างวันที่ 14 -20 พฤศจิกายน 2565 โดยพล.ต.ต. อาชยน กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรกำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมการปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมาย และร่วมกันปฏิบัติงานตามแผนของกองอำนวยการร่วมฯ รวมทั้งติดตาม กำกับดูแลการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยการประชุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดความปลอดภัยสูงสุด ทั้งนี้ กอ.ร่วมจะประชุมติดตามสถานการณ์ทุกวันเวลา 09.00 น. ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลความปลอดภัยและการจราจร
“ด้านการบริหารจัดการดูแลการชุมนุม นายกรัฐมนตรีประกาศพื้นที่ห้ามชุมนุมที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โรงแรมที่พักทั้ง 19 แห่ง สถานที่จัดงานเลี้ยงรับรองผู้นำ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำงานได้สะดวกตลอดช่วงการประชุม โดยกำชับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงทุกฝ่าย แม้การชุมนุมจะเป็นสิทธิที่กระทำได้ตามกฎหมาย แต่ต้องไม่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ตลอดจนสุขอนามัยของประชาชน หรือความสะดวกของประชาชนที่จะใช้พื้นที่สาธารณะ ต้องไม่กระทบกระเทือนสิทธิคนอื่น ผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายทุกรายและมีโทษหนักถึงจำคุก เราจะยอมให้ใครมาสร้างความเสียหายให้กับประเทศไม่ได้เด็ดขาด พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามยุทธวิธี เป็นขั้นเป็นตอนตามระดับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น” โฆษกตำรวจ กล่าว
พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า หากต้องการยื่นข้อเรียกร้องหรือแสดงความคิดเห็นต่างๆ กระทรวงการต่างประเทศได้จัดสถานที่สำหรับการยื่นหนังสือไว้แล้ว ที่กระทรวงการต่างประเทศและกรมการกงสุลที่ถนนแจ้งวัฒนะ รวมทั้งการขอให้ใช้สิทธิในการชุมนุม ให้ไปยื่นขอตามสถานที่ที่จัดไว้ให้ หากจะชุมนุมต้องขออนุญาตก่อน
โฆษกตำรวจ กล่าวว่า ส่วนการรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าประจำการในพื้นที่ตั้งแต่วันนี้(14 พ.ย) โดยระดมกำลังตำรวจ ทั้งประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 35,000 นาย เพื่อดูแลในส่วนของผู้นำ สถานที่พัก ที่ประชุม ที่จัดงานเลี้ยงรับรองและเส้นทางจราจรทุกสายที่ขบวนรถผู้นำผ่าน รวมทั้งระดมชุดปฏิบัติการพิเศษ สายตรวจรถยนต์จากตำรวจภูธรภาค 1,2 และ 7 เข้ามาช่วยในพื้นที่ กทม. เพื่อเฝ้าระวังเหตุและป้องกัน ปราบปรามอาชญากรรม ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ครอบคลุม 29 จุด และพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งจัดกำลังเฝ้าระวังบุคคลเป้าหมายที่อาจเคลื่อนไหวและบุคคลตามหมายจับทุกราย หากละเมิดกฎหมายจะดำเนินคดีทันที
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) กล่าวว่า ด้านการจราจรที่อาจส่งผลกระทบกับประชาชนในช่วงการประชุม เนื่องจากจะต้องปิดถนนรัชดาภิเษก ช่วงหน้าหอประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (แยกอโศกมนตรี-แยกพระรามสี่) และถนนดวงพิทักษ์ รวมถึงสถานี MRT ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในวันที่ 16-19 พ.ย.65 อย่างไรก็ตาม ไม่มีความกังวล เนื่องจากในห้วงดังกล่าวรัฐบาลประกาศเป็นวันหยุดราชการ และจัดให้มีรถรับส่ง shuttle bus จำนวน 6 คัน คาดว่าเพียงพอสำหรับรับส่งประชาชนที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว
“ส่วนมาตรการอำนวยความสะดวกพิธีการคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เต็มทุกช่องตรวจ ช่องตรวจอัตโนมัติ (Auto Chanel) และจัดชุดช่วยเหลือประชาชน นักท่องเที่ยว แนะนำช่วยเหลือในเรื่องพิธีการคนเข้าเมือง ระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาจำนวนมาก” รองผบช.น. กล่าว.-สำนักข่าวไทย