จับนายหน้าเครือข่ายค้ามนุษย์โรฮีนจา

กรุงเทพฯ 1 พ.ย. – ตำรวจ ปคม.จับนายหน้าค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี หลังหนีมากลบดานในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ


กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ร่วมกันจับกุม น.ส.ศศิธร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 397/2558 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2558 ในความผิดฐาน “สมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป กระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและเรียกค่าไถ่” และหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 420/2558 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2558 ในความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน” โดยจับกุมได้บริเวณริมถนนแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

เหตุการณ์ที่มีการนำพาชาวโรฮีนจาเกิดขึ้นเมื่อปี 2555 ต่อมาปี 2558 มีการพบศพ และหลุมฝังศพที่เทือกเขาแก้ว
หมู่ที่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา จนมีการสืบสวนขยายผลจับกุม พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีของศาล โดยศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษ พล.ท.มนัส 82 ปี แต่เมื่อคดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา พล.ท.มนัส เสียชีวิตในเรือนจำระหว่างรอการพิจารณาของศาลฎีกา


โดยพฤติการณ์ของ น.ส.ศศิธร เกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ โดยเป็นกลุ่มนายหน้าจัดหาคนต่างด้าวโรฮีนจา รวมถึงมีการรับโอนเงินผลประโยชน์จากเครือข่ายของผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์จำนวนหลายครั้ง จึงเป็นผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการตัวมา เพื่อดำเนินคดีมากที่สุดคนหนึ่ง ต่อมาทางสืบสวนทราบว่า น.ส.ศศิธร ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ในฐานความผิดสมคบกันค้ามนุษย์ฯ นั้น ได้หลบหนีมาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 31 ต.ค.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ได้จับกุม น.ส.ศศิธร ได้ที่บริเวณริมถนนแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เมื่อเข้าทำการตรวจสอบปรากฏพบว่าบุคคลตามตามหมายจับ รับว่าตนเองคือบุคคลตามหมายจับดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงจับกุมตัวผู้ต้องหาไปยัง สภ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่อจัดทำบันทึกจับกุม แล้วนำตัวส่งคณะพนักงานสอบสวนคดีโรฮีนจา ตามที่อัยการสูงสุดแต่งตั้งขึ้น ซึ่งคดีนี้มีการโอนคดีจากศาลจังหวัดนาทวีมาพิจารณายังศาลอาญา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้น น.ส.ศศิธร ให้การปฏิเสธในชั้นจับกุม โดยขอใช้สิทธิไปให้การในชั้นพิจารณาคดีของศาล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ