รมว.ยธ.สั่งราชทัณฑ์ตรวจสอบเพิ่มปม “ครรชิต” อดีต ส.ส. พ้นโทษ

กรุงเทพฯ 19 ต.ค.- รมว.ยุติธรรม สั่งกรมราชทัณฑ์ตรวจสอบการพ้นโทษของ “ครรชิต” อดีต ส.ส. ซึ่งต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต ไม่พบความผิดปกติในการได้เลื่อนชั้นนักโทษ แต่ให้ตรวจสอบเพิ่มว่าคำนวณวันลดโทษผิดหรือไม่ ตอนนี้ถือว่าอยู่ในกลุ่ม Watch List 1 ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ


ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แถลงข่าว “ทุกครอบครัวและสังคมต้องปลอดภัยด้วยกฎหมาย JSOC” เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. …. หรือ JSOC ซึ่งอยู่ระหว่างการประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมาย ในการดูแลกลุ่มบุคคลอันตราย สร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในสังคม

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุมประพฤติ เสนอพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ 3 กลุ่ม คือ ความผิดเกี่ยวกับเพศ เช่น ข่มขืนกระทำชำเรา ข่มขืนเด็ก อนาจาร, ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย เช่น ฆ่าคนตาย ทำร้ายร่างกายจนอันตรายสาหัส, ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ เช่น เรียกค่าไถ่


หลังกฎหมายนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะมีการบำบัดฟื้นฟูผู้กระทำผิดในเรือนจำตามกฎหมาย โดยผู้ที่มีความรู้ นักจิตวิทยา เมื่อพ้นโทษแล้ว ต้องถูกติดกำไลอีเอ็ม 10 ปี เป็นขั้นสูงสุด ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการที่มีรองปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ที่จะลงรายละเอียดว่าจะติดกำไลอีเอ็มคนที่พ้นโทษกี่ปีเป็นรายๆ ไป

รมว.ยุติธรรม อธิบายกลุ่มวอทช์ลิสต์ 3 กลุ่มผู้กระทำผิดที่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายนี้ว่า วอทช์ลิสต์ 1 คือคนที่ออกจากเรือนจำไป แต่กฎหมายนี้ยังไม่บังคับใช้ จะไม่สามารถนำกฎหมายนี้ไปบังคับใช้ได้ ให้กรมประพฤติติดตามดูเท่าที่ทำได้ ซึ่งมีประมาณ 100 กว่าคน ส่วนใหญ่เป็นผู้กระทำผิดคดีทางเพศ ย้อนหลัง 3 ปี, วอทช์ลิสต์ 2 คือคนที่จะออกจากเรือนจำ เมื่อมีกฎหมายใช้แล้ว จะถูกจัดเป็นวอทช์ลิสต์ 2 และวอทช์ลิสต์ 3 คนที่กำลังจะเข้าเรือนจำใหม่ กำลังจะถูกพิพากษา ต้องทำเรื่องต่อศาลเพื่อขอให้เฝ้าระวังตามกฎหมายฉบับนี้

นายสมศักดิ์ กล่าวยกตัวอย่างนายครรชิต ทับสุวรรณ อดีต ส.ส. ซึ่งต้องโทษศาลฎีกาจำคุกตลอดชีวิตในคดีใช้อาวุธปืนยิงนายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ อดีตนายก อบจ.สมุทรสาคร และเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำว่า นายครรชิต ถูกปล่อยตัวไปแล้ว เป็นช่วงที่กฎหมายป้องกันการกระทำความผิดซ้ำยังไม่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา นายครรชิต จึงอยู่ในวอทช์ลิสต์ 1 ซึ่งกฎหมายอย่างไปไม่ถึง ต้องเฝ้าระวังติดตาม แต่ติดกำไล EM ไม่ได้ ตอนนี้ได้ให้กรมราชทัณฑ์ตรวจสอบ ซึ่งในขั้นตอนที่นายครรชิต ได้ชั้นนักโทษต่างๆ ไม่พบจุดที่เป็นความผิด จึงขอให้กรมราชทัณฑ์ตั้งกรรมการตรวจสอบเชิงลึก สมมุติว่าตรวจสอบแล้วพบว่าคิดหรือคำนวณผิดไปสัก 3 เดือนหรือ 6 เดือน นายครรชิต ก็จะต้องถูกเรียกมาจองจำเพิ่มเติม และถ้ากฎหมายป้องกันการกระทำความผิดซ้ำออกมาประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา นายครรชิตก็จะต้องถูกใส่กำไล EM ไปอีก 10 ปี เป็นการเฝ้าระวัง โดยให้เวลาตรวจสอบ 1-2 สัปดาห์


ขณะที่นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรณีของนายครรชิต ปล่อยตัวไปแล้ว เพราะได้ดำเนินการตามกฎหมาย กรมราชทัณฑ์จึงปล่อยตัวไป แต่ยังต้องเฝ้าระวัง ซึ่งกรณีที่มีความสับสนเรื่องการพ้นโทษออกไปของคนในสังคม ตอนนี้กำลังมีการตรวจสอบตามที่รัฐมนตรีสั่งการ

ขณะที่ พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำความผิดซ้ำว่า เกิดจากคดีที่นายสมคิด พุ่มพวง ออกจากเรือนจำแล้วไปทำความผิดซ้ำ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงให้คิดวิธีที่จะป้กงกันการทำผิดซ้ำ แรกๆ ใช้เป็นระบบเชิงสร้างสรรค์ โดยการประสานงานกับตำรวจพื้นที่ ฝ่ายปกครองในพื้นที่ ให้ติดตามผู้พ้นโทษในกลุ่ม 3 คดีเฝ้าระวัง แต่ตามดูได้บ้างไม่ได้บ้าง ทำได้ไม่เต็มที่ จึงต้องออกกฎหมาย เพื่อป้องกันการทำผิดซ้ำในคดีฆ่า คดีทางเพศที่โหดร้ายทารุณ และคดีเรียกค่าไถ่ มีการไปดูตัวอย่างจากต่างประเทศ เช่น สหรัฐ เยอรมนี อังกฤษ ออสเตรเลีย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”