กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ตำรวจส่ง “จ.ส.อ.” ยิงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 คน ตรวจประเมินสภาพจิตที่โรงพยาบาล ก่อนส่งฝากขังศาลทหาร
ความคืบหน้าคดี จ.ส.อ.ยงยุทธ ก่อเหตุยิงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 คน เหตุเกิดภาย ในกรมยุทธศึกษาทหารบก ถนนเทอดดำริ เขตดุสิต เมื่อเช้าวานนี้ ล่าสุด ที่ สน.ดุสิต เมื่อเวลา 09.00 น. พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถควบคุมออกไปจาก สน.ดุสิต ซึ่งคาดว่า อาจมีการพาไปตรวจร่างกาย และประเมินสภาพจิต ที่โรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าผ่านไป 20 นาที มีการนำตัวกลับเข้ามาที่ สน.ดุสิต จึงไม่แน่ชัดว่ามีการนำตัวออกไปตรวจร่างกาย และตรวจประเมินสภาพจิตที่โรงพยาบาลหรือไม่

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่าเบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุยังให้การวกวน ไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และสภาพจิตใจ ยังไม่อยู่ในสภาพที่จะรับทราบข้อหาได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนยังมีเวลาอีก 1 วัน ในการสอบปากคำ ซึ่งวันนี้จะประสานกับแพทย์ รพ.วชิระ ส่งผู้ก่อเหตุ ไปตรวจประเมินสภาพร่างกาย และสภาพจิต เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีประวัติรักษาอาการทางสมองที่โรงพยาบาลดังกล่าว ตั้งแต่ปี 59 เพื่อนำผลมาประกอบสำนวน ทั้งนี้หากกระบวนการแล้วเสร็จจะนำตัวส่งฝากขังที่ศาลทหาร คาดว่าเร็วสุดในช่วงบ่ายนี้ และอย่างช้าสุดในเช้าวันพรุ่งนี้ ส่วนของความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้มีการสอบปากคำพยานในคดีนี้ไปแล้ว 10 ปาก ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้
ยืนยันคดีนี้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีเหมือนกับคดีทั่วไป ๆ ตำรวจยังมีอำนาจในการสอบสวน และควบคุมตัวได้ไม่เกิน 48 ชม. แต่ผู้ก่อเหตุเป็นทหาร จึงมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นมา เช่น การสอบสวนจะต้องสอบสวนร่วมกับนายทหารพระธรรมนูญ การนำตัวส่งฝากขัง ต้องส่งที่ศาลทหาร
ทั้งนี้ คดีดังกล่าว เข้าข่ายความผิดใน 4 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะ
ส่วนร่างของ จ.ส.อ.นพรัตน์ อินทสุนทร และ จ.ส.อ.ประการ สินส่ง ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งอยู่ที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล และโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ญาติจะไปรับศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดแก้วฟ้า จุฬามณี ย่านเกียกกาย ในช่วงบ่ายวันนี้. -สำนักข่าวไทย