กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – ตำรวจเร่งสืบสวนจับกุมนักศึกษาปทุมวัน-อุเทนถวาย ก่อเหตุยกพวกตะลุมบอน ทำให้บาดเจ็บทั้งสาหัสและเล็กน้อย ที่สนามศุภชลาศัย ล่าสุด ผบช.น.เชิญตัวแทน 2 สถาบัน แก้ปัญหาระยะยาว
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเย็นวานนี้ กลุ่มวัยรุ่นต่างสถาบันใช้ลานอเนกประสงค์หน้าอาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติสนามศุภชลาศัย โดยกลุ่มนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันประมาณ 60 คน วิ่งจากสถาบันมุ่งหน้าลานเอนกประสงค์หน้าอาคารนิมิบุตร มาเจอกับนักศึกษาสถาบันเทคโนโลนีราชมงคล วิทยาเขตอุเทนถวายประมาณ 50 คน ที่วิ่งลงมาจากลานใบบัวสกายวอล์กปทุมวัน ทันทีที่ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้าต่างตะโกนด่าทอและท้าทายกัน ก่อนยกพวกเข้าตะลุมบอนทำร้ายร่างกายกันอย่างชุลมุน แม้แต่ตำรวจที่เข้าระงับเหตุยังไม่สามารถต้านทานแรงปะทะของทั้งสองฝ่ายได้ หลังก่อเหตุจนหนำใจทั้งสองฝ่ายต่างแยกย้ายกันหลบหนีกลับเข้าสถาบัน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยลงพื้นที่เกิดเหตุ พบมีนักศึกษาอุเทนถวาย 2 คน ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าและลำตัว จึงเข้าปฐมพยาบาลก่อนส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล และพบมีดพกตกอยู่ 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน มีรายงานว่าก่อนหน้านี้ 1 วัน (24 ส.ค.) นักศึกษาทั้ง 2 สถาบันได้ยกพวกตีกันมาแล้วรอบหนึ่ง แต่ตำรวจ สน.ปทุมวัน เข้าระงับเหตุได้ทัน จึงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด คาดเมื่อวานนี้นักศึกษาทั้ง 2 สถาบัน เผชิญหน้ากันอีกครั้งหลังเลิกเรียน และทะเลาะวิวาทกันมาตั้งแต่บนสกายวอล์คก่อนจะไล่ตีกันมาถึงด้านล่างหน้าลานอเนกประสงค์หน้าอาคารนิมิบุตร จนเป็นเหตุตะลุมบอนดังกล่าว ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งข้ามแดนเข้ามาในเขตเซฟโซนที่เคยตกลงไว้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองจเรตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมนักศึกษาที่ก่อเหตุทั้ง 2 สถาบันมาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด
ล่าสุด พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณาจารย์จากทั้ง 2 สถาบันเดินทางไปที่ สน.ปทุมวัน ท้องที่เกิดหตุ เพื่อประชุมหาแนวทางการป้องกันและแก้ปัญหานักเรียน นักศึกษายกพวกทำร้าย กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวน ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
มีรายงานว่าเมื่อคืนที่ผ่านมากำลังตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปรามของ สน.ปทุมวัน เข้าปิดล้อมตรวจค้นสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตอุเทนถวาย ตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันปราบปรามเหตุ เพื่อตรวจค้นและตรวจยึดสิ่งของผิดกฎหมาย แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือนักศึกษาอยู่ภายในสถาบันแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย