เปิดไทม์ไลน์ “โรฮีนจา” ติดโควิด ซ่อนตัวในชุมชนย่านดอนเมือง

กรุงเทพฯ 6 ม.ค. – สำนักข่าวไทยตรวจสอบเส้นทางลักลอบเข้ามาใจกลางเมืองของกลุ่มชาวโรฮิงญา 19 คน ซึ่ง 7 คน ติดเชื้อโควิด-19 พบว่ามีการแบ่งเดินทางมา 2 ลอต โดยสารมาในรถยนต์ดัดแปลงสภาพ เพื่อเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่


รายงานข่าวจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่าชาวโรฮีนจา 19 คน ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก มีต้นทางมาจากรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา โดยชุดแรกลักลอบเดินทางเข้ามาเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2563 จำนวน 5 คน จากนั้นต่อมาวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ทยอยเดินทางเข้ามาอีก 14 คน และพากันมากบดานอยู่ในชุมชนย่านดอนเมือง โดยตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรับแจ้งจากชาวบ้านในย่านนั้น จึงไปตรวจสอบและจับกุมตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา เมื่อนำไปตรวจคัดกรองหาเชื้อพบว่ามีชาวโรฮิงญาชาย 2 คน และผู้หญิง 5 คน ติดโควิด-19 แต่ไม่แสดงอาการ ตอนนี้จึงแยกไปกักตัวเพื่อรักษา ส่วนพวกที่ตรวจไม่พบเชื้อจะต้องตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ เบื้องต้นควบคุมไว้ที่ห้องกักกันโรคบางเขน ก่อนเข้าสู่กระบวนการผลักดันออกนอกประเทศต่อไป

ส่วนการสอบสวนเส้นทางเข้าประเทศมีรายงานระบุว่าทั้งหมดน่าจะเข้ามาประเทศไทยโดยใช้เส้นทางผ่านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จากนั้นมาขึ้นรถยนต์ดัดแปลงสภาพเพื่อซุกซ่อนเข้ามายังพื้นที่ชั้นใน เชื่อว่าปลายทางแรงงานกลุ่มนี้น่าจะไปยังประเทศเพื่อนบ้านทางภาคใต้


ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดขณะนี้มีต้นตอของเชื้อมาจากคนต่างด้าว กรณีชาวโรฮีนจาทั้ง 19 คน ชาวบ้านย่านดอนเมืองแจ้งเบาะแสไปยังตำรวจในพื้นที่แต่แรกแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ จึงแจ้งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาจับกุมทั้งหมดไปดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา

ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบไทม์ไลน์แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาภายในประเทศ และแพร่เชื้อโควิด-19 ที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ว่า ขณะนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบว่าเป็นการปล่อยปละละเลยของตำรวจท้องที่ หรือตำรวจตรวจคนเข้าเมือง โดยจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมยืนยันหากพบความผิดจะดำเนินการทางวินัยทันที คาดว่าจะทราบผลใน 1-2 วันนี้ รวมถึงจะต้องตรวจสอบไทม์ไลน์การเดินทางเข้ามาภายในประเทศว่าแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ชั้นในได้อย่างไร โดยมีพวกนายหน้าหรือขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวนำพามาหรือไม่

ล่าสุด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุชาวต่างด้าวทั้งเมียนมา และโรฮีนจา ลักลอบเข้าประเทศตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่ โดยจ่ายค่าจ้างให้นายหน้ารายละ 6,000 บาท มีการจับกุมต่อเนื่อง ล่าสุดมีทั้งชาวลาวและเวียดนาม ที่ใช้ไทยเป็นทางผ่านในการกลับประเทศตัวเอง


ขณะที่ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยอมรับช่องทางธรรมชาติด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นจุดอ่อนให้คนต่างด้าวลอบเข้าประเทศ สตม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามร่วมกันบูรณาการกำลังสกัดกั้นเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]