ฝนตกหนักถล่มเมืองในออสเตรเลีย

ซิดนีย์ 22 พ.ค. – ฝนตกหนักถล่มพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียในวันพฤหัสบดี ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และส่งผลให้ทางการต้องออกคำสั่งให้ประชาชนอพยพออกจากบ้านเรือนไปยังสถานที่ปลอดภัย ในขณะเดียวกันประชาชน 50,000 คน ได้รับคำเตือนให้เตรียมตัวรับสถานการณ์ที่พวกเขาอาจจะถูกตัดเส้นทางการติดต่อเนื่องจากคาดว่าจะมีฝนตกเพิ่มเติมในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า เมืองชนบทหลายแห่งในภูมิภาคฮันเตอร์และมิดนอร์ทโคสต์ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของออสเตรเลีย เผชิญกับน้ำท่วมหนัก โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของภูมิภาคมิดนอร์ทโคสต์ ยังคงเผชิญกับฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดวันพฤหัสบดี โรงเรียนมากกว่า 100 แห่ง ต้องหยุดการเรียนการสอนในวันนี้ อาคารและบ้านเรือนหลายพันหลังยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ ตำรวจกล่าวว่าพบศพชายวัย 63 ปี ภายในบ้านที่ถูกน้ำท่วมใกล้กับเมืองทารี ซึ่งอยู่ห่างจากซิดนีย์ไปทางเหนือกว่า 300 กิโลเมตร เมืองชนบทแห่งนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากเหตุน้ำท่วม สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่เกษตรกรรมและบ้านเรือน ถนน และสะพาน เจ้าหน้าที่ระบุว่า ได้รับแจ้งว่ามีชาย 2 คน และหญิง 1 คน สูญหายไปในคนละเหตุการณ์กัน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลีย คาดการณ์ว่าบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักสูงสุดถึง 200 มิลลิเมตร จนถึงวันศุกร์ ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในระดับที่เป็นอันตรายถึงชีวิต ก่อนที่ลักษณะอากาศเช่นนี้จะอ่อนกำลังลง และเคลื่อนตัวลงใต้ไปยังนครซิดนีย์.-813.-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียตั้งเป้าเศรษฐกิจโต 5.2-5.8% ในปี 2026

จาการ์ตา 22 พ.ค. — ศรี มุลยานี อินทราวาตี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินโดนีเซีย เปิดเผยในวันอังคารว่า รัฐบาลอินโดนีเซียกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ ปี 2026 ไว้ที่ร้อยละ 5.2-5.8 เพื่อเป็นรากฐานสู่การเติบโตร้อยละ 8 ในช่วงไม่กี่ปีถัดไป ซึ่งจะสนับสนุนการบรรลุวิสัยทัศน์ “อินโดนีเซียก้าวหน้า 2045” อินทราวาตีกล่าวระหว่างนำเสนอแผนงานเศรษฐกิจมหภาคและแนวนโยบายการคลังประจำปี 2026 ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ 2.5±1 ขณะอัตราแลกเปลี่ยนตามเป้าหมายจะอยู่ที่ 16,500-16,900 รูเปียห์ (ราว 33-34 บาท) ต่อดอลลาร์สหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะ 10 ปี จะอยู่ในช่วงร้อยละ 6.6-7.2 รัฐบาลอินโดนีเซียตั้งเป้าหมายเพิ่มการผลิตน้ำมันอยู่ที่ 6-6.05 แสนบาร์เรลต่อวัน และเพิ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 9.53 แสนถึง 1.017 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยมีการลงทุนและเทคโนโลยีเป็นแรงสนับสนุน รวมถึงขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจผ่านอุตสาหกรรมปลายน้ำจากทรัพยากรธรรมชาติ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการลงทุน และยกระดับคุณภาพทุนมนุษย์.-813.-สำนักข่าวไทย

หลังคา ‘หอกลองเฟิงหยาง’ ในจีนพังถล่ม

ปักกิ่ง 22 พ.ค. – หลังคากระเบื้องของ “หอกลองเฟิงหยาง” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ในมณฑลอานฮุย ประเทศจีน พังถล่มลงมาบางส่วน โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังคากระเบื้องบางส่วนบนหอกลองหมิงจงดู หรือ “หอกลองเฟิงหยาง” (Fengyang Drum Tower) ในเขตเฟิงหยาง ชูโจว มณฑลอานฮุย เกิดหลุดร่วงลงมาจำนวนมาก คลิปวิดีโอที่มีผู้ถ่ายในที่เกิดเหตุ แสดงให้เห็นกระเบื้องหลังคาจำนวนมากร่วงลงมาจากขอบบนของหอกลองอย่างช้า ๆ ในตอนแรก จากนั้นกระเบื้องจำนวนมากก็หล่นลงมาที่ทางเข้าหอจนฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว ท่ามกลางความตกใจของนักท่องเที่ยว เนื่องจากภาพกระเบื้องหลังคาจำนวนมากร่วงลงมาจากยอดหอกลองดูน่ากลัวอย่างมาก โดยหอกลองแห่งนี้เพิ่มจะเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงเมื่อ 1 ปีก่อนเท่านั้น โชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้อพยพนักท่องเที่ยวและผู้คนออกจากที่เกิดเหตุทันทีและปิดกั้นพื้นที่ จากนั้นส่งทีมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสั่งการให้หน่วยงานออกแบบ ก่อสร้าง และควบคุมดูแลโครงการซ่อมแซมลงพื้นที่สืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังเชิญผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเหลือการสอบสวนและตรวจสอบด้วย ขณะที่สำนักงานการท่องเที่ยวเมืองเฟิงหยางประกาศปิดหอกลองชั่วคราวเพื่อซ่อมแซมหลังคา จะประกาศวันเปิดทำการให้ทราบต่อไป สำหรับ “หอกลองเฟิงหยาง” สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1375 ในสมัยราชวงศ์หมิง ส่วนบนของอาคารถูกทำลายในปี 1853 และได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในปี 1995 ทำให้มีเพียงส่วนฐานด้านล่างที่ยังเป็นของเดิมที่มีอายุมากกว่า 600 […]

ลิงลักพาตัวลูกลิงต่างสายพันธุ์

ปานามา 22 พ.ค. – นักวิทยาศาสตร์พบลิงคาปูชินกลุ่มหนึ่งในประเทศปานามามีพฤติกรรมลักพาตัวลูกลิงฮาวเลอร์ ลิงต่างสายพันธุ์ เป็นพฤติกรรมที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในสัตว์ตระกูลไพรเมตที่อาศัยอยู่ในป่า ภาพของลูกลิงฮาวเลอร์ (Howler Monkey) ที่กำลังเกาะหลังลิงตัวผู้ที่มีอายุมากกว่า ดูเหมือนจะไม่ใช่ภาพที่แปลกอะไร แต่มันกลายเป็นเรื่องแปลก เมื่อลิงทั้งสองตัวไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แถมไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกันด้วยซ้ำ นักวิทยาศาสตร์บันทึกภาพนี้ได้จากการตั้งกล้องสังเกตพฤติกรรมของฝูงลิงคาปูชินหน้าขาว (white-faced Capuchin Monkey) บนเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในปานามาระหว่างปี 2022-2023 พบว่า ลิงคาปูชินได้ลักพาตัวลูกลิงฮาวเลอร์มาอย่างน้อย 11 ตัว โซอี โกลด์สโบโรห์ นักนิเวศวิทยาพฤติกรรมจากสถาบันพฤติกรรมสัตว์มักซ์พลังค์ (Max Planck Institute of Animal Behavior) ในเยอรมนี กล่าวว่าเป็นการค้นพบที่น่าตกใจมาก ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนในอาณาจักรสัตว์ จากคลิปจะเห็นลิงคาปูชินเดินและทุบเครื่องมือหินโดยมีลิงฮาวเลอร์ตัวเล็กอยู่บนหลัง แต่กล้องไม่สามารถจับภาพช่วงเวลาของการลักพาตัวได้ เชื่อว่าน่าจะเกิดขึ้นบนต้นไม้ ที่โดยปกติแล้ว แม่ลิงฮาวเลอร์จะอุ้มลูกลิงขณะที่ยังกินนมอยู่ ลูกลิงฮาวเลอร์ทั้งหมดในวิดีโอ มีอายุตั้งแต่ไม่กี่สัปดาห์ไปจนถึงไม่กี่เดือน เล็กเกินกว่าจะหย่านม นักวิทยาศาสตร์พบด้วยว่า ลูกลิงฮาวเลอร์เกือบทั้งหมดที่ถูกลักพาตัวมาจะตายที่สุดเนื่องจากอดอาหารและนม แม้ลิงคาปูชินจะไม่ได้ทำอันตรายลูกลิงฮาวเลอร์ที่ลักพาตัวมาก็ตาม นอกจากลิงลิงคาปูชินหน้าขาวตัวนี้แล้ว ยังมีลิงคาปูชินตัวอื่นๆ อีก 4 ตัว […]

9 ทันโลก : “ปิดล้อมกาซาหายนะความหิวโหย”

21 พ.ค.- สถานการณ์ในฉนวนกาซาเวลานี้ ย่ำแย่หนักจากการปิดล้อมของอิสราเอลแม้ว่าจะมีแรงกดดันจากนานาชาติ เราไปติดตามชีวิตของชาวปาเลสไตน์จากรายงาน “9 ทันโลก” ของฝ่ายข่าวต่างประเทศ .-สำนักข่าวไทย

อาเซียนจะประชุมหารือเรื่องความขัดแย้งในเมียนมา

จาการ์ตา 21 พ.ค. –  เกา กิม ฮวน (Kao Kim Hourn) เลขาธิการอาเซียนกล่าววันนี้ว่า สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน จะเปิดการประชุม 2 ครั้ง ที่จะมุ่งเน้นเรื่องสงครามในเมียนมา ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นความพยายามในการผลักดันกระบวนการสันติภาพในเมียนมา นายเกา กิม ฮวน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ถือเป็นเรื่องใหม่ที่อาเซียนจะมุ่งเน้นเฉพาะเรื่องเมียนมา โดยที่จะไม่มีการหยิบยกประเด็นอื่น ๆ ขึ้นมาพูดคุย โดยการประชุมทั้ง 2 ครั้งนี้จะจัดขึ้นที่มาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ นายเกา กิม ฮวน ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงถึงประเด็นที่จะหยิบยกขึ้นมาหารือ หรือว่าจะมีประเด็นข้อเสนอใหม่ๆ ในการหาทางยุติสงครามในเมียนมาหรือไม่ นายเกา กิม ฮวน กล่าวว่า การประชุมครั้งแรกจะมีผู้เข้าร่วมประชุมเป็นชาติที่เป็นประธานอาเซียนในปัจจุบัน ประธานอาเซียนปีที่แล้วและประธานอาเซียนชาติถัดไป ได้แก่ มาเลเซีย ลาว และฟิลิปปินส์ ตามลำดับ ส่วนการประชุมครั้งที่ 2 จะเป็นการหารือของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน  เลขาธิการอาเซียนไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความคาดหมายของผลการหารือ แต่กล่าวว่า การเจรจาจะมีขอบเขต […]

จีนพบจุลินทรีย์พันธุ์ใหม่บนสถานีอวกาศเทียนกง

ปักกิ่ง 21 พ.ค. — องค์การอวกาศที่มีมนุษย์ควบคุมแห่งประเทศจีนเผยการค้นพบจุลินทรีย์สายพันธุ์ใหม่ในสถานีอวกาศเทียนกงของจีนเป็นครั้งแรก โดยตั้งชื่อว่าไนแอลเลีย เทียนกงเอนซิส (Niallia tiangongensis) ซึ่งมีศักยภาพทนทานความเครียดจากการออกซิเดชันในอวกาศ อีกทั้งมีความสามารถโดดเด่นในการก่อตัวของไบโอฟิล์ม (Biofilm) หรือฟิล์มชีวภาพ และการซ่อมแซมความเสียหายจากรังสี ทำให้ปรับตัวได้ดีต่อสภาพแวดล้อมในอวกาศ สำนักข่าวซินหัวรายงานวันนี้ว่า จุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่และมีความหลากหลายที่สุดชนิดหนึ่งของโลก แม้มีขนาดเล็กทว่ามีอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่สายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งค้นพบนี้เป็นจุลินทรีย์ที่ไม่เคยเป็นที่รู้จัก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ไม่เคยบันทึกหรือศึกษาวิจัยมาก่อน นักวิจัยให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อมที่มีเอกลักษณ์บนสถานีอวกาศมานานแล้ว เนื่องจากมีแรงโน้มถ่วงต่ำ มีการแผ่รังสี เป็นสภาพแวดล้อมแบบปิด และมีข้อจำกัดด้านสารอาหาร ทำให้มีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งอาศัยของจุลินทรีย์สายพันธุ์ที่ไม่มีใครรู้จัก เมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 ลูกเรือของยานอวกาศเสินโจว-15 (Shenzhou-15) ได้เก็บตัวอย่างจุลินทรีย์บนพื้นผิวโดยใช้ผ้าที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว และเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิต่ำในวงโคจร โดยการวิเคราะห์ภาคพื้นดินในเวลาต่อมาค้นพบจุลินทรีย์ไนแอลเลีย เทียนกงเอนซิสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งได้รับการยืนยันด้วยวิธีการจากหลายสาขาวิชา อาทิ การวิเคราะห์ทางสัณฐานวิทยา การจัดลำดับจีโนม การศึกษาด้านวิวัฒนาการ และการรวบรวมข้อมูลสารเมตาบอไลต์ รายงานระบุว่าจุลินทรีย์ใช้กลไกทางชีววิทยาเฉพาะตัวเพื่อปรับตัวให้เข้ากับความเครียดจากสภาพแวดล้อมในอวกาศ ซึ่งส่งผลต่อลักษณะการเผาผลาญและสรีรวิทยาของจุลินทรีย์ การค้นพบนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกทางวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ เนื่องจากกลไกการปรับตัวของไนแอลเลีย เทียนกงเอนซิสสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับกลยุทธ์การควบคุมจุลินทรีย์เป้าหมายได้ โดยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการดูแลสุขภาพ สถานีอวกาศเทียนกงของจีนอยู่ระหว่างการดำเนินการในระยะยาว นักวิจัยจึงคาดการณ์ว่าจะมีความก้าวหน้าอย่างมากในการศึกษาสารประกอบชีวภาพของจุลินทรีย์ ทรัพยากรทางพันธุกรรม และการทำงานของระบบเผาผลาญ ซึ่งอาจก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากต่อการประยุกต์ใช้ทางวิทยาศาสตร์และทางปฏิบัติบนพื้นโลก สำหรับผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์นี้ได้รับการเผยแพร่ออนไลน์ในวารสารจุลชีววิทยาเชิงระบบและวิวัฒนาการนานาชาติ […]

จีนประณามสหรัฐกลั่นแกล้ง-กีดกันการค้ากรณีแบนชิปจีน

ปักกิ่ง, 21 พ.ค. — โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าววันนี้ประณามกรณีสหรัฐ พยายามแบนชิปประมวลผลขั้นสูงของจีนไปทั่วโลกว่าเป็นตัวอย่างการกระทำ “กลั่นแกล้งและกีดกันทางการค้าเพียงฝ่ายเดียว” ซึ่งบ่อนทำลายห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกอย่างรุนแรง สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวว่าเมื่อไม่นานนี้ กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ใช้ข้ออ้างการละเมิดกฎควบคุมการส่งออกของสหรัฐ ออกแนวปฏิบัติที่พยายามแบนชิปประมวลผลขั้นสูงของจีน รวมถึงชิปหัวเหวย แอสเซนด์ (Huawei Ascend) บางรุ่น ซึ่งเป็นการลิดรอนสิทธิของประเทศอื่นๆ ในการพัฒนาชิปประมวลผลขั้นสูงและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวว่า สหรัฐกำลังใช้การควบคุมการส่งออกในทางที่ผิดเพื่อยับยั้งและกดขี่จีน ซึ่งละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและบรรทัดฐานขั้นพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายของผู้ประกอบการจีน และบั่นทอนผลประโยชน์จากการพัฒนาของจีน ฝ่ายจีนเน้นย้ำว่ามาตรการของสหรัฐมีแนวโน้มเป็นการกำหนดข้อจำกัดแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มบริษัทจีน โดยองค์กรหรือนิติบุคคลที่ดำเนินการหรือช่วยเหลือในการดำเนินมาตรการเหล่านี้อาจถือเป็นการละเมิดกฎหมายและข้อบังคับของจีน และอาจต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันเป็นแนวทางหลักของโลก จีนจึงกระตุ้นเตือนสหรัฐแก้ไขการทำผิดพลาดทันที ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ และเคารพสิทธิการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามกฎหมายของประเทศอื่นๆ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวว่า จีนสนับสนุนผู้ประกอบการทั่วโลกดำเนินความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามหลักการตลาดเพื่อบรรลุผลลัพธ์ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์และส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย โดยจีนจะเฝ้าติดตามมาตรการของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดและดำเนินการขั้นเด็ดขาดเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ปูติน’ เยือนเคิร์สก์ครั้งแรกตั้งแต่ผลักดันทหารยูเครน

มอสโก 21 พ.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เดินทางไปเยือนภูมิภาคเคิร์สก์ ดินแดนทางตะวันตกของรัสเซียที่ตั้งอยู่ติดกับชายแดนยูเครน ซึ่งเป็นการเยือนโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าและเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทหารรัสเซียสามารถผลักดันกองกำลังของกองทัพยูเครนออกจากพื้นที่ได้สำเร็จเมื่อเดือนที่แล้ว ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่า ในระหว่างการเยือนในวันอังคาร นายปูตินพบกับอาสาสมัครขององค์กรต่าง ๆ ในภูมิภาคและยังไปเยี่ยมโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เคิร์สก์-2 โทรทัศน์ของทางการรัสเซียเผบแพร่ภาพนายปูตินพบปะกับอาสาสมัครที่ทำงานในภูมิภาค และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น รวมถึงนายอเล็กซานเดอร์ คินช์ไตน์ รักษาการผู้ว่าการดินแดนเคิร์สก์ รัสเซียกล่าวเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า กองทัพรัสเซียสามารถขับทหารยูเครนออกไปจากภูมิภาคเคิร์สก์ได้แล้ว หลังจากทหารยูเครนบุกจู่โจมเข้ามายึดครองพื้นที่ในภูมิภาคนี้เมื่อต้นเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยเข้าครอบครองพื้นที่เกือบ 1,400 ตารางกิโลเมตรในแคว้นนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

เหตุระเบิดโจมตีรถโรงเรียนในแคว้นบาโลชิสถาน-เสียชีวิต 5 ราย

เควตตา 21 พ.ค. – กองทัพปากีสถานกล่าววันนี้ว่า เกิดเหตุโจมตีด้วยระเบิดห่าตัวตายที่มีเป้าหมายเป็นรถโรงเรียนของกองทัพบกในแคว้นบาโลชิสถาน ของปากีสถานทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 รายและมีเด็กอย่างน้อย 3 ราย โดยปากีสถานกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของตัวแทนของฝ่ายอินเดีย ผู้บริหารของเขตคุดซาร์ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุกล่าวว่า รถโรงเรียนที่ตกเป็นเป้าโจมตีกำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางไปยังโรงเรียนภายในค่ายทหาร ขณะเกิดเหตุนั้น มีนักเรียนอยู่บนรถโรงเรียนราว 40 คน ซึ่งทั้งหมดกำลังเดินทางไปโรงเรีนนที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพ เหตุระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน นายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ และกองทัพปากีสถานออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงพร้อมกับกล่าวหาว่า ตัวแทนที่เป็นผู้ก่อการร้ายของอินเดียว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีครั้งนี้ แต่ไม่ได้แสดงหลักฐานใด ๆ กองทัพปากีสถานกล่าวว่า ผู้เสียชีวิต 5 คน เป็นเด็กอย่างน้อย 3 คนและผู้ใหญ่อีก 2 คน แคว้นบาโลชิสถาน เป็นแคว้นที่ใหญ่ที่สุดของปากีสถานแต่มีประชากรน้อยที่สุด ตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านคน เป็นพื้นที่ที่มีโครงการทำเหมืองแร่สำคัญหลายแห่ง แต่ประสบปัญหาจากกลุ่มก่อความไม่สงบต่อต้านรัฐบาลที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ.-.813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ทุ่มเงินติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศ ‘โกลเดน โดม’

วอชิงตัน 21 พ.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าววานนี้ว่า เขาได้คัดเลือกแบบสำหรับระบบป้องกันขีปนาวุธ “โกลเดน โดม” (Golden Dome) มูลค่า 175,000 ล้านดอลลาร์ และได้แต่งตั้งนายพลจากกองทัพอวกาศเป็นหัวหน้าโครงการนี้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสกัดกั้นภัยคุกคามจากจีนและรัสเซีย นายทรัมป์กล่าววว่า “โกลเดน โดม” จะใช้งบประมาณประมาณ 175,000 ล้านดอลลาร์ และจะสามารถเริ่มใช้งานได้ภายในเดือนมกราคม 2026 แต่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาวุธไม่แน่ใจในเรื่องกรอบเวลาดังกล่าวว่าจะเป็นไปได้หรือไม่รวมถึงตัวเลขค่าใช้ในการติดตั้งระบบป้องกันภัยนี้ นายทรัมป์กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวว่า พลเอกไมเคิล เกตไลน์ จากกองทัพอวกาศจะเป็นผู้จัดการโครงการนี้ ซึ่งเป็นความพยายามที่ถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นหัวใจสำคัญของการวางแผนทางทหารของนายทรัมป์ นายทรัมป์กล่าวว่า “โกลเดน โดม” จะช่วยปกป้องมาตุภูมิและว่า แคนาดาแจ้งว่า ต้องการจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ด้วย โครงการนี้ ซึ่งนายทรัมป์สั่งให้เรี่มดำเนินการเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีเป้าหมายที่จะสร้างเครือข่ายดาวเทียม ซึ่งอาจมีจำนวนหลายร้อยดวง เพื่อตรวจจับ ติดตาม และอาจสกัดกั้นขีปนาวุธที่กำลังจะเข้ามาในดินแดนสหรัฐ.-813.-สำนักข่าวไทย

รัฐมนตรีเกษตรญี่ปุ่นลาออก ปมความเห็นเรื่องข้าว

โตเกียว 21 พ.ค. – นายเอโต ทากุ รัฐมนตรีเกษตรญี่ปุ่น ลาออกจากตำแหน่งในวันนี้ หลังจากที่เขากล่าวแสดงความเห็นในสัปดาห์นี้ในเรื่องเกี่ยวกับข้าว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตำหนิจากทั้งผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งและสมาชิกรัฐสภา และส่งผลกระทบกับรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากหลายด้าน นายเอโต กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากยื่นใบลาออกที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีในวันนี้ว่า เขาแสดงความเห็นที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่พลเมืองญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับความยากลำบาก เนื่องจากราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายทากุ โดยวิพากษ์ตำหนิอย่างหนัก หลังจากมีสื่อรายงานเปิดเผยคำกล่าวของเขาในระหว่างที่เขาไปกล่าวปราศรัยระดมทุนให้กับพรรครัฐบาลเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขาไม่เคยต้องซื้อข้าวเลย เนื่องจากผู้สนับสนุนมอบข้าวเป็นของขวัญให้เขาเป็นจำนวนมาก ความคิดเห็นดังกล่าวทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวญี่ปุ่น ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่พอใจอยู่แล้วกับราคาข้าวที่สูงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากผลผลิตไม่ดี และความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวที่เฟื่องฟู เอ็นเอชเค สื่อสารธารณะของญี่ปุ่น และสื่อสำนักอื่นๆ รายงานตรงกันว่า นายชินจิโร โคอิซูมิ อดีตรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม จะได้รับการแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเกษตรคนใหม่.-813.-สำนักข่าวไทย

1 54 55 56 57 58 5,500
...