ภาคใต้จีนเผชิญน้ำท่วมหนัก

ยูนนาน 23 มิ.ย. – จีนระดมกำลังหน่วยกู้ภัยและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลืออพยพประชาชนจากเหตุน้ำท่วมในหลายภูมิภาคทางใต้.กระทรวงทรัพยากรน้ำของจีนเผยว่า ภาวะฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายภูมิภาคทางใต้ของจีน ระดับน้ำในแม่น้ำ 27 สายล้วนเพิ่มสูงเกินขีดอันตราย ประชาชนหลายพันคนได้รับการอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย พื้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดรวมถึงเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง มณฑลกุ้ยโจว และยูนนาน เมื่อแม่น้ำขนาดเล็ก 4 สายต่างมีระดับน้ำเพิ่มสูงกว่าระดับควบคุมน้ำท่วมถึง 2.51 เมตร ขณะที่แม่น้ำเหมิงถงของมณพลยูนนาน เผชิญภาวะน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดนับแต่ปี 2522 สถานการณ์ในเขตปกครองตนเองซานตู๋สุ่ย มณฑลกุ้ยโจว เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลืออพยพประชาชนจากบ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูงระดับเอวรวมทั้งช่วยเหลือแม่และทารกแรกคลอด ส่วนในเขตปกครองตนเองเฉียนตงหนานที่อยู่ติดกัน หน่วยดับเพลิงฝ่าลุยกระแสน้ำไหลเชี่ยวไปอพยพชาวบ้านและเก็บข้าวของในครัวเรือน โดยใช้เรือยางเข้าอพยพประชาชนจากหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วม บางพื้นที่ระดับน้ำท่วมสูงถึง 6 เมตรและเสี่ยงเกิดดินถล่ม พร้อมส่งเฮลิคอปเตอร์บินไปช่วยภารกิจอพยพกู้ภัยในเมืองจางเจี่ยเจี้ย มณฑลหูหนาน ทางตอนกลาง ที่มีชาวบ้าน 2 คน ติดค้างบนเกาะกลางน้ำ หลังระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นกะทันหันจนออกมาไม่ทัน ขณะนี้ หลายหน่วยงานอยู่ระหว่างปฏิบัติการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในภูมิภาคระดับมณฑลรวม 6 มณฑล เนื่องจากคาดการณ์ฝนตกหนักจะยังเกิดขึ้นต่อเนื่องในสัปดาห์หน้าที่ และเตือนประชาชนให้เลี่ยงแหล่งน้ำหรือแม่น้ำระหว่างช่วงฤดูฝนนี้.-815.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” ระงับนําเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากไทย

กัมพูชา 22 มิ.ย. – “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง-ก๊าซทุกชนิดจากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้ มั่นใจบริษัทในกัมพูชาหาเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นให้ประชาชนได้เพียงพอ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Hun Manet ระบุว่า บริษัทจัดจําหน่ายน้ำมันในประเทศกัมพูชามีความสามารถในการนําเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซจากแหล่งอื่น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศของประชาชน แม้จะเป็นเดือน แม้ตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย.68) การนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากประเทศไทยจะถูกหยุด.-สำนักข่าวไทย

cars at Poipet crossing gate

บันเตียเมียนเจยปัดข่าวรถแห่เติมน้ำมันในไทย

พนมเปญ 22 มิ.ย. – ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชา ปฏิเสธอย่างหนักแน่น หลังจากสื่อไทยรายงานว่าชาวกัมพูชาพากันขับรถข้ามมาเติมน้ำมันในฝั่งไทย เพราะน้ำมันในกัมพูชามีราคาแพง เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายอุม เรต ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจยได้ปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อรายงานข่าวของไทยว่า หลังจากกัมพูชาขู่จะปิดกั้นการนำเข้าน้ำมันจากไทย ชาวกัมพูชาจำนวนมากรีบขับรถข้ามฝั่งมาเติมน้ำมันที่ไทยกันทันที เนื่องจากน้ำมันในกัมพูชามีราคาแพง นายอุม เรตระบุว่า ไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ภาพที่หนังสือพิมพ์ไทยเผยแพร่เป็นภาพรถชาวกัมพูชาเดินทางผ่านจุดผ่านแดนถาวรปอยเปตอย่างหนาแน่นเมื่อครั้งเปิดใช้งานครั้งแรก และว่าโดยปกติแล้วมีรถจากกัมพูชาข้ามไปไทยวันละ 40-50 คันอยู่แล้วเพื่อทำงาน ทำธุรกิจและอื่น ๆ จังหวัดบันเตียเมียนเจยอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือสุดของกัมพูชา มีเมืองปอยเปต ทางฝั่งตะวันตก เป็นเมืองชายแดนติดกับอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วของไทย.-814.-สำนักข่าวไทย  

Iran submits letter to UN, issues condemnation of US strikes on its nuclear facilities

อิหร่านยื่น จม.ถึงยูเอ็น-พร้อมปกป้องตนเอง

เตหะราน 22 มิ.ย.- อิหร่านยื่นหนังสือถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) อย่างเร่งด่วน หลังจากถูกสหรัฐโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ และประกาศว่าจะใช้ทุกช่องทางในการปกป้องประเทศ คณะผู้แทนถาวรของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านประจำสหประชาชาติโพสต์ผ่านเอ็กซ์ว่า ได้ส่งจดหมายเร่งด่วนถึงยูเอ็นเอสซีเมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมาตามเวลานครนิวยอร์กของสหรัฐ ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการที่สหรัฐทิ้งระเบิดที่ตั้งนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างผิดกฎหมายและไร้ความยั้งคิด สหรัฐและอิสราเอลจะต้องรับผิดชอบทั้งหมดต่อการละเมิดกฎหมายสากลและต้องรับผลที่ร้ายแรงตามมา อิหร่านร้องขออย่างเร่งด่วนให้ยูเอ็นเอสซีเปิดการประชุมฉุกเฉินโดยทันที เพื่อแก้ไขการรุกรานที่โจ่งแจ้งและผิดกฎหมาย เพื่อประณามด้วยถ้อยคำที่รุนแรงที่สุด และเพื่อดำเนินทุกมาตรการตามความรับผิดชอบที่ยูเอ็นเอสซีได้รับจากกฎบัตรยูเอ็นให้ผู้ก่ออาชญากรรมเลวร้ายเช่นนี้จะต้องถูกลงโทษ ด้านนายอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ว่า สหรัฐซึ่งเป็นสมาชิกถาวรของยูเอ็นเอสซี ได้ละเมิดอย่างร้ายแรงต่อกฎบัตรยูเอ็น กฎหมายสากล และสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์หรือเอ็นพีที (NPT) ด้วยการโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ทางสันติของอิหร่าน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องอุกอาจและจะส่งผลติดตามมาไปตลอดกาล อิหร่านจะขอใช้ทุกช่องทางในการปกป้องอธิปไตย ผลประโยชน์ และประชาชนของตนเอง.-814.-สำนักข่าวไทย

real-time air traffic shown in Flightradar24 website

สายการบินยังคงเลี่ยงน่านฟ้าตะวันออกกลาง

สตอกโฮล์ม 22 มิ.ย. – สายการบินต่างๆ ยังคงหลีกเลี่ยงน่านฟ้าส่วนใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ขณะที่มีเสียงเตือนว่าการที่สหรัฐโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ของอิหร่านอาจทำให้สายการบินของสหรัฐในภูมิภาคนี้เสี่ยงภัยมากขึ้น ไฟลต์เรดาร์ 24 (FlightRadar24) ซึ่งเป็นบริการอินเทอร์เน็ตในสวีเดนที่ติดตามเที่ยวบินในเวลาจริงโพสต์ผ่านเอ็กซ์ว่า หลังจากสหรัฐโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่านเมื่อวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ การจราจรทางอากาศเชิงพาณิชย์ในตะวันออกกลางยังคงดำเนินไปตามที่มีมาตรการจำกัดน่านฟ้าตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ซึ่งหมายถึงตั้งแต่อิสราเอลเปิดฉากปฏิบัติการโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์และที่ตั้งทางทหารหลายแห่งในอิหร่านเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ข้อมูลในเว็บไซต์ไฟลต์เรดาร์ 24 พบว่า สายการบินต่าง ๆ ไม่บินผ่านน่านฟ้าอิหร่าน อิรัก ซีเรีย และอิสราเอล โดยเลือกใช้เส้นทางอื่น เช่น บินขึ้นเหนือผ่านทะเลแคสเปียน หรือบินลงใต้ผ่านอียิปต์และซาอุดีอาระเบีย แม้ว่าต้องสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และเสียเวลามากขึ้นก็ตาม เซฟแอร์สเปซ (Safe Airspace) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลเรื่องความเสี่ยงและเขตขัดแย้งทางน่านฟ้าเตือนวันนี้ว่า การที่สหรัฐโจมตีอิหร่านอาจเพิ่มความเสี่ยงให้แก่สายการบินสหรัฐที่ดำเนินการอยู่ในตะวันออกกลาง เพราะถึงแม้ไม่มีการข่มขู่เป็นพิเศษกับการบินพลเรือน แต่อิหร่านเคยเตือนว่า จะเอาคืนด้วยการโจมตีผลประโยชน์ของกองทัพสหรัฐในภูมิภาคนี้ ไม่ว่าทางตรงหรือผ่านตัวแทนอย่างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน เซฟแอร์สเปซระบุด้วยว่า มีความเป็นไปได้ที่ความเสี่ยงทางน่านฟ้าอาจจะขยายครอบคลุมไปถึงบาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ อุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จึงขอแนะนำให้ใช้ความระมัดระวังในระดับสูงต่อไป สายการบินอิสราเอล 3 แห่งประกอบด้วยเอลอัล (El […]

Satellite images show Iran's Fordow nuclear facility before U.S. strikes

อิหร่านขนยูเรเนียมออกก่อนที่ตั้งนิวเคลียร์ถูกถล่ม

เตหะราน 22 มิ.ย. – สื่อทางการอิหร่านรายงานยืนยันว่า ที่ตั้งนิวเคลียร์ถูกสหรัฐโจมตี แต่มีการเคลื่อนย้ายยูเรเนียมเสริมสมรรถนะออกจากที่ตั้งเหล่านี้ไปล่วงหน้าก่อนแล้ว สำนักข่าวทาสนิม ซึ่งเป็นสื่อกึ่งทางการของอิหร่านอ้างเจ้าหน้าที่อิหร่านที่ยืนยันว่า โรงงานเสริมสมรรถนะเชื้อเพลิงฟอร์โดว์ ห่างจากเมืองกอมขึ้นไปทางเหนือ 30 กิโลเมตรถูกศัตรูโจมตีบางส่วน ขณะที่นายฮัสซัน อาเบดินี ผู้อำนวยการข่าวของบริษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านหรือไออาร์ไอบี (IRIB) กล่าวทางสถานีว่า มีการเคลื่อนย้ายยูเรเนียมเสริมสมรรถนะออกไปจากที่ตั้งนิวเคลียร์จนไม่เหลือแล้ว เพราะหากถูกโจมตีจะเกิดการแผ่รังสีที่เป็นอันตรายต่อคนในอิหร่าน เว็บไซต์อัลจาซีราห์อ้างโพสต์ขององค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านว่า ศูนย์ระบบความปลอดภัยนิวเคลียร์ขอแจ้งว่า หลังจากสหรัฐโจมตีอย่างผิดกฎหมายต่อที่ตั้งนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ อิสฟาฮาน และนาทันซ์ การสำรวจภาคสนามและข้อมูลระบบการแผ่รังสี ไม่พบรังสีปนเปื้อนหรืออันตรายต่อผู้อาศัยอยู่ใกล้ที่ตั้งเหล่านั้น อัลจาซีราอ้างคณะกรรมาธิการกำกับดูแลนิวเคลียร์และรังสีวิทยาของซาอุดีอาระเบียด้วยว่า ตรวจไม่พบผลกระทบด้านกัมมันตรังสีในสภาพแวดล้อมของซาอุดีอาระเบียและประเทศเพื่อนบ้านริมอ่าวอาหรับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐตัดสินใจเข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารกับอิสราเอลเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ทั้งที่ 2 วันก่อนหน้านั้นเพิ่งขีดเส้นตายให้อิหร่านทำข้อตกลงกับสหรัฐภายใน 2 สัปดาห์ เขาให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า สหรัฐทิ้งระเบิดเจาะบังเกอร์ถล่มที่ตั้งนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ทั้งหมด 6 ลูก และยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์กถล่มที่ตั้งนิวเคลียร์อิสฟาฮานและนาทันซ์รวมทั้งหมด 30 ลูก เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนบี-2 ที่สามารถบรรทุกระเบิดขนาดใหญ่อย่างระเบิดเจาะบังเกอร์รุ่นล่าสุดของสหรัฐที่มีน้ำหนักราว 30,000 ปอนด์หรือ 13,600 กิโลกรัมและมีการนำวิถี สามารถทำลายบังเกอร์และอุโมงค์ที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน ได้อย่างแม่นยำ ขณะเดียวกันสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสนิวส์ของสหรัฐรายงานว่า […]

Netanyahu says Trump's decision to strike Iran will 'change history'

อิสราเอลยกย่อง “ทรัมป์” ประวัติศาสตร์จะจารึก

เยรูซาเลม 22 มิ.ย.- นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลกล่าวยกย่องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่สั่งโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์อิหร่านว่า จะได้รับการจารึกในประวัติศาสตร์ สำนักสารนิเทศ สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเผยแพร่คลิปนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูแถลงความยาว 1 นาที 25 วินาทีในวันนี้ว่า ขอแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีทรัมป์ การตัดสินใจอย่างกล้าหาญด้วยการใช้อำนาจอันยอดเยี่ยมและชอบธรรมของสหรัฐโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ของอิหร่านจะเป็นการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ ที่ผ่านมาปฏิบัติการสิงโตผงาด (Operation Rising Lion) ของอิสราเอลได้ทำในสิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง แต่การโจมตีของสหรัฐเมื่อคืนวันเสาร์ได้ทำให้สหรัฐเป็นประเทศที่ไม่มีประเทศใดในโลกสามารถเทียบได้อย่างแท้จริง ประวัติศาสตร์จะจารึกไว้ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทำในสิ่งที่เป็นการไม่ยอมรับรัฐบาลและอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดในโลก และได้สร้างหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ที่จะช่วยนำพาภูมิภาคตะวันออกกลางและนอกภูมิภาคไปสู่อนาคตที่รุ่งเรืองและสันติ นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และเขาพูดอยู่เสมอเรื่องการสร้างสันติภาพด้วยความแข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงจะมีสันติภาพได้.-814.-สำนักข่าวไทย

Trump addresses the nation after US strikes on Iran

“ทรัมป์” แถลงเรื่องโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์อิหร่าน

วอชิงตัน 22 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐแถลงเรื่องสหรัฐโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่านเมื่อวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐว่า ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งและสามารถทำลายได้อย่างสิ้นซาก ประธานาธิบดีทรัมป์แถลงที่ทำเนียบขาวก่อนเวลา 22.00 น.วันเสาร์ตามเวลากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง โดยมีรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ และนายปีเตอร์เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมยืนอยู่ด้านหลัง นายทรัมป์ใช้เวลาในการแถลงนานเพียง 4 นาทีและไม่เปิดให้มีการซักถามว่า กองทัพสหรัฐได้โจมตีด้วยความแม่นยำครั้งใหญ่ต่อที่ตั้งนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่านประกอบด้วยฟอร์โดว์ อิสฟาฮาน และนาทันซ์ที่ทุกคนได้ยินชื่อมานานหลายปีว่ามีความสามารถทำลายล้างอย่างน่ากลัว วัตถุประสงค์ของสหรัฐ คือ การทำลายศักยภาพในการเสริมสมรรถนะนิวเคลียร์ของอิหร่าน และหยุดยั้งภัยคุกคามนิวเคลียร์ของประเทศที่สนับสุนนการก่อการร้ายอันดับหนึ่งของโลก เขาสามารถแจ้งต่อโลกได้ว่า กองทัพสหรัฐประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งในการโจมตีสถานที่เสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมสำคัญของอิหร่าน ด้วยการทำลายอย่างราบคาบและสิ้นซาก ผู้นำสหรัฐยื่นคำขาดว่า อิหร่านจะต้องสร้างสันติภาพในเวลานี้ ไม่เช่นนั้นจะถูกโจมตีหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม  เขากล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลที่ทำงานเป็นทีมกับสหรัฐอย่างดียิ่ง ขอบคุณกองทัพอิสราเอลและทหารสหรัฐที่เข้าร่วมในภารกิจนี้ พร้อมกับย้ำว่ายังมีเป้าหมายในอิหร่านอีกหลายแห่งที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งจะถูกจัดการอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาทีหากไม่เกิดสันติภาพโดยเร็ว.-814.-สำนักข่าวไทย

‘ปูติน’ เผยไม่มีหลักฐานอิหร่านต้องการอาวุธนิวเคลียร์

มอสโก 21 มิ.ย. – สำนักข่าวสกายนิวส์อาระเบียรายงานวันนี้อ้างคำกล่าวของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในวันเสาร์ที่ให้สัมภาษณ์ว่า รัสเซียได้แจ้งต่ออิสราเอลซ้ำหลายครั้งว่า ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่บ่งชี้ว่าอิหร่านกำลังมุ่งมั่นที่จะได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ นายปูตินกล่าวว่า รัสเซีย รวมถึงทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ (IAEA) ไม่เคยมีหลักฐานใด ๆ ว่าอิหร่านกำลังเตรียมการเพื่อครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งรัสเซียก็ได้ย้ำหลายครั้งให้ผู้นำอิสราเอลได้รับทราบ นายปูตินกล่าวว่า รัสเซียพร้อมที่จะสนับสนุนอิหร่านในการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์เพื่อสันติ พร้อมเสริมว่า อิหร่านมีสิทธิ์ที่จะดำเนินการดังกล่าว ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่เวทีเศรษฐกิจในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่า รัสเซียกำลังแบ่งปันแนวคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะหยุดยั้งการนองเลือดในความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลกับทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแนวคิดเหล่านั้น.-813.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นยกเลิกการประชุมกับสหรัฐหลังขอให้เพิ่มงบกลาโหม

วอชิงตัน 21 มิ.ย. –  หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ญี่ปุ่นยกเลิกการประชุมระดับสูงประจำปีกับสหรัฐ ซึ่งเป็นพันธมิตรคนสำคัญ หลังจากที่สหรัฐเรียกร้องให้ญี่ปุ่นเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐและนายพีท เฮกเซ็ธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ มีกำหนดจะพบกับนายทาเคชิ อิวายะและนายเก็น นาคาทานิ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น ในการประชุมแบบ ทู พลัส ทู ที่กำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ที่กรุงวอชิงตัน แต่หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้ว่า ญี่ปุ่นได้ ยกเลิกการประชุมดังกล่าวหลังจากที่สหรัฐขอให้ญี่ปุ่น เพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเป็นร้อยละ 3.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพีซึ่งสูงกว่าที่เคยขอไว้ที่ร้อยละ 3 เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นรายหนึ่งซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อแจ้งกับรอยเตอร์สวันนี้ว่า ญี่ปุ่นกับสหรัฐไม่เคยมีการหารือเรื่องเป้าหมายการใช้จ่ายด้านกลาโหมที่ร้อยละ 3.5 หรือ ร้อยละ 5 แต่อย่างใด และระบุว่า ตนเองไม่ได้รับทราบข้อมูลใด ๆ ตามที่ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่าญี่ปุ่นยกเลิกการประชุม ทู พลัส ทู เพราะสหรัฐกดดันเรื่องงบประมาณกลาโหม นอกจากนี้ เขายังกล่าวด้วยว่า โดยทั่วไปแล้ว การประสานงานการประชุมแบบ 4 ฝ่าย หรือ […]

อิสราเอลอ้างสังหารผู้บัญชาการกองกำลังสำคัญของอิหร่าน 2 ราย

เยรูซาเล็ม 21 มิ.ย. – นายอิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าววันนี้ว่า กองทัพอิสราเอลได้สังหารผู้บัญชาการอาวุโสรายหนึ่งของฝ่ายปฏิบัติการในต่างประเทศของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน จากการโจมตีอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองคอม (Qom) ของอิหร่าน บุคคลที่ถูกสังหารคือ ซาอีด อิซาดี (Saeed Izadi) ซึ่งเป็นผู้บัญชาการที่คร่ำหวอดในหน่วยรบพิเศษคุดส์ (Quds) ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษในต่างประเทศของ กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (Islamic Revolution Guard Corps) หรือ ไออาร์จีซี ของอิหร่าน   นายแคตซ์ กล่าวว่า อิซาดีมีบทบาทในการให้เงินทุนและอาวุธแก่กลุ่มฮามาสก่อนการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 และการสังหารครั้งนี้ถือเป็น “ความสำเร็จครั้งสำคัญของหน่วยข่าวกรองและกองทัพอากาศอิสราเอล” อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันจากอิหร่านในเรื่องนี้ กองทัพอิสราเอลได้ออกมาระบุในเวลาต่อมาว่า กองทัพยังได้สังหารผู้บัญชาการคนที่สองของ กองกำลังปฏิบัติการในต่างประเทศ ของไออาร์จีซี ซึ่งอิสราเอลระบุชื่อว่า เบนแฮม ชาริยารี (Benham Shariyari) ระหว่างการโจมตีรถยนต์ของเขาเมื่อคืนที่ผ่านมาใน กรุงเตหะรานตะวันตก กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ผู้บัญชาการรายนี้รับผิดชอบการถ่ายโอนอาวุธทั้งหมดจากรัฐบาลอิหร่านไปยังกลุ่มตัวแทนของตนทั่วตะวันออกกลาง โดยตามข้อมูลจากกองทัพอิสราเอล ชาริยารีเป็นผู้จัดหาขีปนาวุธและจรวดที่ใช้ยิงใส่อิสราเอล ให้กับกลุ่ม […]

ญี่ปุ่นเตรียมมอบยุทโธปกรณ์ให้ไทยและอีก 7 ชาติ

โตเกียว 21 มิ.ย. – แหล่งข่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ญี่ปุ่นมีแผนที่จะจัดหายุทโธปกรณ์ด้านการป้องกันประเทศให้กับประเทศไทย ตองกา และอีก 6 ประเทศ ในปีงบประมาณปัจจุบัน ภายใต้โครงการความช่วยเหลือด้านความมั่นคง ซึ่งเป็นความพยายามที่จะสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของเส้นทางเดินเรือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ที่จีนกำลังพัฒนาท่าทีทางทหารของตนเอง สำนักข่าวเกียวโด รายงานอ้างแหล่งข่าวที่ระบุว่า  ทั้ง 8 ประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วยติมอร์-เลสเต, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ปาปัวนิวกินี, ฟิลิปปินส์ และศรีลังกา คาดว่าจะได้เป็นผู้รับความช่วยเหลือภายใต้กรอบ “ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงอย่างเป็นทางการ” ของญี่ปุ่น ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับประเทศพันธมิตรที่มีแนวคิดเดียวกัน โดยจะเริ่มในปีงบประมาณ 2025 ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาที่จะจัดหาโดรนที่ผลิตในญี่ปุ่นให้กับประเทศเหล่านี้ เพื่อช่วยในภารกิจบรรเทาสาธารณภัยและการเฝ้าระวังทางทะเล ญี่ปุ่นได้ริเริ่มโครงการ “ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงอย่างเป็นทางการ” หรือ โอเอสเอขึ้นในเดือนเมษายน 2023 เพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในการ เสริมสร้างศักยภาพด้านการป้องกันประเทศ ของตนเอง โครงการนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลด้านความมั่นคงที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค เช่น การแสดงแสนยานุภาพที่เพิ่มขึ้นของกองทัพจีนในทะเลและทางอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นต้องปรับเปลี่ยนนโยบายด้านความมั่นคงและบทบาทในเวทีระหว่างประเทศ.-813.-สำนักข่าวไทย

1 56 57 58 59 60 5,532
...