23 มิ.ย. – รายงาน 9 ทันโลก วันนี้ไปไล่เรียงเหตุการณ์ที่สหรัฐโจมตีเป้าหมายนิวเคลียร์ของอิหร่าน แล้วประเมินดูสถานการณ์ในอนาคต รวมถึงทางเลือกต่างๆ ที่อิหร่านอาจเลือกใช้ตอบโต้
เมื่ออิหร่านถูกสองชาติปฏิปักษ์โจมตีพร้อมๆ กัน และพุ่งเป้าทำลายศักยภาพนิวเคลียร์ที่เป็นขุมกำลังทางทหารและขวัญกำลังใจของชาติ สถานการณ์จึงเลวร้ายอันตรายมาก ทุกนาทีอาจเกิดเหตุการณ์ที่จะเป็นจุดเปลี่ยนของตะวันออกกลางและทั้งโลกได้
เสร็จสิ้นภารกิจของฝูงบินทิ้งระเบิดอำพรางตัวที่เป้าหมายห่างออกไปกว่า 10,000 กิโลเมตร หัวใจของการพัฒนานิวเคลียร์ ที่ระดมมันสมองพัฒนาหลายสิบปี ด้วยงบประมาณนับแสนล้านดอลลาร์

กองทัพอากาศสหรัฐ ถล่มสถานที่ทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง รวมถึงฟอร์โดว์ ฐานนิวเคลียร์ในหุบเขาทางตอนใต้ของกรุงเตหะราน ที่เป็นแหล่งเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ที่เชื่อว่าเกือบใช้เป็นอาวุธได้แล้ว
ครั้งแรกที่ระเบิดทลายบังเกอร์อานุภาพสูง น้ำหนักถึง 13 ตัน GBU-57 สำแดงอานุภาพความเป็นระเบิดเจาะอาวุธยุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่ ทะลุทะลวงพื้นดินลงไป 16 เมตร ก่อนจะระเบิดเจาะเกราะคอนกรีตได้ประมาณ 18 เมตร แหล่งข่าวเผยว่าแต่ละจุดใช้ GBU-57 ซ้ำสองลูก
โครงสร้างใต้ดินที่ฟอร์โดว์อยู่ใต้พื้นผิวโลก 80-90 เมตร ดังนั้น จึงยังไม่อาจประกันได้เต็มร้อยว่าถูกทำลายไป และแม้ว่าจะทำลายได้ แต่ส่วนประกอบสำคัญ รวมถึงยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ อาจถูกเคลื่อนย้ายออกไปก่อนหน้าแล้ว
ก่อนการโจมตีได้เกิดสองเหตุการณ์เป็นกลลวงออกแบบมาเพื่อหันเหความสนใจของอิหร่าน ก่อนนั้น 2 วัน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเงื่อนเวลา 2 สัปดาห์ ให้โอกาสช่องทางการทูตสำหรับอิหร่าน ในยอมจำนนเลี่ยงการโจมตี ในเวลาเดียวกันเครื่องบินบรรทุกระเบิดล่องหน B-2 จำนวน 8 ลำของสหรัฐ ออกบินจากฐานทัพอากาศในรัฐมิสซูรี มุ่งหน้าสู่เกาะกวมในมหาสมุทรแปซิฟิก
ขณะที่จับตาฝูง B-2 จำนวน 8 ลำนี้ว่าจะเป็นผู้ปฏิบัติการโจมตีเมื่อนายทรัมป์ไฟเขียวภายใน 2 สัปดาห์ ปรากฏว่ามีเครื่องบินล่องหน B-2 อีกฝูง จำนวน 7 ลำ ออกจานฐานทัพเดียวกัน แต่บินไปในทิศทางตรงข้าม ทุกลำเข้าสู่โหมดล่องหนเต็มพิกัด งดเว้นการติดต่อสื่อสารใดๆ ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ไปสู่น่านฟ้าอิหร่าน นักบินสองคนบนแต่ละเครื่องต้องออกบินรวมเวลา 18 ชั่วโมง ซึ่งต้องใช้การเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศเหนือน่านฟ้ายุโรป
เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนของวันเสาร์ ปฏิบัติการมิดไนท์แฮมเมอร์ ก็มาถึงจุดไคลแม็กซ์ โดยมีเครื่องบินขับไล่ เครื่องบินตรวจการณ์ และลาดตระเวน รวม 125 ลำ คุ้มกันและประสานงาน เพื่อให้ภาพลวงครบสมบูรณ์ เรือดำน้ำสหรัฐที่อยู่ในทะเลอาหรับยิงขีปนาวุธโทมาฮอล์คเข้าใส่อิหร่าน กำหนดให้ยิงเข้าเป้าในเวลาเดียวกับที่เครื่องบิน B-2 ทั้ง 7 ลำ ถึงจุดหมาย เข้าโจมตีระหว่าง 02.10-02.35 น. ที่ชาวอิหร่าน ไม่นานหลังการโจมตี นายทรัมป์ประกาศว่าเป้าหมายถูกทำลายเป็นจุณ
ลำดับต่อมานายทรัมป์ เข้าสู่ยุทธศาสตร์กดดันอิหร่าน ไม่ให้ตอบโต้และให้มาเจรจาเพื่อสันติ เขาใช้คำขู่ว่าอิหร่านจะต้องเผชิญกับกำลังทำลายล้างหนักหนากว่านี้มาก
มาถึงเวลานี้ นายทรัมป์ได้เดิมพันครั้งสำคัญเพื่อปลดอาวุธเขี้ยวเล็บของอิหร่าน ที่หากสำเร็จจะเป็นผลงานเอกของเขาส่งผลต่อการเมือง และอาจขยายผลไปสู่การเดิมพันการเมืองต่างๆ
เดิมพันนี้แลกมาด้วยกับภาพลักษณ์ สหรัฐจะยิ่งกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาชาวโลก แล้วหากการโจมตีล้มเหลวไม่ได้ผลที่หวัง รัฐบาลอิหร่านยืนยงคงอยู่และแข็งแกร่งขึ้นจากการรวมใจคนในชาติต่อต้านศัตรู แล้วตัวแปรสำคัญคือชาติพันธมิตรอิหร่าน อย่างจีน และรัสเซีย ที่อาจยื่นมือเข้าช่วยอิหร่านเต็มตัว ในการรื้อฟื้อและพัฒนานิวเคลียร์ เพราะไม่อาจปล่อยให้สหรัฐแสดงอำนาจบาตรใหญ่ สำแดงการครองความเป็นใหญ่ได้ ล่าสุดรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านเดินไปยังกรุงมอสโก เพื่อเข้าพบนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียแล้ว
แม้ว่านายทรัมป์และแกนนำรัฐบาลพยายามบอกกับทั้งโลกว่านี่เป็นเพียงการแทรกแซงทางการทหารแบบจำกัดวง สหรัฐโจมตีนิวเคลียร์อิหร่าน ไม่ได้ต้องการโค่นล้มรัฐบาลอิหร่าน แต่เมื่อนายทรัมป์ นำตัวเองเข้าไปสู่การสู้รบโดยตรง ถลำเข้าไปแล้วจะถอนตัวออกมาคงยาก เสี่ยงที่จะชักนำเข้าไปอย่างเต็มตัวมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าร่วมวงไพบูลย์กับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรี ผู้เปิดศึกรอบด้านเต็มตัวเช่นนี้
หากลุกลามไปเป็นสงครามเต็มรูปแบบก็จะยิ่งทำให้นายทรัมป์ สูญเสียฐานเสียงทางการเมือง เพราะเขาชูตัวเองให้เป็นผู้สร้างสันติภาพ ต่อต้านสงครามอิรักและอัฟกานิสถานที่อเมริกาต้องเปลือง แต่นี่เขากลับทำสวนทางนโยบายสำคัญที่ทำให้เขาได้กลับเข้าสู่ทำเนียบขาว
สำหรับอิหร่าน หลังถูกสหรัฐโจมตี แกนนำรัฐบาลในทุกระดับได้ประกาศตอบโต้การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
สหรัฐจะต้องเสียใจกับการกระทำและต้องเผชิญผลร้ายที่หนักหน่วงตามมา พร้อมกับโต้ข่าวว่าผลของการโจมตีไม่ได้ทำลายล้างอย่างที่สหรัฐกล่าวอ้าง วันรุ่งขึ้นอิหร่านยังได้โจมตีอิสราเอลอีกระลอก
เมื่ออิหร่านประกาศไม่ยอมจำนน และพิจารณาทุกทางเลือกในการตอบโต้ แล้วอิหร่านมีทางเลือกของอิหร่านอะไรบ้าง
ทางแรกตามที่รัฐบาลอิหร่านมักนำมาใช้เมื่อเกิดการเผชิญหน้ารุนแรงคือ ชะลอประวิงเวลาตอบโต้ โดยเฝ้ารอจังหวะ ตระเตรียมและลงมือในเวลาที่เหมาะสมที่สุด นี่อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ทางที่สอง อิหร่านตอบโต้ในระดับต่างๆ เริ่มจาการปิดช่องแคบฮอร์มุซ โดยรัฐสภาอิหร่านได้มีมติวานนี้ ให้ดำเนินการปิดเส้นทางเดินเรือซึ่งในชนส่งน้ำมันราว 1 ใน 5 ของโลก ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปสูงสุดในรอบ 5 เดือน ส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในเอเชีย แต่อิหร่านจำต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบจีน ที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
หากยกระดับขึ้นไปอีก อิหร่านอาจเลือกโจมตีผลประโยชน์สหรัฐทั่วโลก โดยเฉพาะฐานทัพสหรัฐใน 8 ประเทศในตะวันออกกลาง ไม่ว่าจะเป็นที่บาร์เรน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบีย แต่นั่นย่อมเสี่ยงให้สหรัฐใช้เป็นเหตุผลในการโจมตีหนักหน่วงขึ้น นอกเหนือจากเป้าหมายทางการทหาร
ทางเลือกต่อมาอาจเรียกว่าเป็นทางเลือกเพื่อหาทางลง อิหร่านอาจให้กองกำลังพันธมิตรชิอะห์ในตะวันออกกลางเป็นผู้ลงมือ โจมตีฐานทัพสหรัฐในซีเรียและอิรัก อย่างเช่นที่เคยโจมตีแก้แค้นมาแล้ว ทางเลือกนี้จะช่วยจำกัดวงไม่ให้ลุกลามไปมากนัก
พร้อมๆ กันนั้นอิหร่านตอบโต้ด้วยแนวทางทางการทูต โดยได้ยื่นประท้วงแล้วว่าฝ่ายตรงข้ามปฏิเสธแนวทางการเจรจา แล้วกลับเปิดโจมตี ลำดับต่อไปอิหร่านอาจถอนตอนจากภาคีสนธิสัญญาการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งจะเป็นการตัดช่องทางการตรวจสอบของทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ ที่ติดตามการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ของตน เปิดทางให้สามารถปกปิดและเร่งสร้างอาวุธนิวเคลียร์
ทูตอิหร่านประจำประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยก่อนที่สหรัฐจะโจมตีแล้วว่าอิหร่านเปิดกว้างสำหรับการเจรจา
“อิหร่านไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มสงครามนี้ก่อน และไม่ต้องการทำสงครามกับใคร อิหร่านเป็นฝ่ายถูกรุกราน หากยูเอ็นเอสซีและประเทศคนกลางการเจรจาจะทำให้มีการหยุดยิง อิหร่านจะเป็นฝ่ายที่พร้อมยอมรับก่อน แต่หากไม่มีการหยุดยิง อิหร่านก็ต้องปกป้องประเทศตนเอง”
ส่วนทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ยืนยันถึงเป้าหมายการเปิดโจมตีอิหร่านตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย. ที่โครงการนิวเคลียร์ ไม่ใช่การโค่นระบอบการปกครอง
“ไม่ใช่เป้าหมายของปฏิบัติการครั้งนี้ เป้าหมายคือการกำจัดโครงการนิวเคลียร์ กำจัดโครงการขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยไกล และเพื่อหาข้อตกลงสากลในการกำจัดโครงการนิวเคลียร์อิหร่านอย่างสมบูรณ์ แต่การเปลี่ยนแปลงระบบ ไม่ใช่เป้าหมายของอิสราเอลอย่างแน่นอน”
แต่จากการตีความคำกล่าวผู้นำอิสราเอลในหลายโอกาส ฟังได้ว่าการโค่นล้มระบอบการปกครองสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านอาจเป็นผลที่ตามมา
สัมทับด้วยนายทรัมป์ ที่เผยถึงความคิดสอดคล้องกันว่า “หากระบอบการปกครองในปัจจุบันของอิหร่านไม่สามารถทำให้อิหร่านยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง เหตุใดจึงไม่มีการเปลี่ยแปลงระบอบการปกครอง”
เครื่องบิน B-2 กลับสู่ฐานทัพในมิสซูรี แล้วหลังจากเสร็จสิ้นการทิ้งระเบิด GBU-57 ที่ไม่มีใครรู้ได้ว่าทำลายการลงทุนลงแรงหลายทศวรรษเพื่อใช้ปกป้องอิหร่านไปขนาดไหน ผลงานของระเบิด 14 ลูก อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงสำคัญ.-สำนักข่าวไทย