เตหะราน 24 มิ.ย. – อิหร่านเอาคืนสหรัฐด้วยการยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพสหรัฐในกาตาร์ แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐบอกเป็นการโจมตีที่เบามากๆ
หลังจากถูกสหรัฐล็อคเป้าโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ 3 แห่งเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ อิหร่านเอาคืนสหรัฐด้วยการยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอากาศ อัล อูเดด ของสหรัฐในกาตาร์เมื่อคืนที่ผ่้านมา แต่ขีปนาวุธส่วนใหญ่ถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศของกาตาร์ยิงสกัดเหนือท้องฟ้ากรุงโดฮา ไม่มีรายงานความเสียหายรวมถึงผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต กาตาร์ยืนยันการโจมตีฐานทัพดังกล่าว ระบุเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรง และสงวนสิทธิ์ในการตอบโต้โดยตรง และแจ้งว่ามีการปิดน่านฟ้าเหนือกาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนการโจมตี ขณะที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน ระบุในแถลงการณ์ว่า ได้เปิดฉากการโจมตีด้วยขีปนาวุธต่อฐานทัพอากาศ อัล อูเดด ศูนย์บัญชาการของกองทัพอากาศสหรัฐและสินทรัพย์ทางยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของกองทัพสหรัฐในเอเชียตะวันตก พร้อมระบุด้วยว่า อิหร่านจะไม่ปล่อยให้การโจมตีใด ๆ ต่อบูรณภาพแห่งดินแดน อธิปไตย และความมั่นคงของชาติของตน โดยไม่ได้ตอบโต้ภายใต้สถานการณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น
ด้านนายทรัมป์เผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ที่เขาเป็นเจ้าของว่าอิหร่านยิงขีปนาวุธ 14 ลูกมายังฐานทัพอากาศสหรัฐในกาตาร์ ในจำนวนนี้ 13 ลูกถูกยิงตก และอีก 1 ลูกบินไกลห่างเป้าหมาย เป็นการโจมตีที่อ่อนด้อยมากของอิหร่าน และต้องขอบคุณอิหร่านที่แจ้งล่วงหน้าว่าจะโจมตี หลังจากนี้ หวังว่าจะเกืดสันติภาพและความสงบสุขในภูมิภาคเสียที หวังว่าอิสราเอลก็จะหยุดโจมตีอิหร่านเช่นกัน
โดยเมื่อวานนี้ อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีเป้าหมายสำคัญหลายแห่งในอิหร่านรอบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่หลายแห่งในกรุงเตหะรานที่เชื่อมโยงกับกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน กองบัญชาการของบาซิจ (Basij) กลุ่มติดอาวุธที่ควบคุมโดยรัฐบาลอิหร่าน เรือนจำอีวิน ซึ่งใช้เป็นสถานที่คุมขังนักโทษการเมืองฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอิหร่าน รวมถึงเส้นทางเข้าสู่ที่ตั้งนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ ห่างจากเมืองกอมขึ้นไปทางเหนือ 30 กิโลเมตร ก็ตกเป็นเป้าโจมตีรอบใหม่ของอิสราเอลด้วย เพื่อหวังขัดขวางการเดินทางเข้าถึงพื้นที่ดังกล่าว โดยงอิสราเอลกล่าวว่า เป็นการโจมตีเมืองหลวงของอิหร่านอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น
ในอีกด้านหนึ่ง เรซา ปาห์ลาวี พระโอรสของพระเจ้าชาห์แห่งอิหร่าน รัชกาลสุดท้ายก่อนการปฏิวัติอิสลาม แถลงที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส บอกว่าการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของอิหร่านเป็นทางออกขั้นสุดท้ายเพียงทางเดียวที่เป็นไปได้ หลังจากที่อิสราเอลและสหรัฐโจมตีอิหร่าน ปาห์ลาวี ซึ่งเรียกร้องให้ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ก้าวลงจากตำแหน่ง ยังได้เสนอตัวเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง หากสาธารณรัฐอิสลามจะล่มสลาย และเรียกร้องให้ ‘กลุ่มคนส่วนใหญ่ที่มีใจรักประชาธิปไตยภายในฝ่ายค้าน’ เข้าร่วมกับเขา
ปาห์ลาวี ลี้ภัยมานานกว่า 40 ปีแล้ว ตั้งแต่พระเจ้าชาห์ พระบิดา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐถูกโค่นอำนาจในการปฏิวัติอิสลามปี 2522 ซึ่งนำไปสู่อำนาจของรัฐบาลเคร่งศาสนาที่นำโดยอยาตอลเลาะห์ รูฮอลเลาะห์ โคไมนี.-815.-สำนักข่าวไทย