ผู้นำฝรั่งเศสไม่ต้องการให้มีการเผชิญหน้าในเอเชีย

กรุงเทพฯ 18 พ.ย.- ประธานาธิบดีเอมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เรียกร้องให้ยุติการเผชิญหน้าในเอเชีย และเห็นว่ามหาอำนาจในภูมิภาครวมทั้งฝรั่งเศสควรมีบทบาทในเรื่องนี้ ประธานาธิบดีมาครงเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำภาคเอกชนเอเปค (APEC CEO Summit) นอกรอบการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่กรุงเทพฯ ในวันนี้ เขากล่าวสุนทรพจน์เป็นภาษาอังกฤษ เรื่องวิสัยทัศน์ที่มีต่อบทบาทของฝรั่งเศสในภูมิภาคนี้ว่า ฝรั่งเศสต้องการแสดงบทบาทสร้างเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า เพราะไม่เชื่อเรื่องการครองความเป็นเจ้า ไม่เชื่อเรื่องการเผชิญหน้า แต่เชื่อเรื่องสถียรภาพ มหาอำนาจในภูมิภาคนี้รวมถึงฝรั่งเศสซึ่งมีดินแดนโพ้นทะเลในมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก ควรมีบทบาทในเรื่องนี้ ประธานาธิบดีมาครง กล่าวว่า สถานการณ์เวลานี้เหมือนกำลังอยู่ในป่าที่ช้างตัวใหญ่ 2 ตัวกำลังหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ หากช้างทั้ง 2 ตัวเริ่มสู้กันก็จะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับทุกชีวิตในป่า สัตว์อื่น ๆ จึงต้องร่วมมือกัน ขณะนี้ประชาคมโลกกำลังเผชิญวิกฤตที่ทับซ้อนกัน ตั้งแต่เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปจนถึงวิกฤตเศรษฐกิจ จึงจำเป็นต้องร่วมมือกัน ดังนั้นยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ของฝรั่งเศส คือ การหาทางสร้างเสถียรภาพและความสมดุลที่จะไม่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งครองความเป็นเจ้า และไม่ทำให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่าง 2 มหาอำนาจใหญ่ ผู้นำฝรั่งเศสยังกล่าวถึงสงครามรัสเซียในยูเครนด้วยว่า เป็นต้นเหตุใหญ่ที่ทำให้โลกไร้เสถียรภาพ ทุกประเทศในเอเชียและทั่วโลกจำเป็นต้องตระหนักว่ามีหน้าที่ที่จะต้องทำในสงครามนี้ ฝรั่งเศสกำลังทำให้ทั่วโลกเห็นพ้องต้องกันว่า สงครามในยูเครนเป็นปัญหาของประเทศอื่นเช่นเดียวกัน เพราะได้ทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย

“แนนซี เปโลซี” ประกาศยุติบทบาทประธานสภาผู้แทนฯ สหรัฐ

วอชิงตัน 18 พ.ย. – นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ประกาศยุติบทบาทในตำแหน่งดังกล่าว ในขณะที่คาดกันว่าพรรครีพับลิกันจะกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอีกครั้งหลังการเลือกตั้งกลางสมัย นางเปโลซีกล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า เธอไม่เคยนึกว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากเดิมที่เป็นเพียงแม่บ้านเท่านั้น แต่เธอจะไม่สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรในครั้งหน้า เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีบทบาทในการกำหนดทิศทางของพรรคเดโมแครต อย่างไรก็ดี นางเปโลซีจะยังคงดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไปจนถึงเดือนมกราคมปีหน้า และจะดำรงตำแหน่ง  ส.ส. รัฐแคลิฟอร์เนียต่อไปจนถึงเดือนมกราคม 2568 หลังจากได้รับเลือกมายาวนานตั้งแต่ปี 2530 ทั้งนี้ การประกาศยุติบทบาทดังกล่าวของนางเปโลซีมีขึ้นในขณะที่มีแนวโน้มว่าพรรครีพับลิกันจะกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอีกครั้งหลังการเลือกตั้งกลางสมัย บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า นางเปโลซี วัย 82 ปี ถือเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลของพรรคเดโมแครต และเป็นผู้หญิงคนแรกของสหรัฐที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่วนผู้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะขึ้นเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตลงชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรแทนนางเปโลซี คือ นายฮาคีม เจฟฟรีส์ ส.ส. รัฐนิวยอร์ก วัย 52 ปี ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็น ส.ส. ผิวดำคนแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐที่ได้ดำรงตำแหน่งผู้นำ ส.ส. ของพรรคเดโมแครตในสภา. -สำนักข่าวไทย

พนง.ทวิตเตอร์ตบเท้าลาออก หลัง “มัสก์” ยื่นคำขาด

ซานฟรานซิสโก 18 พ.ย.- พนักงานทวิตเตอร์พากันลาออกเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ ซึ่งเป็นวันที่อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอคนใหม่ ขีดเส้นตายให้เลือกว่าจะทำงานหนักอุทิศตนเต็มที่ หรือจะตกงาน แอนเดรีย ฮอสต์ ซึ่งแจ้งตำแหน่งในลิงค์อิน ซึ่งเป็นเว็บไซต์หางานว่า ทำงานด้านการจัดการห่วงโซ่อุปทานและศักยภาพที่ทวิตเตอร์ ทวีตว่า เธออาจเป็นคนพิเศษ แต่ไม่ใช่คนอุทิศตน พร้อมกับประกาศลาออกจากทวิตเตอร์ ขณะที่เดียนนา ไฮน์-กลาสโกว์ ซึ่งแจ้งตำแหน่งในลิงค์อินว่า เป็นผู้จัดการด้านการดูแลลูกค้าอาวุโสที่ทวิตเตอร์ ทวีตขอบคุณที่ได้ทำงานในฝันและได้ทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทำได้ ด้านเอสเธอร์ ครอว์ฟอร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารไม่กี่คนที่ไม่ถูกมัสก์ไล่ออกและยังคงแสดงตัวสนับสนุนเจ้านายคนใหม่ทวีตขอบคุณเพื่อนร่วมงานทุกคนที่ตัดสินใจลาออก และขอบคุณที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ผู้สื่อข่าวของแพลตฟอร์เมอร์ ซึ่งเป็นหนังสือข่าวด้านเทคโนโลยีรายงานว่า ฝ่ายบริหารของทวิตเตอร์แจ้งพนักงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สำนักงานปิดชั่วคราว แม้แต่พนักงานที่มีบัตรก็ไม่สามารถเข้าได้ หลังจากมีการเผยแพร่บันทึกภายในของมัสก์ที่ส่งถึงพนักงานเมื่อวันพุธว่า เพื่อให้ทวิตเตอร์เดินหน้าและประสบความสำเร็จในโลกที่มีการแข่งขันมากขึ้น พนักงานจะต้องอุทิศตนอย่างเต็มที่ ด้วยการทำงานนานขึ้นและเข้มข้นขึ้น ผู้มีผลงานโดดเด่นเท่านั้นจึงจะผ่านการทดสอบ โดยให้พนักงานกดลิงค์ยืนยันว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของ “ทวิตเตอร์ใหม่” ภายในเวลา 17.00 น. วันพฤหัสบดีตามเวลานิวยอร์ก ตรงกับเวลา 05.00 น.วันนี้ตามเวลาไทย ไม่เช่นนั้นจะตกงานโดยได้รับเงินชดเชย 3 เดือน.-สำนักข่าวไทย

“สี จิ้นผิง” ตำหนินายกฯ แคนาดา หลังข้อมูลหารือหลุด

บาหลี 17 พ.ย. – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ตำหนิ นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดาว่า แคนาดาปล่อยให้ข้อมูลการหารือทวิภาคีนอกเวทีประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่อินโดนีเซียรั่วไหลไปยังสื่อมวลชน สถานีโทรทัศน์ของแคนาดาได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น เห็นภาพประธานาธิบดีสีกับนายกรัฐมนตรีทรูโดยืนพูดคุยกันผ่านล่ามที่งานประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย ประธานาธิบดีสี ซึ่งมีรอยยิ้มบนใบหน้า กล่าวว่า ทุกเรื่องที่หารือกันเมื่อวันอังคารได้รั่วไหลไปยังสื่อ ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทั้งยังระบุว่า หากแคนาดามีความจริงใจต่อจีนในการหารือร่วมกัน เหตุการณ์นี้ก็ไม่สมควรเกิดขึ้น คลิปดังกล่าวเห็นนายกรัฐมนตรีทรูโดขัดจังหวะผู้นำจีนด้วยการเดินเข้าไปใกล้และกล่าวว่า แคนาดาเชื่อมั่นในการเจรจาที่อิสระ เปิดกว้าง และจริงใจ โดยยึดมั่นในแนวทางนี้มาโดยตลอด ทั้งยังระบุว่า แคนาดาจะยังคงมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับจีนอย่างสร้างสรรค์ แต่ก็มีหลายประเด็นที่แคนาดาเห็นแย้งกับจีน จากนั้น ประธานาธิบดีสีกล่าวว่า ทั้งสองประเทศควรสร้างบรรยากาศที่ดีร่วมกันก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนยิ้มอีกครั้ง จับมือกับผู้นำแคนาดา และเดินจากไป ด้านนายกรัฐมนตรีทรูโดตอบคำถามเรื่องนี้กับผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาว่า การเจรจาไม่ได้เป็นเรื่องง่ายทุกครั้งเสมอไป แต่การที่แคนาดายืนหยัดในประเด็นที่สำคัญอย่างยิ่งต่อประชาชนเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างสูง เจ้าหน้าที่ของแคนาดาระบุว่า นายกรัฐมนตรีทรูโดได้หารือร่วมกับประธานาธิบดีสีนอกเวทีประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 เมื่อวันอังคาร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่สื่อหลายแห่งรายงานว่า นายกรัฐมนตรีทรูโดได้หยิบยกเรื่องมีความกังวลอย่างยิ่งต่อข้อกล่าวหาเรื่องจีนจารกรรมข้อมูลและแทรกแซงการเลือกตั้งของแคนาดาขึ้นหารือกับผู้นำจีน. -สำนักข่าวไทย

เผย “อีลอน มัสก์” สั่ง พนง. ทวิตเตอร์ทำงานหนักขึ้น

แคลิฟอร์เนีย 17 พ.ย. – อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ คนใหม่ของทวิตเตอร์ ระบุว่า พนักงานของทวิตเตอร์ต้องทำงานคิดเป็นชั่วโมงที่มากขึ้นและหนักขึ้น หากไม่ยอมทำเช่นนั้นก็ควรลาออกจากบริษัท หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ของสหรัฐรายงานอ้างอีเมลที่ส่งถึงพนักงานทวิตเตอร์ว่า มัสก์ต้องการให้พนักงานทุกคนทำงานคิดเป็นจำนวนชั่วโมงที่มากขึ้นและหนักขึ้น หากไม่ยอมทำเช่นนั้นก็ควรลาออกจากบริษัท พนักงานทวิตเตอร์ควรเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวในกรณีที่ต้องการทำงานอยู่ที่นี่ต่อไป ส่วนใครที่ไม่ยอมลงชื่อเห็นด้วยกับแนวทางนี้ภายในวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐก็ควรลาออกจากบริษัท โดยทวิตเตอร์จะจ่ายเงินค่าชดเชยล่วงหน้า 3 เดือน ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานอ้างอีเมลฉบับเดียวกันที่ระบุคำพูดของมัสก์ว่า ทวิตเตอร์จำเป็นต้องใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อให้บริษัทประสบความสำเร็จ ทั้งยังระบุว่า พนักงานที่ต้องการทำงานที่ทวิตเตอร์ภายใต้กฎระเบียบใหม่จำเป็นต้องคลิกลิงก์ในอีเมลนี้ภายในเวลา 17.00 น. ของวันพฤหัสบดี แต่ไม่ว่าทุกคนจะตัดสินใจอย่างไร เขาก็ขอขอบคุณสำหรับความทุ่มเทเพื่อให้ทวิตเตอร์ประสบความสำเร็จ ก่อนหน้านี้ มัสก์ ซึ่งเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก ได้ประกาศว่า เขาจะปรับลดพนักงานของทวิตเตอร์ลงร้อยละ 50 หลังจากที่ปิดการเจรจาซื้อกิจการทวิตเตอร์ด้วยเงินมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.57 ล้านล้านบาท) เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ทั้งยังระบุว่า เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจำเป็นต้องปลดพนักงาน เนื่องจากทวิตเตอร์กำลังประสบปัญหาขาดทุนวันละ 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 143 ล้านบาท) และยังโทษกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ออกมากดดันผู้ลงโฆษณาในทวิตเตอร์ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้บริษัทมีผลกำไรลดลง. -สำนักข่าวไทย

ชี้สูบกัญชาทำร้ายปอดมากกว่าสูบบุหรี่

ออตตาวา 16 พ.ย.- ผลการศึกษาขนาดเล็กในแคนาดาพบว่า การสูบกัญชาอาจทำร้ายปอดและทางเดินหายใจมากกว่าการสูบบุหรี่ คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออตตาวาและโรงพยาบาลออตตาวาเปรียบเทียบผลเอ็กซ์เรย์ปอดของผู้สูบกัญชา 56 คน กับผู้สูบบุหรี่ 33 คน และผู้ไม่สูบทั้งกัญชาและบุหรี่ 57 คน ระหว่างปี 2548-2563 พบว่า ผู้สูบกัญชาเป็นประจำมีอัตราทางเดินหายใจอักเสบและเป็นโรคถุงลมโป่งพองมากกว่าผู้สูบบุหรี่เป็นประจำและผู้ไม่สูบเลย นักวิจัยชี้ว่า เรื่องนี้อาจเป็นเพราะวิธีการสูบที่แตกต่างกัน การสูบกัญชาไม่มีก้นกรอง ขณะที่การสูบบุหรี่มีก้นกรอง นอกจากนี้ผู้สูบกัญชายังมักอัดควันเข้าปอดมากกว่าและกลั้นไว้นานกว่าผู้สูบบุหรี่ ทำให้ทางเดินหายใจได้รับความเสียหายมากกว่า อย่างไรก็ดี นักวิจัยแนะนำว่า ควรมีการศึกษาผลกระทบของการสูบกัญชาที่มีต่อสุขภาพให้มากกว่านี้ แคนาดาให้การสูบกัญชาเพื่อสันทนาการเป็นสิ่งถูกกฎหมายตั้งแต่ปี 2561 เช่นเดียวกับเม็กซิโก อุรุกวัย และหลายประเทศ รวมทั้งหลายรัฐในสหรัฐ ขณะที่อีกหลายประเทศและดินแดนเพิ่งอนุญาตให้ครอบครองกัญชาได้อย่างถูกกฎหมาย และอนุญาตให้ใช้กัญชาทางการแพทย์เท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ประชากรโลกถึง 8 พันล้านคนในวันนี้

สหประชาชาติคาดการณ์ว่า ประชากรโลกจะมีจำนวนถึง 8 พันล้านคนในวันนี้ ในขณะที่อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศสำคัญที่ทำให้จำนวนประชากรโลกเพิ่มขึ้นกลับมีอัตราการเพิ่มของประชากรที่ลดลง

“มาครง” ชี้ฝรั่งเศสกับจีนต้องร่วมมือกันเรื่องสงครามยูเครน

บาหลี 15 พ.ย. – ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ระบุในการประชุมนอกเวทีกลุ่มจี 20 ร่วมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนว่า ฝรั่งเศสกับจีนต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเอาชนะผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสงครามในยูเครน ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุในแถลงการณ์หลังประธานาธิบดีมาครงเสร็จสิ้นการพบปะกับประธานาธิบดีสีในงานประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซียในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีมาครงได้แสดงความวิตกกังวลอย่างยิ่งจากกรณีที่รัสเซียตัดสินใจเดินหน้าทำสงครามในยูเครนจนยืดเยื้อยาวนาน เหตุขัดแย้งในครั้งนี้ส่งผลกระทบไปยังอีกหลายประเทศนอกทวีปยุโรป ฝรั่งเศสกับจีนจึงควรร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเอาชนะผลกระทบที่เกิดจากสงครามในยูเครน แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า ประธานาธิบดีมาครงกับประธานาธิบดีสีได้เห็นพ้องร่วมกันว่าจะต้องหาทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในยูเครนโดยด่วน และเน้นย้ำถึงจุดยืนในการป้องกันการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ในขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของทางการจีนระบุว่า จีนให้ความสำคัญกับการเคารพผลประโยชน์หลักซึ่งกันและกัน รวมถึงเรียกร้องให้ฝรั่งเศสเปิดโอกาสการทำธุรกิจที่ยุติธรรมและไม่เลือกปฏิบัติมากขึ้นให้แก่บริษัทของจีนในฝรั่งเศส ทั้งยังระบุถึงสถานการณ์ยูเครนไว้ในย่อหน้าสุดท้ายว่า ประธานาธิบดีสีได้แสดงจุดยืนของจีนต่อสถานการณ์ในยูเครนไว้อย่างชัดเจนและแน่วแน่มาโดยตลอด นั่นคือ จีนขอเรียกร้องให้มีการใช้คำสั่งหยุดยิง เร่งหาทางยุติความขัดแย้ง และหันไปใช้แนวทางเจรจาเพื่อสันติภาพ.-สำนักข่าวไทย

เผย “ยอโควิช” ได้รับวีซ่าแข่งออสเตรเลียนโอเพ่นปีหน้า

เมลเบิร์น 15 พ.ย. – สื่อของออสเตรเลียรายงานว่า โนวัค ยอโควิช อดีตนักเทนนิสมือวางอันดับ 1 ของโลก ชาวเซอร์เบีย ได้รับอนุมัติวีซ่าให้เดินทางเข้าออสเตรเลียเพื่อลงแข่งขันเทนนิสระดับแกรนด์สแลมรายการ ออสเตรเลียนโอเพ่น ในเดือนมกราคมปีหน้าแล้ว สถานีโทรทัศน์เอบีซี (ABC) ของทางการออสเตรเลีย รายงานวันนี้ว่า เอบีซีได้รับการยืนยันจากนายแอนดรูว์ ไจล์ส รัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลียว่า ออสเตรเลียจะไม่ใช้คำสั่งห้ามยอโควิช วัย 35 ปี เดินทางเข้าประเทศเป็นเวลา 3 ปีจนถึงปี 2568 หลังยอโควิชแพ้การยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งเนรเทศออกจากออสเตรเลียเมื่อช่วงต้นปีและถูกเนรเทศออกนอกประเทศ เนื่องจากเขาไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ก่อนเดินทางเข้าออสเตรเลีย หากรายงานข่าวเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ยอโควิชจะมีโอกาสลงแข่งขันในรายการออสเตรเลียนโอเพ่นในเดือนมกราคมปีหน้า อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลียได้ปฏิเสธให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานนี้ ขณะที่ยอโควิชกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังลงแข่งขันรอบแรกในรายการ เอทีพี ไฟนอลส์ ซึ่งเป็นการแข่งขันจบฤดูกาลสำหรับนักเทนนิสชายเดี่ยวที่มีอันดับสูงสุด 8 คน และนักเทนนิสชายคู่ที่มีอันดับสูงสุด 8 คู่ เมื่อคืนวันจันทร์ที่เมืองตูรินในอิตาลีว่า ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าเขาจะลงแข่งออสเตรเลียนโอเพ่นได้หรือไม่ และกำลังรอฟังประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลออสเตรเลีย ทั้งยังระบุว่า ทีมงานของเขากำลังติดต่อประสานงานกับรัฐบาลออสเตรเลียเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ ก่อนหน้านี้ นายเครก ไทลีย์ ผู้อำนวยการการจัดการแข่งขันรายการออสเตรเลียนโอเพ่น เผยเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า […]

“เซเลนสกี” วอนกลุ่มจี 20 เร่งยุติสงครามในยูเครน

บาหลี 15 พ.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เรียกร้องให้กลุ่มจี 20 ใช้ความเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพื่อยุติสงครามในยูเครนตามแผนสันติภาพที่เขาเป็นผู้เสนอ ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวผ่านวิดีโอที่เปิดในงานประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ว่า ยูเครนจะไม่ยอมให้รัสเซียมีเวลากลับไปรวบรวมกำลังทหาร และตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่สงครามของรัสเซียต้องจบสิ้นลง ผู้นำยูเครนยังเรียกร้องให้ผู้นำของกลุ่มจี 20 เช่น ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ใช้แผนสันติภาพ 10 ข้อที่เขาเสนอไว้เพื่อยุติสงครามอย่างเป็นธรรมและสอดคล้องตามหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ ประธานาธิบดีเซเลนสกี ซึ่งเรียกกลุ่มจี 20 ว่ากลุ่มจี 19 เนื่องจากไม่ต้องการนับรวมรัสเซียเป็นประเทศสมาชิกของกลุ่มจี 20 ยังเรียกร้องให้เวทีประชุมระดับนานาชาติประสานความร่วมมือด้านสถาปัตยกรรมด้านความมั่นคงหลังสงครามในภูมิภาคยูโร-แอตแลนติกเพื่อป้องกันการรุกรานของรัสเซียในอนาคต นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังเรียกร้องให้มีการฟื้นฟูด้านความปลอดภัยจากรังสีที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่ตกอยู่ในสมรภูมิรบระหว่างยูเครนกับรัสเซีย รวมถึงการใช้มาตรการจำกัดราคาพลังงานของรัสเซีย และการขยายเวลาของข้อตกลงขนส่งธัญพืชของยูเครน ทั้งยังระบุว่า หากรัสเซียคัดค้านแผนสันติภาพที่เขาเสนอ ก็เท่ากับรัสเซียต้องการทำสงครามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ซึ่งเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 แทนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย ได้นั่งอยู่ในห้องประชุมในระหว่างที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีกำลังกล่าวถึงประเด็นเกี่ยวกับรัสเซียหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

จีนพบผู้ป่วยโควิดสูงสุดในรอบ 7 เดือน

ปักกิ่ง 15 พ.ย. – จีนพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ 17,772 คน ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ขณะที่หลายเมืองของจีนประกาศลดการตรวจหาเชื้อโควิดในประชาชนตามนโยบายของจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากมาตรการคุมโควิดที่เข้มงวดของจีน นครกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งมีประชากรเกือบ 19 ล้านคน รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ทะลุ 5,000 คนเป็นครั้งแรก จนทำให้คาดว่าทางการท้องถิ่นอาจขยายการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในระดับเขต ขณะที่กรุงปักกิ่งของจีนพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 462 คน เพิ่มขึ้นจากวันอาทิตย์ที่มี 407 คน ส่วนทางการจีนรายงานว่า พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ทั่วประเทศในวันจันทร์จำนวน 17,772 คน เพิ่มขึ้นจากวันอาทิตย์ที่มี 16,072 คน ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน โดยพบผู้ป่วยโควิดส่วนใหญ่ที่นครเจิ้งโจวในมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของจีน และนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทั้งนี้ ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยสะสมกว่า 9.32 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 29,300 คน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า จีนกำลังประสบปัญหาในการบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากนโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์มายาวนานเกือบ 3 ปี หลังรายงานด้านเศรษฐกิจหลายชิ้นระบุว่า ยอดขายในอุตสาหกรรมค้าปลีกของจีนลดลงในเดือนตุลาคม […]

เผย “แอมะซอน” จ่อเลิกจ้างพนักงานราว 10,000 คน

นิวยอร์ก 15 พ.ย. – แอมะซอนดอทคอม (Amazon.com) ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของสหรัฐ เตรียมประกาศเลิกจ้างพนักงานฝ่ายองค์กรและเทคโนโลยีราว 10,000 คนอย่างเร็วที่สุดตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการปลดพนักงานครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของแอมะซอน หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สของสหรัฐรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามที่ระบุว่า แอมะซอนเตรียมประกาศเลิกจ้างพนักงานฝ่ายองค์กรและเทคโนโลยีราว 10,000 คนอย่างเร็วสุดตั้งแต่สัปดาห์นี้ การปลดพนักงานในครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของแอมะซอน เช่น อเล็กซา (Alexa) ระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ผู้ช่วยอัจฉริยะที่แอมะซอนพัฒนาขึ้น รวมถึงฝ่ายค้าปลีก และฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ แหล่งข่าวยังระบุว่า ขณะนี้ตัวเลขพนักงานที่จะถูกปลดนั้นยังไม่นิ่ง แต่ถ้าเป็นไปตามที่คาดว่ามีราว 10,000 คน ก็จะคิดเป็นร้อยละ 3 ของพนักงานฝ่ายองค์กรของแอมะซอน และไม่ถึงร้อยละ 1 ของพนักงานแอมะซอนทั่วโลกที่มีกว่า 1.5 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานจ้างรายชั่วโมง หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า แผนเลิกจ้างพนักงานดังกล่าวของแอมะซอนมีขึ้นในขณะที่ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ช่วงจับจ่ายใช้สอยในเทศกาลวันหยุดปลายปี ซึ่งเป็นช่วงที่แอมะซอนทำกำไรได้อย่างมั่นคง และแสดงให้เห็นว่าบริษัทหลายแห่งต่างได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็วจากพิษเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก จนทำให้องค์กรต้องปรับลดฝ่ายที่มีพนักงานมากเกินไป หรือฝ่ายที่มีผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้ แอมะซอนจะกลายเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีรายล่าสุดที่ประกาศเลิกจ้างพนักงานหลังมีบริษัทหลายแห่งได้ปรับลดพนักงานไปก่อนแล้ว อย่างไรก็ดี โฆษกของแอมะซอนได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

1 32 33 34 35 36 1,268
...