ปักกิ่ง 15 พ.ย. – จีนพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ 17,772 คน ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ขณะที่หลายเมืองของจีนประกาศลดการตรวจหาเชื้อโควิดในประชาชนตามนโยบายของจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากมาตรการคุมโควิดที่เข้มงวดของจีน
นครกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งมีประชากรเกือบ 19 ล้านคน รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ทะลุ 5,000 คนเป็นครั้งแรก จนทำให้คาดว่าทางการท้องถิ่นอาจขยายการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในระดับเขต ขณะที่กรุงปักกิ่งของจีนพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 462 คน เพิ่มขึ้นจากวันอาทิตย์ที่มี 407 คน ส่วนทางการจีนรายงานว่า พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ทั่วประเทศในวันจันทร์จำนวน 17,772 คน เพิ่มขึ้นจากวันอาทิตย์ที่มี 16,072 คน ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน โดยพบผู้ป่วยโควิดส่วนใหญ่ที่นครเจิ้งโจวในมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของจีน และนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทั้งนี้ ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยสะสมกว่า 9.32 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 29,300 คน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า จีนกำลังประสบปัญหาในการบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากนโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์มายาวนานเกือบ 3 ปี หลังรายงานด้านเศรษฐกิจหลายชิ้นระบุว่า ยอดขายในอุตสาหกรรมค้าปลีกของจีนลดลงในเดือนตุลาคม และกระบวนการผลิตในโรงงานของจีนหยุดชะงักลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี แม้ชาวจีนจำนวนมากจะรู้สึกดีขึ้นหลังทางการจีนประกาศผ่อนคลายนโยบายคุมโควิดที่เข้มงวดบางส่วนเมื่อวันศุกร์ แต่ก็เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิดที่หนักขึ้นในสัปดาห์นี้ รวมถึงความสับสนที่เกิดขึ้นในบางเมืองที่หยุดหรือปรับแนวทางการตรวจหาเชื้อโควิด.-สำนักข่าวไทย