นักเศรษฐศาสตร์เห็นต่างกันเรื่องรับมือเงินเฟ้อในเวียดนาม

ฮานอย 6 มิ.ย.- นักเศรษฐศาสตร์มีความคิดเห็นแตกต่างกันเรื่องรัฐบาลเวียดนามควรจะรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไรท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก อัตราเงินเฟ้อเวียดนามช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 2.25 สูงกว่า 5 เดือนแรกของปีก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 1.29 ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) คาดการณ์เมื่อเดือนก่อนว่า เงินเฟ้อเวียดนามจะแตะร้อยละ 3.7 ในปีนี้ ต่ำกว่าที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ไม่ให้เกินร้อยละ 4 นายจั่น ดินญ์ เทียน อดีตประธานสถาบันเศรษฐศาสตร์เวียดนามชี้ว่า หากรัฐบาลชะลอการใช้จ่ายเพราะกังวลภาวะเงินเฟ้อ จะกลายเป็นการเสียโอกาส ทางการต้องคิดนอกกรอบในช่วงเวลาที่สภาพการณ์ไม่ปกติเช่นนี้ เขามองว่าเศรษฐกิจมีแรงผลักดันให้ฟื้นตัวอยู่แล้ว และถึงแม้รัฐบาลไม่อัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อก็จะสูงเกินกว่าที่รัฐบาลจะควบคุมได้ รัฐบาลจึงควรยอมรับอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าร้อยละ 4 และอัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ ด้านนายหวู ทัน ตื่อ อัน มหาวิทยาลัยฟุลไบรท์เวียดนามกังวลว่า สงครามยูเครน-รัสเซียและอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐและสหภาพยุโรปหรืออียูที่สูงกว่าร้อยละ 8 จะทำให้อัตราเงินเฟ้อเวียดนามสูงยิ่งขึ้นไปอีก เพราะผลกระทบในปัจจุบันยังไม่ใช่ผลที่เกิดขึ้นอย่างเต็มตัว การอัดฉีดเงินเข้าเศรษฐกิจในเวลานี้อาจทำให้เกิดผลทางลบ รัฐบาลควรดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง ขณะที่นายแอนดรู เจฟฟรีส์ ผู้อำนวยการธนาคารพัฒนาเอเชียประจำเวียดนามแนะว่า เวียดนามควรจับตาดูผลกระทบภาวะเงินเฟ้อในระดับโลกต่อไป เพราะการผ่อนคลายนโยบายการเงินของสหรัฐและอียูอาจทำให้ราคาเชื้อเพลิงปรับเพิ่มขึ้นอีก ส่วนนายฟรองซัวส์ แปงโชด์ ผู้แทนกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ประจำเวียดนามชี้ว่า เวียดนามยังไม่ควรผ่อนคลายนโยบายทางการเงินในเวลานี้ […]

ไฟไหม้ท่าเรือบกบังกลาเทศ ตายเพิ่มเป็น 41 ราย

ธากา 6 มิ.ย. – เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของบังกลาเทศยังคงเร่งดับไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่สถานีตู้สินค้าที่มีพิธีการสินค้าขาเข้าและขาออก หรือท่าเรือบก ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ เป็นวันที่สามนับตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 41 ราย และผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเมืองสิตากุนทะระบุว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไหม้ส่วนใหญ่ได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถดับเพลิงได้ทั้งหมด เนื่องจากตู้สินค้าสารเคมีที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเสี่ยงระเบิดเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ทั้งยังระบุว่า ทหารบังกลาเทศได้เข้าร่วมในภารกิจดับเพลิงเพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีรั่วไหลลงคลองและอ่าวเบงกอล ในขณะเดียวกัน ทางการบังกลาเทศได้ปรับลดยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ท่าเรือบกเหลือ 41 ราย จากเดิม 49 ราย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน ในจำนวนนี้ มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย และมีตำรวจบาดเจ็บ 10 นายจากจำนวนเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่บาดเจ็บทั้งหมด 50 คน ด้านแพทย์ของเมืองจิตตะกองระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัสหลายราย อย่างไรก็ดี ทางการบังกลาเทศยังคงไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดที่ทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงคาดว่า อาจเกิดขึ้นจากเหตุเพลิงไหม้ตู้สินค้าไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ก่อนลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั่วท่าเรือบกแห่งนี้. -สำนักข่าวไทย

เวียดนามหาทางลดนิสัยใช้ถุงพลาสติก

โฮจิมินห์ 6 มิ.ย.-สื่อเวียดนามเผยว่า รัฐบาลกำลังหาทางลดการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง แต่การห้ามใช้อย่างสิ้นเชิงดูเหมือนเป็นหนทางอีกยาวไกล เว็บไซต์เวียดนามเอ็กซ์เพรสส์รายงานว่า ร้านค้าแห่งหนึ่งในเทศบาลเมืองถู่ดึ๊กจัดเตรียมกล่องกระดาษฟรีให้แก่ลูกค้าที่มาซื้อของ หากลูกค้าต้องการถุงพลาสติกจะคิดราคาถุงละ 15,000-21,000 ด่ง (ราว 22-31 บาท) เป็นถุงที่สามารถย่อยสลายได้ ขณะที่ลูกค้าขาประจำก็สนับสนุนแนวทางนี้ อย่างไรก็ดี มีร้านค้าเพียงไม่กี่แห่งที่ไม่แจกถุงพลาสติกให้แก่ลูกค้า และรัฐบาลกำลังหาทางเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเวียดนามประกาศเมื่อเดือนเมษายนว่า ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าในห้างสรรพสินค้าควรเลิกใช้ถุงพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษ หลังจากเมื่อเดือนมกราคมรัฐบาลได้ออกกฤษฎีกาแนะนำแนวทางการปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมปี 2563 ที่ห้ามผลิตถุงพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งหลังปี 2573 ด้านร้านค้าย่อยชี้ว่า รัฐบาลควรหาทางออกให้ผู้ค้าขายของได้โดยไม่ต้องใช้ถุงพลาสติก เพราะลูกค้าไม่นำภาชนะมาใส่ ผู้ค้าของสดจึงจำเป็นต้องใส่ถุง 2 ชั้นเพื่อให้ลูกค้าพอใจ ส่วนถุงพลาสติกแบบย่อยสลายได้ก็มีราคาแพงกว่าถุงพลาสติกทั่วไป ข้อมูลของกระทรวงฯ ระบุว่า ซูเปอร์มาร์เก็ตในเวียดนามใช้ถุงพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งเฉลี่ยวันละ 104,000 ใบ หรือราว 38 ล้านใบต่อปี ส่วนข้อมูลเมื่อปีที่แล้วระบุว่า ขยะมูลฝอยที่ถูกทิ้งในแต่ละวันเป็นขยะพลาสติกราวร้อยละ 7 หรือเกือบ 2,500 ตัน และแต่ละปีเวียดนามทิ้งขยะพลาสติกลงมหาสมุทรมากถึง 280,000-730,000 ตัน รัฐบาลเวียดนามสมัยนายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุกออกแผนปฏิบัติการระดับชาติในปี 2562 […]

สิงคโปร์เผยนักท่องเที่ยวที่แวะเปลี่ยนเครื่องติดฝีดาษลิง

สิงคโปร์ 6 มิ.ย. – กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์เผยวันนี้ว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางจากสเปน แวะเปลี่ยนเครื่องบินที่สิงคโปร์ และเดินทางต่อไปยังออสเตรเลียเมื่อสัปดาห์ก่อนมีผลตรวจติดโรคฝีดาษลิงหลังเดินทางถึงออสเตรเลีย กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ระบุว่า นักท่องเที่ยวรายนี้เดินทางจากเมืองบาร์เซโลนาของสเปนเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน และแวะเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานชางงีของสิงคโปร์เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน เขาได้ใช้เวลาอยู่ในจุดพักเปลี่ยนเครื่องในสนามบินชางงีเป็นช่วงเวลาหนึ่งจนกระทั่งขึ้นเครื่องบินออกเดินทางไปยังนครซิดนีย์ของออสเตรเลียในวันเดียวกัน อย่างไรก็ดี เมื่อนักท่องเที่ยวรายนี้เดินทางถึงนครซิดนีย์ในวันที่ 3 มิถุนายน เขามีผลตรวจติดโรคฝีดาษลิง กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ยังระบุว่า นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวอยู่แต่ในจุดพักเปลี่ยนเครื่อง ไม่ได้เดินทางเข้าสิงคโปร์ หรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในชุมชน จึงยังไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในสิงคโปร์อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดี ทางการสิงคโปร์ได้เร่งติดตามผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวใน 2 เที่ยวบิน รวมถึงผู้ที่อาจมีปฏิสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยวคนนี้ที่จุดพักเปลี่ยนเครื่อง ผลการประเมินไม่พบผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิด จึงไม่จำเป็นต้องมีการกักโรคเพื่อดูอาการ แต่ได้ให้นักเดินทาง 13 คนที่เข้าข่ายมีปฏิสัมพันธ์เข้าสู่กระบวนการเฝ้าระวังโรคผ่านทางโทรศัพท์เป็นเวลา 21 วัน ทางการจะโทรศัพท์ติดตามสถานะด้านสุขภาพทุกวันจนกว่าจะครบกำหนด. -สำนักข่าวไทย

ชายมาเลเซียฆ่าหั่นศพมารดาเพราะไม่พอใจเรื่องมรดก

กัวลาลัมเปอร์ 6 มิ.ย. – ตำรวจมาเลเซียเผยว่า ชายมาเลเซียได้ก่อเหตุฆ่ามารดาและหั่นศพเป็น 15 ชิ้น ก่อนนำไปทิ้งในบ่อบำบัดน้ำเสียที่ตั้งอยู่หลังบ้านที่เมืองอีโปห์ ในรัฐเประของมาเลเซีย เนื่องจากไม่พอใจเรื่องมรดกที่ได้จากบิดาที่เสียชีวิต ตำรวจรัฐเประของมาเลเซียระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมชายมาเลเซีย วัย 42 ปี ซึ่งมีอาการผิดปกติทางจิต หลังก่อเหตุฆ่าหั่นศพมารดา วัย 68 ปี ในบ้าน ก่อนนำไปทิ้งในบ่อบำบัดน้ำเสีย จากการสอบสวนเบื้องต้น ชายคนดังกล่าวยอมรับว่า เขาตัดสินใจทำเช่นนี้ เพราะไม่พอใจเรื่องมรดกที่ได้จากบิดาที่เพิ่งเสียชีวิต ทั้งนี้ เขาอาศัยอยู่กับมารดาที่บ้านหลังนี้มาเป็นเวลานานถึง 12 ปี ตำรวจรัฐเประยังระบุว่า ชาวบ้านใกล้เคียงได้แจ้งเหตุกลิ่นเหม็นลอยคลุ้งมาจากบ้านของชายคนดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจค้นและพบศพที่ถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ อยู่ในบ่อบำบัดน้ำเสียหลังบ้าน จึงจับกุมชายคนนี้ทันทีเมื่อวันอาทิตย์ นอกจากนี้ ตำรวจยังพบมีดเล็ก 2 เล่ม และมีดขนาดใหญ่ 1 เล่ม ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นมีดที่ชายคนดังกล่าวใช้ฆ่ามารดา โดยที่ชายคนนี้ได้ใช้อาวุธตีศีรษะมารดาจนสลบ ก่อนหั่นศพมารดาออกเป็น 15 ชิ้น. -สำนักข่าวไทย

“เซเลนสกี” ลงพื้นที่ใกล้แนวรบปะทะรัสเซีย

เคียฟ 6 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยว่า เขาได้เดินทางไปเมืองลิซิคานสก์ในแคว้นลูฮันสก์ และเมืองโซเลดาร์ในแคว้นโดเนตสก์  ซึ่งเป็นสองเมืองทางตะวันออกของยูเครนที่อยู่ใกล้กับหลายเมืองที่กำลังสู้รบอย่างดุเดือดกับกองทัพรัสเซีย ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวผ่านคลิปวิดีโอเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ว่า เขาได้เดินทางไปเมืองลิซิคานสก์และเมืองโซเลดาร์ในภาคตะวันออกของยูเครนพร้อมกับคณะทำงาน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมืองแรกอยู่ห่างจากเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ไปทางใต้เพียงไม่กี่กิโลเมตร เมืองเซียเวียโรโดเนตสก์เป็นหนึ่งในสนามรบใหญ่ระหว่างรัสเซียกับยูเครน และยูเครนอ้างว่ายึดพื้นที่คืนจากรัสเซียได้มากขึ้นแล้ว คลิปวิดีโออีก 2 คลิปที่เผยแพร่ในเวลาต่อมาแสดงให้เห็นภาพประธานาธิบดีเซเลนสกีสวมเสื้อยืดสีกากีกำลังพูดคุยกับกองทหารยูเครนในสถานที่คล้ายหลุมหลบภัยแคบ ๆ และมอบรางวัลบางอย่าง เขากล่าวกับกำลังพลว่า สิ่งที่ทุกคนสมควรได้รับคือชัยชนะ ไม่ใช่ความเสียหาย อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์สไม่สามารถยืนยันในขณะนี้ว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวบันทึกในเมืองลิซิคานสก์และเมืองโซเลดาร์จริงหรือไม่ สำนักข่าวรอยเตอร์สตั้งข้อสังเกตว่า โดยปกติประธานาธิบดีเซเลนสกีมักไม่ค่อยเดินทางออกนอกกรุงเคียฟนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ และการเดินทางในครั้งนี้ถือเป็นการลงพื้นที่ใกล้แนวรบด่านหน้ามากที่สุด ทั้งนี้ เมืองลิซิคานสก์และเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ตั้งอยู่ในแคว้นลูฮันสก์ ส่วนเมืองโซเลดาร์อยู่ในแคว้นโดเนตสก์ โดยที่ทั้งสองแคว้นเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคดอนบาสที่เป็นแหล่งอุตสาหกรรมสำคัญของยูเครน ซึ่งรัสเซียอ้างว่าต้องการใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารเพื่อปลดแอกภูมิภาคนี้. -สำนักข่าวไทย

พรรครัฐบาลกัมพูชากวาดชัยชนะเลือกตั้งท้องถิ่น

พนมเปญ 6 มิ.ย.- พรรคประชาชนกัมพูชาหรือซีพีพี (CPP) ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซนกวาดชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งท้องถิ่นกัมพูชาเมื่อวันอาทิตย์ โฆษกซีพีพีเผยกับสำนักข่าวเกียวโดนิวส์ของญี่ปุ่นในวันนี้ว่า ผลคะแนนเบื้องต้นชี้ว่าพรรคได้ที่นั่งท้องถิ่นเกือบหมดทั้ง 1,652 เขตทั่วประเทศ มีผู้ออกไปสิทธิเกือบร้อยละ 80 ของผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้ง 9 ล้าน 2 แสนคน เพื่อเลือกสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีรวม 11,622 คน จากผู้สมัครที่มีมากกว่า 86,000 คนของ 17 พรรคการเมือง เป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งที่ 5 จัดขึ้นทุก 5 ปี มาตั้งแต่ปี 2545 ด้านรองประธานพรรคเพลิงเทียนที่เป็นฝ่ายค้านเผยว่า ได้คะแนนมากเป็นอันดับ 2 รองจากพรรคซีพีพี โดยอาจได้สมาชิกสภาเทศบาลประมาณ 2,000 คน การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งหลังสุดในปี 2560 พรรคกู้ชาติกัมพูชาหรือซีเอ็นอาร์พี (CNRP) ซึ่งเป็นฝ่ายค้านหลักกวาดคะแนนเสียงถึง 3 ล้าน 6 หมื่นคะแนน คิดเป็นร้อยละ 43.8 แต่พรรคถูกศาลฎีกาสั่งยุบพรรคในข้อหาเป็นกบฏ ทำให้พรรคไม่ได้ลงเลือกตั้งทั่วไปในปี 2561 ส่วนพรรคเพลิงเทียนที่ลงเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ก่อตั้งขึ้นโดยนายสม […]

อังกฤษส่งขีปนาวุธพิสัยไกลให้ยูเครนแม้รัสเซียเตือน

ลอนดอน 6 มิ.ย.- อังกฤษกำลังจัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกลชุดแรกให้แก่ยูเครน แม้ว่ารัสเซียขู่จะโจมตีเป้าหมายใหม่ในยูเครน หากชาติตะวันตกส่งขีปนาวุธพิสัยไกลให้แก่ยูเครน นายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษแถลงว่า อังกฤษกำลังแสดงบทบาทนำในการจัดส่งอาวุธสำคัญที่กองทัพยูเครนต้องการใช้ปกป้องประเทศจากการรุกรานที่ไม่ได้เกิดจากการยั่วยุ แต่เนื่องจากรัสเซียปรับเปลี่ยนยุทธวิธี อังกฤษจึงต้องปรับเปลี่ยนการสนับสนุนยูเครนเช่นกัน เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องเอ็ม 270 (M270) ที่มีศักยภาพสูงจะช่วยให้ยูเครนสามารถปกป้องตัวเองได้ดีขึ้น จากการที่ถูกกองกำลังรัสเซียยิงปืนใหญ่พิสัยไกลถล่มอย่างไม่เลือกหน้าจนบ้านเมืองราบเป็นหน้ากลอง รัฐบาลอังกฤษเผยว่า จะให้กำลังพลยูเครนเดินทางมาฝึกการใช้งานเครื่องยิงจรวดที่อังกฤษในเร็ว ๆ นี้ แต่ไม่ได้ยืนยันว่าจะจัดส่งให้ยูเครนจำนวนกี่เครื่อง บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) คาดว่าจะจัดส่งให้ก่อน 3 เครื่อง เครื่องยิงแบบนี้สามารถยิงขีปนาวุธจากพื้นสู่พื้นจำนวน 12 ลูกได้ภายใน 1 นาที สามารถโจมตีเป้าหมายในระยะ 80 กิโลเมตรอย่างแม่นยำไม่มีผิดพลาด ไกลกว่าเครื่องยิงจรวดที่ยูเครนมีอยู่ในปัจจุบัน และคล้ายกับเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรเอ็ม 142 (M142) ที่สหรัฐกำลังจัดส่งให้ยูเครน เป็นการประสานงานกันจัดส่งอาวุธให้ยูเครน แม้ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียขู่เมื่อวันอาทิตย์ว่า จะขยายเป้าหมายการโจมตีในยูเครน หากชาติตะวันตกจัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกลให้แก่ยูเครน.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนระบุรัสเซียโจมตีเป้าหมายพลเรือน

ทางการยูเครนนำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่กรุงเคียฟ พร้อมปฏิเสธคำกล่าวอ้างของรัสเซียที่ระบุว่าได้โจมตีคลังซ่อมบำรุงและเก็บรถถัง ชี้เป็นโรงงานผลิตรถไฟของพลเรือน

WHO เผยพบผู้ป่วยฝีดาษลิง 780 คนหลังระบาด 3 สัปดาห์

เจนีวา 6 มิ.ย. – องค์การอนามัยโลกเผยว่า พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในประเทศนอกทวีปแอฟริกาทั้งหมด 780 คน เพิ่มขึ้น 3 เท่า จากเมื่อสัปดาห์ก่อนที่มีราว 257 คน หลังจากที่โรคดังกล่าวได้แพร่เชื้อใน 27 ประเทศที่พบการระบาดได้ยากมาเป็นเวลา 3 สัปดาห์ องค์การอนามัยโลกระบุในรายงานสถานการณ์ระบาดของโรคฝีดาษลิงล่าสุดว่า ตัวเลขผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในประเทศนอกทวีปแอฟริกาในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาอาจต่ำกว่าความเป็นจริง แต่ยังคงประเมินให้โรคนี้มีความเสี่ยงระดับปานกลางทั่วโลก ทั้งยังระบุว่า พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายใหม่ส่วนใหญ่ในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ รวมถึงผู้ป่วยรายใหม่จำนวนไม่มากในเม็กซิโก อาร์เจนตินา โมร็อกโก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ขณะที่อังกฤษมียอดผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากที่สุดถึง 207 คน ตามด้วยสเปน 156 คน และโปรตุเกส 138 คน แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ องค์การอนามัยโลกยังรายงานว่า มีบางประเทศพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายใหม่ที่ไม่มีประวัติใกล้ชิดผู้ป่วย สะท้อนว่าห่วงโซ่การติดเชื้ออาจขาดตอนไปเพราะตรวจไม่พบเชื้อไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ ทำให้มีแนวโน้มสูงที่จะพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายใหม่ในประเทศอื่น ๆ รวมถึงทำให้พบการแพร่กระจายมากขึ้น นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกยังระบุว่า ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงจำนวนมากไม่ได้มีอาการเหมือนในภาพถ่ายทางคลินิกที่เห็นกันทั่วไป แต่มีผู้ป่วยบางรายเผยว่ามีตุ่มหนองเกิดขึ้นบนผิวหนังก่อนอาการอื่น ๆ เช่น มีไข้ ปวดหัว […]

เกิดเหตุสังหารหมู่ที่โบสถ์ในไนจีเรีย

ลากอส 6 มิ.ย.- กลุ่มมือปืนบุกเข้าไปกราดยิงและปลดชนวนระเบิดในโบสถ์คาทอลิกแห่งหนึ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไนจีเรียเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดที่โบสถ์เซนต์ฟรานซิสในรัฐออนโดขณะที่คริสตชนกำลังประกอบศาสนพิธีเนื่องในวันเปนเตกอสเต หรือวันสมโภชจิตพระเจ้า ซึ่งเป็นวันที่ 50 หลังการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซู คาดว่ามีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 50 คน และมีเด็กจำนวนมากรวมอยู่ด้วย ส่วนบาทหลวงผู้ประกอบพิธีถูกกลุ่มมือปืนลักพาตัวไป ขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างตัวว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ประธานาธิบดีมูฮัมมาดู บูฮารีของไนจีเรียแถลงประณามผู้ก่อเหตุว่า มีแต่ปีศาจซาตานเท่านั้นที่ทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ได้ ขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกสวดภาวนาให้แก่ผู้ตกเป็นเหยื่อและไนจีเรียที่เผชิญความเจ็บปวดในช่วงเวลาแห่งการฉลองวันเปนเตกอสเต ขอให้พระผู้เป็นเจ้าโอบรับเพื่อปลอบโยนดวงวิญญาณของพวกเขา.-สำนักข่าวไทย

1 122 123 124 125 126 1,268
...