กรุงเทพฯ 2 ธ.ค.อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ปรับกลยุทธ์ปี 2564 ปรับตัวตลอดเวลา รับมือความเปลี่ยนแปลง นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจอีเวนต์มีความอ่อนไหวมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ ลูกค้าจะตัดงบก่อน ซึ่งปีนี้ผู้ประกอบการไม่ได้ทำอีเวนต์ งานทั้งหมดถูกเลื่อน และยกเลิกเกือบ 100% ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงมิถุนายน โดยในเดือนกรกฎาคมเราเริ่มพลิกวงการบันเทิงด้วยการจัด Hybrid Concert ครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งปกติในช่วงไตรมาส 4 จะเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจอีเวนต์ จากเดิมที่สถานการณ์เลวร้ายอยู่แล้ว และมีความเสี่ยงในการเกิดโควิดระลอก 2 ตบท้ายด้วยการชุมนุมประท้วง ถือเป็นตัวเร่งให้ตลาดเลวร้ายขึ้นอีก เพราะมีผล ในเชิงจิตวิทยาและด้านการตลาด รวมถึงการจัดงานบันเทิง งานแฟร์ทั้งระบบมีมูลค่าร่วม 3 แสนล้านบาท มีคนทำงานในซัพพลายเชนมากมายมหาศาล ส่วนอีเวนท์มาร์เก็ตติ้ง มีมูลค่าราว 1.4 หมื่นล้านบาท ปีนี้คาดสูญเม็ดเงินร้อยละ 60 และหากการชุมนุมยืดเยื้อ คาดว่าจะกระทบการจ้างงานหลักแสนจากปัจจุบันมีคนตกงานนับล้านคน นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า ช่วงโควิดบริษัทปั้นธุรกิจใหม่มากมาย ทั้ง Kill & Klean แฟรนไชส์ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ซึ่งมีจำนวนแฟรนไชส์ทั้งหมด 25 แฟรนไชส์ ขยายไปยัง 6 ประเทศ 28 เมือง, การประมูลสินค้าออนไลน์ “คืนปล่อยของ”,เวทีคอนเสิร์ตคืนรอยยิ้ม โดยใช้โมเดล “Friendship Economy”, ANYA MEDITEC ที่ปรับโฉมโรงแรมเป็นโรงพยาบาล ซึ่งตอนนี้เรามี Partner ทั้งหมด 5 โรงแรม ได้แก่ Peninsula Hotel Bangkok, Staybridge Suites Bangkok Thonglor, Chatrium Hotel Riverside Bangkok Royal Cliff Beach Pattaya และศิริปันนาวิลล่า รีสอร์ท เชียงใหม่ ล่าสุดเปิดตัว “House of Illumination” ศิลปะดิจิทัลทีใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ เซ็นทรัลแกลอรี ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ จัดระหว่างวันที่ 28 ต.ค. 2563 – 28 ต.ค. 2565 แผนของอินเด็กซ์ฯ จากนี้ในปี 2564 จะรุกธุรกิจในส่วนของน็อนอีเวนต์ (NON-EVENT) มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในรูปแบบของOwn Project โดยไฮไลท์ปีหน้า จะเน้นจับตลาดท่องเที่ยว การสร้างแลนด์มาร์คใหม่ๆ ในเมืองรอง อีกส่วนมุ่งเจาะธุรกิจด้าน“Healthcare” เพื่อตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง อีกทั้งเป็นการช่วยเหลือให้ธุรกิจอื่นๆ “ฟื้นตัว” และเติบโตไปด้วยกัน เตรียมส่งโปรเจกต์ สร้างสรรค์ Illumination ที่สร้างความสดและใหม่ให้กับวงการทันที ด้วยพื้นฐานหลักของความคิดสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ตลอดทั้งปี เริ่มจากงานแสดงไลท์เฟสติวัล Village of Illumination ที่สิงห์ปาร์ค เชียงราย วันที่ 1 ม.ค. 2564 -14 ก.พ. 2564, งานแสดงประติมากรรมไฟสุดยิ่งใหญ่ ครั้งแรกในภาคอีสาน วันที่ 7- 21 ก.พ. 2564 จังหวัดอุดรธานี โดยผลการดำเนินงานในปี 2563 ได้รับผลกระทบหนักจากพิษโควิด-19 มาตรการล็อกดาวน์ และการประกาศเคอร์ฟิว ส่งให้ผลประกอบการของบริษัทในปี 2563 อยู่ที่ 460 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 69 ซึ่งมาจากสัดส่วน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ1.กลุ่มครีเอทีฟบิซซิเนส ดีเวลลอปเม้นท์ (Creative Business Development ลดลงร้อยละ 37 2. กลุ่มมาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส(Marketing Service) ลดลงร้อยละ78.4 และ 3. กลุ่มโอน-โปรเจค (Own-Project) ลดลง ร้อยละ45 เมื่อเทียบกับปีที่ก่อน -สำนักข่าวไทย.