กรุงเทพฯ 2 ธ.ค. หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ลงนามบันทึกความร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลพัฒนาบริการอัจฉริยะ 5G ที่ขับเคลื่อนด้วยคลาวด์และ AI
นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยี่ (ประเทศไทย)จำกัด และนพ. ประสิทธิ์ วัฒนาภาคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ลงนามความร่วมมือการยกระดับบริการด้วยการก้าวสู่การเป็นศูนย์การแพทย์อัจฉริยะที่จะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการผสมผสานโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี 5G, AI, Big Data และการประมวลผลแบบ Cloud Edge
ภายใต้ข้อตกลงระยะเวลา 5 ปีนี้ หัวเว่ยจะสนับสนุนด้านเทคโนโลยี 5G ให้แก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ รวมถึงแบ่งปันความรู้ และร่วมมือกับนักวิจัยและคณาจารย์ทางการแพทย์ของศิริราชในการจัดทำโครงการ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาโครงการที่จะเกิดขึ้นในระหว่างความร่วมมือภายใต้บันทึกข้อตกลงฉบับนี้
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และหัวเว่ย ยังร่วมผนึกกำลังเพื่อพัฒนาอีโคซิสเต็ม 5G ต่อไป มุ่งส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยีและนวัตกรรมในรูปแบบของการจัดกิจกรรมสาธิตและนิทรรศการ ทั้งยังเสาะหาความร่วมมือด้านวิชาการ ตลอดจนจัดการฝึกอบรมหรือถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยี เพื่อศึกษานวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยี 5G, AI, Cloud
โอกาสนี้ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ยังได้รับรางวัล CommunicAsia 2020 ในสาขา “การทดสอบ 5G ที่มีนวัตกรรมสร้างสรรค์ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก” (Most Innovative 5G Trial in Asia Pacific) จากความสำเร็จในการนำโซลูชันการตรวจวิเคราะห์โควิด-19 ด้วยเทคโนโลยี 5G+Cloud+AI มาใช้ในการวินิจฉัยโรค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความแม่นยำในการตรวจวิเคราะห์ ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค
“นับเป็นโอกาสดีที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้จับมือเป็นพันธมิตรกับหัวเว่ยในบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานด้านบริการของเรา และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดีขึ้น ทั้งยังถือเป็นก้าวแรกในการพัฒนาโรงพยาบาลรัฐอัจฉริยะ 5G แห่งแรกในประเทศไทย โอกาสนี้ ผมขอขอบคุณหัวเว่ยที่ให้ความร่วมมือในการนำนวัตกรรมบนรากฐานเทคโนโลยี 5G, Cloud และ AI มาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมด้านการแพทย์ และร่วมผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเสมอมา” นพ. ประสิทธิ์ กล่าว
ด้านนายอาเบล เติ้ง กล่าวว่า ภาคการดูแลสุขภาพจะได้ประโยชน์มหาศาลจากนวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะในยุคดิจิทัล เราต้องการที่จะเดินเคียงข้างไปกับประเทศไทยเพื่อพัฒนาอีโคซิสเต็มด้านการดูแลรักษาสุขภาพที่แข็งแกร่งและเชื่อมโยงถึงกัน เพื่อให้ชุมชนที่อยู่ห่างไกลมีโอกาสเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้มากยิ่งขึ้น และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป-สำนักข่าวไทย.