จีนกังวลอย่างยิ่งต่อการปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา

ปักกิ่ง 24 ก.ค. – กระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าววันนี้ว่า จีนมีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ กัว เจียคุน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันว่า จีนจะแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์ในการส่งเสริมแนวทางการลดความตึงเครียด พร้อมเสริมว่าจีนยึดมั่นในจุดยืนของความยุติธรรมและเที่ยงตรง.-813.-สำนักข่าวไทย

“โรม” ย้ำกัมพูชาต้องการเล่นบทเหยื่อ เพื่อลากไทยขึ้นศาลโลก

รัฐสภา 24 ก.ค.- “โรม” ย้ำ สถานการณ์ชายแดนต้องทำให้นานาอารยประเทศทราบ เหตุ ‘กัมพูชา’ ต้องการเล่นบทเหยื่อ เพื่อลากขึ้นศาลโลก-ทำไทยเสียหาย ยัน ไม่ใช่ห้ามตอบโต้ แต่เราต้องบรรลุเป้าหมายชนะภาพรวมทั้งหมด-ไม่ทำให้เขาได้ในสิ่งที่ต้องการ เผย กมธ.มั่นคงฯ เตรียมออกหนังสือเรียก ‘นายกฯ-ภูมิธรรม-มาริษ’ ใหม่ ประชุม 31 ก.ค.นี้ หลังที่ประชุมมีมติ ไม่ให้ผู้ถูกมอบหมายชี้แจงแทน นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังการประชุมในวันนี้ วาระพิจารณากรณีความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา และกรณีคลิปสนทนาของนายกรัฐมนตรีและฮุน เซน จากกรณีใช้อำนาจเรียกบุคคลให้มาแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความเห็นต่อคณะกรรมาธิการฯ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อำนาจเรียกของคณะกรรมาธิการของรัฐสภาคณะกรรมาธิการฯ กว่า 10 รายชื่อ ว่า ที่ประชุมมีมติให้บุคคลอื่นที่เข้าชี้แจงแทน ไม่มีอำนาจในการชี้แจงแทน จึงเหลือเพียง 3 หน่วยงานที่สามารถให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการฯ ได้ และหลังจากนี้ จะมีการออกหนังสือเรียกอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้มีการมาชี้แจงในการประชุมครั้งถัดไป […]

“กธ.” ร้องใช้มาตรการทางทหาร-การทูตอย่างแข็งกร้าวเด็ดขาด

พรรคกล้า 24 ก.ค.- “กล้าธรรม” ประณาม กัมพูชา ใช้อาวุธ ไร้มนุษยธรรม เรียกร้องรัฐบาลดำเนินมาตรการทางการทหารและการทูตอย่างแข็งกร้าวและเด็ดขาด นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 และโฆษกพรรคกล้าธรรม เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนในหลายจังหวัด ที่ล่าสุดมีประชาชนเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ หลายราย พรรคกล้าธรรม ขอประณาม การกระทำของกัมพูชา โดยเฉพาะการใช้อาวุธ จรวดหลายลำกล้อง โดยไม่คำนึงถึงมนุษยธรรม เข้าบ้านเรือนประชาชนผู้บริสุทธ์ ทั้งนี้พรรคกล้าธรรมขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่ง สุดท้ายนี้พรรคกล้าธรรมขอยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องประชาชน และพร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิ อธิปไตย และความสงบสุขของประเทศไทย เราจะไม่ยอมให้แผ่นดินของเราถูกล่วงละเมิดแม้แต่ตารางนิ้ว -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” โพสต์หนุนทุกมาตรการตอบโต้ของไทย

กทม. 24 ก.ค.- “แพทองธาร” ย้ำประณาม “กัมพูชา” หนุนทุกมาตรการตอบโต้ของไทย ภายใต้กรอบกฎหมายและหลักสากล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระบุข้อความว่า “ดิฉันขอประณามกัมพูชา ต่อการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย ตามข้อเท็จจริง ทางฝ่ายกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน และมีการยิงในวิถีไกลเข้าสู่เขตแดนไทย ถือว่าเป็นการละเมิดหลักปฏิบัติสากลตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักสิทธิมนุษชนและจริยธรรมอันดีอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายไทยพยายามอย่างเต็มที่ ผ่านการเจรจาพูดคุยตามหลักปฏิบัติทางการทูต เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย หลีกเลี่ยงการปะทะและความสูญเสีย ด้วยความอดทน อดกลั้น และยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีมาโดยตลอด เพราะเชื่อมั่นว่าสันติภาพ คือแนวทางที่ดีที่สุดในการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างประเทศ จากการรายงานของฝ่ายความมั่นคง ขอยืนยันว่าหน่วยงานทุกภาคส่วนได้ดำเนินการอย่างเต็มกำลัง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามาตรการต่างๆ ที่กำลังดำเนินอยู่ จะสามารถยุติความรุนแรง และนำความสงบกลับคืนสู่ประชาชนโดยเร็ว ดิฉันขอสนับสนุนทุกมาตรการตอบโต้ของรัฐบาล กองทัพ และกระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้กรอบของกฎหมาย และหลักการสากล พร้อมส่งกำลังใจไปยังเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องเอกราช และอธิปไตยของชาติ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ดิฉันขอส่งความห่วงใย และกำลังใจให้ทุกท่านปลอดภัย ตลอดจนปฏิบัติตามมาตรการในการหลบภัยจากรัฐบาล เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดิฉันให้ความสำคัญสูงสุดค่ะ”.-315 -สำนักข่าวไทย

อพยพประชาชนแนวชายแดนเข้าตัวเมืองสุรินทร์

สุรินทร์ 24 ก.ค. – อพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวเมืองสุรินทร์แล้ว โดยจุคนได้กว่า 140,000 คน อยู่ห่างจากแนวชายแดนกว่า 50 กม. คืบหน้าสถานการณ์ชายแดน จ.สุรินทร์ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ 4 อำเภอ คือ พนมดงรัก, กาบเชิง, สังขะ และ อ.บัวเชด มีราษฎรได้รับผลกระทบ 22 ตำบล 287 หมู่บ้าน ซึ่งทางการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้ว โดยจุคนได้กว่า 140,000 คน และอยู่ชั้นในห่างจากแนวชายแดนกว่า 50 กิโลเมตร รวมถึงผู้ที่ตกค้างในหลุมหลบภัย ล่าสุดมีการอพยพชาวบ้านทั้งหมดย้ายเข้าไปอยู่ในตัวเมืองสุรินทร์แล้ว เนื่องจากไม่ปลอดภัยจากวิถีกระสุน ส่วนที่คลังเลือดโรงพยาบาล ขยายเวลาการรับบริจาคโลหิตไปจนถึงเวลา 22.00 น. เพื่อรองรับสถานการณ์ชายแดน ด้านกระทรวงมหาดไทย ยืนยันมีความพร้อมอพยพประชาชน โดยมีการประสานผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดนตั้งแต่ช่วงเช้า พร้อมชี้แจงเหตุชาวบ้านเสียชีวิตไม่ใช่ความล่าช้า แต่อยู่ระหว่างขนคนออกจากพื้นที่เสี่ยง.-สำนักข่าวไทย

ทบ.รายงานยอดผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เหตุปะทะชายแดนกัมพูชา

24 ก.ค.- “กองทัพบก” อัปเดตเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ประชาชนเสียชีวิต 9 ราย เป็นเด็ก 1 ราย เจ็บ 14 ราย พร้อมประณามกัมพูชา ใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การปะทะพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา อันสืบเนื่องมาจากฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ฐานทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เมื่อเช้าวันนี้ (24 ก.ค. 68) ปัจจุบันกองทัพบกได้รับรายงานเบื้องต้นจากส่วนราชการในพื้นที่ว่า มีพื้นที่พลเรือนตกเป็นเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงมีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้ ทั้งนี้ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงต่อเป้าหมายพลเรือนของฝ่ายกัมพูชา และพร้อมดำเนินการทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยและประชาชนจากการกระทำอันผิดหลักมนุษยธรรมดังกล่าวอย่างถึงที่สุด -สำนักข่าวไทย

ประณาม ‘กัมพูชา’ ไร้เกียรติเยี่ยงสุนัขลอบกัด เลือกใช้วิธีรุนแรง

รัฐสภา 24 ก.ค.- กมธ.ทหาร วุฒิสภา ประณาม ‘กัมพูชา’ จากการกระทําอันไร้เกียรติเยี่ยงสุนัขลอบกัด ชี้ ‘ผู้นํารัฐบาลกัมพูชา’ ไร้จิตสํานึก-ไร้ความละอาย เลือกใช้วิธีการรุนแรง แทนการใช้สันติวิธี เบี่ยงเบนกลบเกลื่อนเรื่องเลวร้ายที่ตนเองสร้างขึ้น คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา นำโดยพลเอกสวัสดิ์ ทัศนา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการฯ อ่านแถลงการณ์ประณามการกระทําอันรุนแรงและไร้ยางอายของกัมพูชา ในเข้าวันนี้ ระบุว่า วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ทหารกัมพูชา ได้ละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย โดยใช้อาวุธหนักหลายประเภท ทั้งจรวด BM-21 ปืนใหญ่ RPG รวมทั้งปืนเล็ก ระดมยิงเข้ามาในเขตประเทศไทย ตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ด้านจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ทําให้ประชาชนคนไทย ต้องสูญเสียชีวิต และบาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย ถือเป็น การกระทําอันรุนแรง เกินกว่าที่ประชาชนคนไทย จะอดทนและยอมรับได้ การกระทําอันเลวร้าย และไร้เกียรติ เยี่ยงสุนัขลอบกัดของกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ทั้งๆที่ […]

กต.ออกแถลงการณ์ประณามกองทัพกัมพูชาละเมิดอำนาจอธิปไตย

กระทรวงการต่างประเทศ 24 ก.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ประณามกองทัพกัมพูชาละเมิดอำนาจอธิปไตย จงใจเป็นปฏิปักษ์ต่อไทยชัดเจน ยัน รัฐบาลไทยพร้อมยกระดับมาตรการป้องกันตนเอง นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ว่า ตามที่วานนี้ 24 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดการบรรยายสรุปกับคณะทูต เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แล้วได้ยื่นหนังสือ 2 ฉบับ คือ 1. หนังสือถึงฝ่ายกัมพูชาเพื่อประท้วงเกี่ยวกับเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 และ2.หนังสือถึงเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรญี่ปุ่นประจำการประชุมว่าด้วยการลดอาวุธ ในฐานะประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาวาระปัจจุบัน รายงานเหตุการณ์การละเมิดพันธะกรณีของกัมพูชาในฐานะรัฐภาคีนั้น ภายหลังฝ่ายไทยได้ยื่นหนังสือ 2 ฉบับ ดังกล่าว รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งที่เหตุการณ์ความรุนแรงยังเกิดขึ้นอีกครั้งในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาและเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.ค.) ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฎิบัติการของไทยประสาทตาเมือนธม จ. สุรินทร์ อีกทั้งได้ยิงจรวด BM 21 จำนวน 2 นัด ในพื้นที่ชุมชนศูนย์พัฒนาชายแดน กาบเชิง จังหวัดสุรินทร์เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ขณะนี้เหตุการณ์โจมตีที่ไม่ใช่เป้าหมายทางการทหารยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องในเฉพาะพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่โรงพยาบาลพนมดงรัก และสถานที่ต่างๆ […]

ผบ.ตร.เผยตำรวจใช้แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เหตุปะทะชายแดน

24 ก.ค. – ผบ.ตร. เผยตำรวจใช้แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา สำรวจจำนวนผู้บาดเจ็บ เคลื่อนย้ายผู้ป่วย หลังปิดปราสาทยุติส่งกำลังเข้าปฏิบัติการ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์ปะทะบริเวณแนวชายแดน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ใกล้กับปราสาทตาเมือนธม หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน ส่งผลให้มีทหารและประชาชนไทยได้รับบาดเจ็บ ผบ.ตร. ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างเป็นทางการ โดยในการปฏิบัติการครั้งนี้ ทหารดำเนินการตามภารกิจหลัก ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจสนับสนุนแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์กำลังดำเนินการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยครอบคลุมการรักษาความมั่นคงภายใน การอพยพประชาชน การบูรณาการการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัย ร่วมกับโรงพยาบาลในพื้นที่ สำหรับคำถามเรื่องการส่งกำลังเพิ่มเติมเข้าไปสนับสนุน ผบ.ตร. ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้มีการร้องขอจากกองทัพให้ส่งกำลังควบคุมฝูงชนเข้าไปเตรียมความพร้อม เนื่องจากอาจเกิดเหตุขัดแย้งระหว่างประชาชนทั้งสองฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาเมือนธม แต่เนื่องจากขณะนี้มีคำสั่งปิดปราสาทแล้ว จึงยุติการนำกำลังควบคุมฝูงชนเข้าปฏิบัติการ ย้ำว่าขณะนี้ใช้ปฏิบัติการทางทหารเป็นหลัก ส่วนตำรวจยังคงเน้นการสนับสนุนแผนพิทักษ์พื้นที่ในแนวหลัง เพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทั้งนี้ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ประจำการในแนวบังเกอร์ชายแดนยังคงอยู่ในพื้นที่ตามหน้าที่ เพื่อสนับสนุนภารกิจร่วมกับทหารต่อไป.-415-สำนักข่าวไทย

สพฐ.รับข้อห่วงใย “เสมา 1” เร่งดูแลนักเรียน-ครูพื้นที่ชายแดน

ศธ. 24 ก.ค. – สพฐ. รับข้อห่วงใย “เสมา 1” เร่งดูแลนักเรียน-ครูพื้นที่ชายแดน ย้ำความพร้อมรับมือสถานการณ์ มั่นใจความปลอดภัยโรงเรียนพื้นที่เสี่ยง ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดสถานการณ์การสู้รบบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา กระทรวงศึกษาธิการ นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผศ.ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อนักเรียน ครู และบุคลากรในโรงเรียนพื้นที่ชายแดน 7 จังหวัด และมอบหมายให้ สพฐ. ติดตามสอบถามความเป็นอยู่ รวมถึงดูแลความปลอดภัยของนักเรียนและครูในพื้นที่ดังกล่าว สพฐ. จึงได้เน้นย้ำไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนให้มีการดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยในระดับสูงสุดตามที่ได้สั่งการไว้ล่วงหน้าแล้ว และมั่นใจว่าโรงเรียนสามารถดูแลนักเรียนอย่างปลอดภัย ด้วยการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าและการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงเรียนใน “พื้นที่สีแดง” ซึ่งมีความเสี่ยงสูงและตั้งอยู่ใกล้แนวชายแดน จำนวนทั้งสิ้น 239 แห่ง ได้มีการจัดสร้างหลุมหลบภัยที่ได้มาตรฐาน และมีการจัดเตรียมระบบสัญญาณเตือน การอพยพเคลื่อนย้ายเด็ก การสำรองอาหาร ยา และอุปกรณ์จำเป็นอย่างเป็นระบบ ทั้งยังมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุเป็นระยะ […]

ตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ไทย-กัมพูชา ยังปะทะกันเดือด

สุรินทร์ 24 ก.ค. – ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม สุรินทร์ จุดแรกที่มีรายงานว่าเกิดเหตุปะทะ ตั้งแต่เช้า และตอนนี้เสียงปืนยังดังต่อเนื่อง และลูกปืนใหญ่ของกัมพูชาที่ยิงตกกลางหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านบาดเจ็บหลายราย บางรายสาหัส ผู้สื่อข่าวปักหลักรายงานอยู่บริเวณบ้านหนองคันนา จุดที่อยู่ห่างตาเมือนธม 2 กิโลเมตร .-สำนักข่าวไทย

มท.ยันพร้อมอพยพประชาชนแนวชายแดน

กทม. 24 ก.ค.- มหาดไทย ยันมีความพร้อมอพยพประชาชนตามแนวชายแดน ย้ำ เหตุชาวบ้านเสียชีวิตไม่ใช่ความล่าช้า แต่อยู่ระหว่างขนคนออกจากพื้นที่เสี่ยง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อสั่งการภายหลังจากที่มีการปะทะกันบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ว่า ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการประสานผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดนสุรินทร์ ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ ที่เป็นพื้นที่ที่มีการปะทะกันว่าให้อพยพผู้คนทันที เช่น อำเภอพนมดงรัก ที่อยู่ติดกับชายแดนมายังพื้นที่อำเภอปราสาทที่อยู่ไกลจากชายแดนเข้ามาหน่อย ส่วนคนที่ยังอยู่ในพื้นที่ได้ให้อยู่ในหลุมหลบภัย ตามที่นายอำเภอได้มีการเตรียมการไว้ ซึ่งในการอพยพมีทั้งหน่วยแพทย์ พยาบาล ที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน รวมถึงการตั้งโรงครัว เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ตนจึงได้มีการกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ดูแลพื้นที่ส่วนหลัง รวมถึงพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดน และให้อพยพเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ตามที่ นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการตั้งแต่เช้าว่าตอนนี้สถานการณ์เริ่มตึงเครียดแล้ว นอกจากนี้ นายอรรษิษฐ์ ยังกล่าวต่อว่าเหตุการณ์ที่มีประชาชนเสียชีวิต ไม่ได้เกิดจากการล่าช้าในการอพยพ หรือ ประชาชนไม่ยอมออกจากพื้นที่ แต่อยู่ในขณะกำลังเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ทำให้เกิดการสูญเสียขึ้น พร้อมยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทยมีความพร้อมที่จะอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง ส่วนอีก 3 จังหวัดที่อยู่ติดแนวชายแดน ประกอบด้วย […]

1 42 43 44 45 46
...