ศบ.ทก.ย้ำมาตรการปกป้องอธิปไตยเป็นไปตามขั้นตอน

ทำเนียบ 24 ก.ค.- ศบ.ทก.เผยความจำเป็นในการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา หลังสถานการณ์ตึงเครียดลุกลาม ย้ำ มาตรการปกป้องอธิปไตยเป็นไปตามขั้นตอน พร้อมเดินหน้าประท้วง และประณามกัมพูชาอย่างที่สุดในการละเมิดอธิปไตย นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ว่า ที่ผ่านมา ศบ.ทก. ยืนยันมาโดยตลอดว่า ไม่ปิดด่านเพียงแต่เพิ่มความเข้มงวด ซึ่งเป็นไปตามที่หารือกันในที่ประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และเพื่อความปลอดภัยของประชาชน แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน ทางการไทยมีความจำเป็นต้องปิดด่านในจุดต่างๆ เพื่อปกป้องอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นมาตรการอย่างเป็นขั้นตอน จากขั้น 1-2 ที่ผ่านมา จนขณะนี้มาถึงขั้นที่ 4 ส่วนการดำเนินการด้านการต่างประเทศ ของกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวานนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตต่างประเทศ และผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ในเรื่องเหตุการณ์ทุ่นระเบิดที่อำเภอช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี และการประท้วงของฝ่ายไทย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี โดยมีผู้แทนคณะทูตต่างประเทศมาเข้าร่วม จำนวน 93 คน จาก 68 ประเทศ โดยฝ่ายไทยได้ชี้แจงท่าทีและจุดยืนในเรื่องดังกล่าว และการดำเนินการในเรื่องนี้ ทั้งการประท้วงฝ่ายกัมพูชาโดยตรง […]

ศบ.ทก.เปิดไทม์ไลน์เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 24 ก.ค.- โฆษก ศบ.ทก. ไล่เลียงไทม์ไลน์ เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำทหารกัมพูชาวางอาวุธครบมือ พร้อมเปิดฉากยิงก่อน ใกล้ปราสาทตาเมือนธม ก่อนขยายการปะทะไปอีก 6 จุด ประชาชนตาย 1 บาดเจ็บ 3 เด็ก 5 ขวบเจ็บด้วย ชี้ ศบ.ทก. ยกระดับขั้นที่ 4 ปิดทุกด่านชายแดน วอนนักพนันไทยดูแลตัวเอง เดินทางกลับไม่ได้ พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ศบ.ทก. แถลงว่า ที่ประชุม ศบ.ทก. ได้มีการพูดคุยติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยไล่เรียงเหตุการณ์ก่อนเกิดการปะทะ โดยเฉพาะล่าสุด เหตุการณ์รอบวางระเบิดที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เกิดเหตุให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสาหัส ยืนยันว่า เป็นพื้นที่ปฏิบัติการของฝ่ายไทย มีการลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 7:35 น. ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้โดรนบิน เพื่อตรวจการการวางกำลังของฝ่ายไทย บริเวณประสาทตาเมือน จากนั้นได้พบความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชานำอาวุธเข้าประจำการบริเวณด้านหน้าลวดหนาม พร้อมกำลังพล […]

แนะรัฐปฏิบัติการเชิงรุกตามหลักสากล ปมกัมพูชายิงถล่ม

กรุงเทพฯ 24 ก.ค.- นักวิชาการ แนะรัฐปฏิบัติการเชิงรุกตามหลักสากล ปมกัมพูชายิงถล่ม เร่งเปิดโปงหลักฐานพฤติกรรมฟ้องชาวโลก เพื่อลดท่าทีแข็งกร้าวเขมร ชี้ใครยิงก่อนไม่สำคัญเท่าการยิงเข้ามาในพื้นที่อธิปไตยไทย ขณะเดียวกันหาช่องทางเจรจาบนพื้นฐานความเข้มแข็ง เชื่อไม่บานปลาย เหตุกัมพูชาไม่ได้หวังทำสงคราม แค่อยากยั่วยุ หวังใช้ประโยชน์ พร้อมบอก กต.ต้องทำงานมากขึ้น เแค่เชิญทูตแจงยังไม่พอ สัญญาณอ่อน ต้องสื่อสารตรงผู้นำทั่วโลก นายปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดการปะทะกันหลังกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้ามา ว่า ไทยต้องดำเนินการตามแผนที่วางเอาไว้ ไม่ว่าจะแผนอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ แผนการสถาปนากำลังเข้าไปตามแนวอำนาจอธิปไตยที่เรียกกว่าแผนจักรพงศ์ภูวนาถที่ใช้มาแล้ว แต่ครั้งนี้ต้องเข้มข้นขึ้น เพราะสถานการณ์ซับซ้อนขึ้น ขณะเดียวกันจะต้องใช้แผนการทางการทูตและการเมืองระหว่างประเทศ ที่จะต้องใช้ช่องทางพิเศษในการสื่อสารกับกัมพูชาให้เข้าใจถึงตั้งใจในการปกป้องอธิปไตยแต่ไม่รุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชา แม้แต่พื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทแต่การดำเนินการตั้งรับแบบเชิงรุกก็ต้องทำให้เข้มข้นขึ้น การเก็บทุ่นระเบิด การปิดพื้นที่บางพื้นที่ เช่น ตัวปราสาททั้ง 2 แห่ง ในทางปฏิบัติเราอาจดำเนินการเชิงรุก หากมีการโต้ตอบเราก็หาทางป้องกันตนเอง หรือบางกรณีก็ต้องปฏิบัติการเชิงรุก ซึ่งทำได้ทั้งหมดตามหลักสากลเพียง แต่ต้องมีความชัดเจนและต้องสื่อสารกับนานาชาติว่าเราปฏิบัติการทางทหารในรูปแบบใด โดยจำกัดอยู่ที่กองทัพบก เรายังไม่ได้ประกอบกำลังรบแบบพร้อมรบจริงๆ แบบที่จะมีกองทัพอากาศ กองทัพเรือ และบัญชาการโดยกองทัพไทย ดังนั้นสถานการณ์ยังมีทางออกอยู่ และจำเป็นต้องสื่อสารกันทางการเมืองด้วย หากการสื่อสารกับฝ่ายการเมืองด้วยช่องทางพิเศษในยามวิกฤตเช่นนี้ทำได้ การสั่งลงมาให้แต่ละฝ่ายยึดแนวปฏิบัติที่ชัดเจนขึ้น พร้อมไปคุยกันในเรื่องกฎการปะทะ กฎในการปฏิบัติในการวางกำลัง สถานการณ์ก็จะคลี่คลายเร็ว […]

เรียกร้องนานาอารยประเทศ ประณาม “กัมพูชา” เปิดฉากยิงก่อน

ทำเนียบ 24 ก.ค.- รัฐบาลไทยเรียกร้องนานาอารยประเทศ ประณามความโหดร้ายไร้มนุษยธรรมของ “กัมพูชา” กระหายสงคราม เปิดฉากยิงก่อนช่วงเช้า ระดมใช้อาวุธหนัก ไม่สนใจเป้าหมายทางพลเรือน กระสุนปืนใหญ่ตกใส่โรงพยาบาล บ้านเรือนชาวไทย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวว่าจากพยานหลักฐานชัดเจนว่า กัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารไทยก่อน และยังใช้อาวุธหนักอย่างต่อเนื่องเข้าใส่เป้าหมายทางพลเรือน และขอเรียกร้องให้ทั่วโลกประณามความเลวร้ายของกัมพูชาโดยกัมพูชาเป็นผู้กระหายสงคราม โดยไม่สนหลักสิทธิมนุษยชนใด ๆ แม้แต่น้อย ทั้งนี้ โดยผู้แทนกองทัพบกรายงาน ต่อ ศก.ทก ว่า สถานการณ์ชายแดนนั้น ยืนยันชัดเจนจากข้อมูล และพยานหลักฐาน พบว่า ทหารกัมพูชาได้มีเจตนาพิเศษดำเนินการในลักษณะยั่วยุ และละเมิดข้อตกลงมาตั้งแต่ต้นปี และในเช้าวันนี้ ( 24 กค.) ได้เปิดฉากใช้อาวุธก่อนโดยมีการบินโดรน (อากาศยานไร้คนขับ) เข้ามาในพื้นที่ของประเทศไทยเพื่อยั่วยุจากนั้น ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารไทย ซึ่งกัมพูชามีการใช้อาวุธหนักอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้จรวดหลายลำกล้องขนาด122 มม.( จลก. BM 21) และ จรวด RPG ยิงเข้าใส่พลเรือนไทยที่ชุมชนบริเวณชายแดนอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ และอีกหลายพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา […]

กัมพูชาประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย

พนมเปญ 24 ก.ค. – รัฐบาลกัมพูชาประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยเป็นระดับต่ำสุด ขณะที่สื่อกัมพูชารายงานข่าวสถานการณ์ชายแดนเช้าวันนี้ว่าเป็นการตอบโต้ของกองทัพกัมพูชาต่อการรุกรานของไทยและการปิดปราสาทตาเมือนธม วันนี้รัฐบาลกัมพูชาประกาศตัดสินใจลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยลงเป็นระดับต่ำสุด เพื่อตอบโต้รัฐบาลไทยที่เมื่อวานนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีประกาศตัดสินใจลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา หลังเกิดเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเป็นครั้งที่สองเมื่อวานนี้ กัมพูชาระบุว่าจะตอบสนองด้วยการลดความสัมพันธ์ทางการทูตลงเหลือเพียงระดับ “อุปทูตลำดับที่สอง” เท่านั้น นอกจากนี้นักการทูตกัมพูชาทุกคนที่ประจำการอยู่ที่สถานทูตกัมพูชาในกรุงเทพ ยังได้รับคำสั่งให้เดินทางกลับบ้านด้วยและทางฝ่ายไทยได้รับคำสั่งให้นักการทูตไทยเดินทางออกจากกัมพูชาด้วยเช่นกัน อีกด้านหนึ่งกระทรวงกลาโหมกัมพูชา โดยนางมาลี โสเชตา ปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อคืนนี้แถลงปฏิเสธข้อกล่าวหาของฝ่ายไทยอย่างเด็ดขาดเรื่องทหารไทยเหยียบกับระเบิดเมื่อวานนี้ ซึ่งทางกัมพูชาอ้างว่าเหตุเกิดในพื้นที่หมู่บ้านอัน เสส ตำบลและอำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารของกัมพูชา นางมาลีระบุว่าข้อกล่าวของไทยที่ว่ากับระเบิดในอยู่เขตแดนไทยและเป็นระเบิดฝังใหม่โดยทหารกัมพูชานั้นไม่มีมูลความจริงซึ่งกัมพูชาขอปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยหลีกเลี่ยงการกระทำที่ขัดต่อการใช้เส้นทางลาดตระเวนที่กำหนดเอาไว้ในเอ็มโอยี 43 นอกจากนี้นางมาลียังบอกด้วยว่าเป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ประเทศไทยไม่เพียงแต่ไม่รับผิดชอบต่อการกระทำที่ก้าวร้าวของตนเท่านั้น แต่ยังกล่าวหากัมพูชาว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ในขณะที่กัมพูชาเองเป็นเหยื่อของความ อยุติธรรมจากการละเมิดของฝ่ายไทย ขณะที่สื่อของกัมพูชารายงานสถานการณ์เช้าวันนี้ว่า“กองทัพกัมพูชาเปิดฉากโจมตีตอบโต้การรุกรานของทหารไทยและการสั่งปิดปราสาทตาเมือนธม” โดยอ้างข้อมูลจากนายทหารระดับสูงของกัมพูชาที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเฟรชนิวส์จากพื้นชายแดนในเช้าวันนี้ ซึ่งทางกัมพูชาอ้างว่าจุดปะทะอยู่ในจังหวัดพระวิหาร และหลังจากการปะทะที่ตาเมือนธมในจังหวัดอุดรมีชัยแล้ว ขณะนี้การสู้รบได้ขยายพื้นที่ออกไปยังพนมกมุช ในจังหวัดพระวิหาร เวลานี้กำลังมีการยิงตอบโต้กันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ซึ่งซึ่งกัมพูชาได้อ้างรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ทหารไทยบาดเจ็บ 2 นายแต่ฝั่งกัมพูชาไม่มีผู้บาดเจ็บ.-816.-สำนักข่าวไทย

อ.น้ำยืน อพยพชาวบ้าน ไปยังพื้นที่ปลอดภัย

อุบลราชธานี 24 ก.ค. – ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดการปะทะตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยเฉพาะ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านได้อพยพออกจากบ้าน เตรียมเดินทางไปยังพื้นที่ปลอดภัย เมื่อเวลา 10.00 น. ทีมข่าวเดินทางติดตามชาวบ้านในอำเภอน้ำยืน อพยพออกจากบ้านมายังจุดรวมพล ที่โรงเรียนน้ำยืนวิทยา ตามแผนฉุกเฉินที่เคยซักซ้อมไว้ โดยจุดรวมพลแห่งนี้เป็นส่วนกลางรับผิดชอบของเทศบาลตำบลน้ำยืนให้ข้อมูลว่ามีประชาชนที่พร้อมอพยพประมาณ 4500 คนโดยจะแยกเป็นหมู่บ้านซึ่งจุดรวมแห่งนี้มีทั้งหมด 10 หมู่บ้าน รวมไปถึงหมู่บ้านข้างเคียงอย่างตำบลสีวิเชียร จากนั้นจะมีรถจากทางอำเภอในหน่วยงานที่รับผิดชอบมาขึ้นรถอพยพไปยังอำเภอเดชอุดมยังที่ปลอดภัยเนื่องจากพ้นระยะแนวการยิงของปืนใหญ่ ชาวบ้านต่างพากันอพยพกันมาด้วยความด้วยความโกลาหล ได้รับแจ้งข่าวจากผู้นำชุมชนเมื่อเวลา 09.00 น. ผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศเสียงตามสายโทรศัพท์แจ้งทางออนไลน์ทุกช่องทางจนทุกคนได้บอกต่อกันและมารวมพลกันตามแผนซ้อมอพยพเบื้องต้น ณ ขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตในพื้นที่อำเภอน้ำยืน ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า ได้ยินชาวบ้านแจ้งกันผ่านเสียงตามสายโทรศัพท์ให้พากันอพยพโดยด่วน ซึ่งชาวบ้านบอกว่ารู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก ตนเองเอาเฉพาะของที่จำเป็นแล้ววิ่งออกมาโดยไม่คิดชีวิต และยังอยากฝากให้ทั้งสองประเทศเจรจาสงบศึกให้เร็ว เนื่องจากได้รับผลกระทบทั้งการทำมาหากินทางเศรษฐกิจที่แย่และเป็นหนี้เป็นสิน อีกทั้งยังต้องมาวิ่งเอาชีวิตรอดหลบกระสุนปืน รู้สึกเครียดมากกับเหตุการณ์ในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ส่งกำลังใจถึงกองทัพ เชื่อทั่วโลกประณามกัมพูชา

ฉะเชิงเทรา 24 ก.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ ส่งกำลังใจถึงกองทัพ เชื่อทั่วโลกประณามกัมพูชา เป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ทำประชาชนบาดเจ็บ พร้อมส่งกำลังใจให้ประชาชนในพื้นที่ รัฐบาลเตรียมมาตรการไว้แล้ว ที่อดทนอดกลั้นเพราะไม่อยากให้เสียเลือดเสียเนื้อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางลงพื้นที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อประชุมติดตามผลการดำเนินงาน รายการค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ที่ศาลาว่าการจังหวัดฉะเชิงเทรา ถึงกรณี รัฐบาลและกองทัพร่วมกันทำกรอบการดูแลพี่น้องประชาชนเป็นจุดยืนที่เน้นย้ำมาโดยตลอด แต่ในที่สุดฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ซึ่งฝ่ายกัมพูชาก็อ้างว่า ฝ่ายไทยยิงก่อนเช่นเดิม แต่ในสายตาของชาวโลกนั้น เรามีเครื่องไม้เครื่องมือที่เยอะกว่า ชาวโลดจะเชื่อถือกัมพูชาคงลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ซึ่งทางนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ได้เตรียมความพร้อมอย่างดีในการดูแลพี่น้องประชาชน จากการโทรพูดคุยกันทางโทรศัพท์ เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและมีการประชุมกันการรับมือกับอาวุธที่มีตรงชายแดนพร้อมนานแล้ว หากเทียบกับสถานการณ์ปี 54 พร้อมมากกว่า 2-3 เท่า ในส่วนของกองทัพ แน่นอนว่า ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงตั้งแต่แรกแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วทางกองทัพเตรียมความพร้อมไว้อย่างดี สิ่งสำคัญที่จะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ ความสามัคคีของคนในชาติ สิ่งที่กองทัพและรัฐบาลพยายามมาโดยตลอดคือ ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บ คือสิ่งที่ทำมาเสมอ “เรารักคนของเราประเทศชาติของเราเรา ไม่อยากให้ใครก็ตามได้รับผลกระทบหรือความเจ็บปวดในครั้งนี้” แม้เราจะไม่ทราบว่าฝ่ายนั้นเขาคิดอย่างไรกับประชาชนของเขา แต่เราคิดกับประชาชนเราแบบนี้ เป็นสิ่งที่เน้นย้ำว่ารัฐบาลและกองทัพทำมาโดยตลอด ทั้งนี้รักษาการนายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการให้ดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่ […]

กมธ.มั่นคงแห่งรัฐฯ ถกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

รัฐสภา 24 ก.ค.-กมธ.มั่นคงแห่งรัฐฯ ถกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา “โรม” ถาม “แพทองธาร” ไม่มา-ไม่แจ้งเลยหรือ ด้าน “ชุติพงศ์” สงสัยทำไมไม่ให้ความร่วมมือ ขณะที่ “เพื่อไทย” ป้องกลัวบังคับใช้อำนาจเรียกแล้วมีคนร้องศาล ยันไม่ได้ปกป้องใคร ด้าน “ทูตรัศม์” ร่วมประชุมไม่นาน รีบกลับ กต. ด่วน เหตุ “ไทย-เขมร” ปะทะกัน การประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณากรณีความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ และกลไกการพูดคุย JBC และวาระพิจารณากรณีคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยสัปดาห์นี้ ที่ประชุมมีมติใช้อำนาจเรียกบุคคลให้มาแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความเห็นต่อคณะกรรมาธิการฯ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อำนาจเรียกของคณะกรรมาธิการของรัฐสภา ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร […]

ผู้ว่าฯ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลฯ บุรีรัมย์ อพยพประชาชนแล้ว

กทม.24 ก.ค.-ปลัดมหาดไทย เผยผู้ว่าฯ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลฯ บุรีรัมย์ อพยพประชาชนแล้ว พร้อมสั่งการผู้ว่าฯ-นายอำเภอชายแดนไทย-กัมพูชา ภาคตะวันออก เตรียมอพยพประชาชนหากสถานการณ์ลุกลาม และปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง โดย “คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กองทัพบกได้รายงานสถานการณ์เกิดการปะทะในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ปราสาทตาเมือนทม จ.สุรินทร์ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ด่านสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลฯ และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังมีการยิงอาวุธใส่พื้นที่ชุมชน บริเวณศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีบัญชาให้กระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง “ในขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี ได้ดำเนินการอพยพประชาชนที่พักอาศัยตามแนวชายแดนไปยังพื้นที่ปลอดภัยตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังแล้ว ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ พื้นที่จังหวัดสระแก้ว จันทบุรี ตราด และ ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา […]

แนะคนไทยในกัมพูชาออกจากประเทศเร็วที่สุด

24 ก.ค. – สถานทูตไทยในในพนมเปญ เเนะคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาเดินทางออกนอกประเทศโดยเร็ว เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างไทยเเละกัมพูชา สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างใกล้ชิด และขณะนี้สถานการณ์ได้ยกระดับความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเกิดการปะทะกันบริเวณแนวชายแดนในหลายพื้นที่ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยืดเยื้อและขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น ขอแนะนำให้คนไทยที่พำนักหรือพำนักชั่วคราวในประเทศกัมพูชาและไม่มีความจำเป็นเดินทางออกจากประเทศโดยเร็วที่สุด และขอความร่วมมือให้คนไทยที่ไม่มีความจำเป็นงดเดินทางมายังกัมพูชาในช่วงนี้ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ในกรณีฉุกเฉินหรือความต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อหน่วยงานของไทยได้ที่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ โทรศัพท์ฉุกเฉิน: (+855) 975 749 682 สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ โทรศัพท์: (+855) 86 608 999 Call Center กรมการกงสุล โทรศัพท์: (+66) 2 572 8442 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาโจมตีร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันกันทรลักษ์ สั่งอพยพ 7 ตำบล

24 ก.ค. – อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ สั่งอพยพประชาชน 7 ตำบล เข้าพื้นที่ปลอดภัยด่วน ขณะที่ร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันถูกโจมตี มีรายงานพบผู้บาดเจ็บจำนวนมาก หลังมีเสียงดังที่ไม่แน่ชัดว่าเป็นเสียงปืนหรือระเบิด ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้ตอนนี้ ทางอำเภอกันทรลักษ์ สั่งการด่วนที่สุด ให้พื้นที่ 7 ตำบลคือ ต.ภูผาหมอก, ต.เสาธงชัย, ต.รุง, ต.ละลาย, ต.โนนสำราญ, ต.บึงมะลู ต.ชำ และ 80 หมู่บ้าน ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยให้ดำเนินการอพยพประชาชน และโรงเรียนต่างๆ ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเร่งด่วน ขณะที่เหตุโจมตีร้านสะดวกซื้อ ในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เบื้องต้นพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยกองทัพภาคที่ 2 รายงานว่าเป็นเหตุกระสุน bm21 จากฝ่ายกัมพูชาตกใส่ปั๊ม .-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. ยืนยันเขมรเปิดฉากยิงก่อน และยิงใส่พื้นที่พลเรือน

ทำเนียบ 24 ก.ค.-ศบ.ทก. ยืนยันเขมรเปิดฉากยิงก่อน แถมพบใช้อาวุธหนัก จรวดหลายลำกล้องยิงใส่พื้นที่พลเรือน ชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย มอบส่วนหน้าปฏิบัติการได้ทันที ขณะที่การทูต รัฐบาลยืนยันเรียกทูตไทยกลับ พร้อมส่งทูตเขมรกลับไป นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่ารัฐบาลได้รับรายงานจากที่ประชุม ศบ.ทก. และ ผู้แทนกองทัพบกว่า สถานการณ์ชายแดนนั้น ยืนยันชัดเจนจากข้อมูล และพยานหลักฐาน พบว่าทหารกัมพูชาได้เปิดฉากใช้อาวุธก่อน โดยมีการบินโดรน (อากาศยานไร้คนขับ) เข้ามาในพื้นที่ของประเทศไทยเพื่อยั่วยุ จากนั้น ทหารกัมพูชาได้เปิดฉาก ยิงเข้าใส่ ทหารไทย ซึ่งกัมพูชามีการใช้อาวุธหนักอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้จรวดหลายลำกล้องขนาด122 มม.( จลก. BM 21) ยิงเข้าใส่พลเรือนไทยที่ชุมชนบริเวณชายแดนอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ กระสุนฝ่ายกัมพูชา ตกใส่ บ้านประชาชนคนไทย โดยมีพลเรือนเสียชีวิตหนึ่งราย และเด็กอายุห้าขวบได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมคนในครอบครัวอีกสองคน ซึ่งฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองได้อพยพประชาชนในพื้นที่ไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ขณะที่ทหารไทยได้รับรายงานว่ามีบาดเจ็บกว่า 7 นาย โดยที่ประชุม ศบ.ทก.ได้รับรายงานว่ากองทัพไทยได้ตอบโต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ โดย ศบ.ทก. […]

1 43 44 45 46
...