“วันนอร์” นำข้อเสนอแนะ สส. แก้ชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งรัฐบาล

รัฐสภา 25 ก.ค.-“วันนอร์” นำข้อเสนอแนะแก้ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ของ สส. ส่งรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องแล้ว พร้อมตรียมนำทีม สส.ลงพื้นที่ เยี่ยมให้กำลังใจประชาชน-ทหาร กองทัพภาค 2 วันที่ 1 ส.ค.นี้ ขณะที่สภาเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจาเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์การปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าที่ประชุมส่วนใหญ่ได้อภิปรายถึงสาเหตุปัญหาที่เกิดขึ้นและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและทางสภามีความห่วงใยทหารของชาติ ที่ต้องไปอยู่อย่างยากลำบาก และเสียชีวิต ซึ่งเป็นความห่วงใยของสภาผู้แทนราษฎรจึงได้เอาข้ออภิปรายความห่วงใย ข้อเสนอแนะทั้งหมดเสนอต่อรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงกลาโหม กองทัพภาคที่ 2 เพื่อให้ดำเนินการตามนั้น ขณะเดียวกันทางประธานสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะเดินทางไปเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและทหารที่อยู่ในพื้นที่ในวันที่ 1 ส.ค. ที่ไม่ได้ไปทันทีในช่วงนี้เนื่องจากมีภารกิจและมีพระราชพิธีที่สำคัญ ทั้งนี้ในวันดังกล่าวจะรวบรวมของบริจาคเพื่อไปดูแลประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ รวมถึงผู้ที่บาดเจ็บ ในนามของรัฐสภาและผู้แทนประชาชน และในช่วงเย็นวันที่ 1 ส.ค.จะเดินทางไปที่กองทัพภาคที่ 2 ด้วย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางสำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎรได้เปิดบัญชีขอรับบริจาค เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกรัฐสภา รวมถึงประชาชนทั่วไปสามารถบริจาคได้ที่บัญชีสภาผู้แทนราษฎรเพื่อช่วยเหลือทหารกล้า ธนาคารกรุงไทย สาขารัฐสภา เลขที่ 0890898898 .-312.-สำนักข่าวไทย

ประกันสังคมห่วงสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา

25 ก.ค. – นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม แสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ จากเหตุการณ์กระสุนปืนจากกองกำลังทหารกัมพูชายิงตกในบริเวณชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมได้สั่งการให้ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดศรีสะเกษ เร่งตรวจสอบข้อมูล พร้อมให้การช่วยเหลือลูกจ้างที่ประสบเหตุอย่างเร่งด่วน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ทันทีได้รับรายงานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมจังหวัดศรีสะเกษตรวจสอบข้อมูล พบว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวพบผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยมีการส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ แต่ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลสถานะผู้ประกันตนของผู้ประสบเหตุในครั้งนี้ ซึ่งหากผู้เสียชีวิตเป็นลูกจ้างและเสียชีวิตขณะปฏิบัติงานให้นายจ้าง ทายาทของลูกจ้าง จะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม ประกอบด้วย ค่าทำศพจำนวน 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิตเป็นเงินร้อยละ 70 ของค่าจ้าง เป็นระยะเวลา 10 ปี และเงินบำเหน็จชราภาพพร้อมดอกผล ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติงานจะได้รับความคุ้มครองจากกองทุนเงินทดแทน เช่นกัน โดยได้รับ ค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น 65,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท หากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐจนสิ้นสุดการรักษาจะได้รับค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นจนกว่าจะสิ้นสุดการรักษากรณีแพทย์รับรองให้หยุดพักรักษาตัว มีสิทธิได้รับค่าทดแทนการขาดรายได้ร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือนไม่เกิน 1 […]

องค์กรสื่อห่วงความปลอดภัยประชาชนและสื่อมวลชน

กรุงเทพ 25 ก.ค. – จากสถานการณ์การสู้รบที่ปะทุขึ้นในหลายพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้มีประชาชนชาวไทยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตรวมถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินพลเรือนในหลายพื้นที่ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ดังกล่าว แถลงการณ์ระบุถึงความกังวลต่อความปลอดภัยของประชาชน และไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้ นอกจากนี้ ยังแสดงความห่วงใยต่อสวัสดิภาพของเพื่อนสื่อมวลชนที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเน้นย้ำให้สื่อมวลชนใช้ความระมัดระวังสูงสุด ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และยึดแนวปฏิบัติของสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติว่าด้วยการนำเสนอข่าวสงครามหรือการสู้รบระหว่างประเทศ พ.ศ. 2565 อย่างเคร่งครัด หลักปฏิบัติสำคัญสำหรับสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวสถานการณ์สู้รบ องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนได้สรุปแนวปฏิบัติสำคัญ 7 ข้อ เพื่อให้สื่อมวลชนใช้เป็นหลักในการรายงานข่าวสถานการณ์การสู้รบ ดังนี้: นำเสนอตามข้อเท็จจริง: ต้องนำเสนอข่าวตามข้อเท็จจริงเท่านั้น หลีกเลี่ยงการนำเสนอข้อมูลหรือความคิดเห็นที่อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด ความเกลียดชัง และอคติ ระมัดระวังภาพและคลิปความรุนแรง: ควรระมัดระวังการนำเสนอภาพหรือคลิปความสูญเสียที่สยดสยองหรือหวาดเสียว โดยคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะและเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หลีกเลี่ยงการใช้ความสูญเสียในสงครามเพื่อกระตุ้นยอดขายหรือยอดผู้ชม ระบุแหล่งที่มาและบริบทชัดเจน: ต้องระบุแหล่งที่มาของภาพ คลิปวิดีโอ หรือข้อมูลจากโซเชียลมีเดียให้ชัดเจนก่อนนำเสนอ เพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องหรือคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง กรณีใช้แฟ้มภาพข่าว ควรกำหนดวันที่และบริบทให้ชัดเจน ไม่เปิดเผยข้อมูลทางยุทธศาสตร์: ห้ามนำเสนอข่าวหรือภาพข่าวที่เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดทางยุทธศาสตร์หรือยุทธวิธี ซึ่งอาจกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ยึดหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ: ควรเสนอข่าวโดยให้ความสำคัญต่อหลักมนุษยธรรม สิทธิมนุษยชน และกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยกฎระเบียบสงคราม (Rules of war) เช่น การใช้กำลังที่เหมาะสม การหลีกเลี่ยงความสูญเสียของพลเรือน […]

ธปท.คาดพนักงานไทยในธนาคารสาขากัมพูชากลับไทยได้หมดวันนี้

กรุงเทพฯ 25 ก.ค .- ธปท.เผยยังไม่พบความเสียหายสถาบันการเงินชายแดนไทย-กัมพูชา คาดพนักงานไทยในสาขากัมพูชากลับไทยได้หมดวันนี้ จับตาสถานการณ์ใกล้ชิด นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งว่า ธปท.ได้ติดตามการดูแลพนักงานของสถาบันการเงินและผู้ใช้บริการ โดย ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางอื่นของสถาบันการเงิน เช่น Mobile Banking / Internet Banking ได้ และลูกค้าสามารถตรวจสอบรายชื่อสาขาและเวลาทำการผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้ง เว็บไซต์ หรือติดต่อผ่าน Call Center ของแต่ละ สง. โดยปัจจุบัน ยังไม่พบการรายงานว่ามีความเสียหายในสาขาของแต่ละสถาบันการเงิน สำหรับผลกระทบต่อไทย เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ยังมีความไม่แน่นอนในหลายมิติ จึงอาจเร็วเกินไปที่จะประเมินผล โดย ธปท. จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป.-516-สำนักข่าวไทย

องคมนตรี นำสิ่งของพระราชทานมอบแก่ จนท.-ประชาชนได้รับผลกระทบชายแดน

อุบลราชธานี 25 ก.ค.-พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี นำสิ่งของพระราชทานมอบแก่เจ้าหน้าที่และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ จ.ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้เดินไปยังพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และจุดที่ 2 จังหวัดอุบลราชธานี และขณะนี้องคมนตรีได้เชิญสิ่งของพระราชทานในจุดที่ 1 จ.อุบลราชธานี แก่เจ้าหน้าที่จำนวน 200 ชุด มอบแก่ประชาชน 75 ชุด จากนั้นจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมประชาชนในศูนย์อพยพและจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงกลุ่มเปราะบาง รวมไปถึงทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนบรรยากาศเช้านี้ที่ช่องบ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่เป็นจุดปะทะ ชาวบ้านได้อพยพมาอยู่ในหลุมหลบภัย เนื่องจากมีเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง ผู้นำชุมชนจึงได้ให้ประชาชนเข้าไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย จากนั้นยังมีรายงานจากรองโฆษกกองทัพบกว่า สถานการณ์ในวันนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า เริ่มมีการปะทะตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. ในพื้นที่ช่องบก และภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี รวมถึงในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงด้วยอาวุธหนัก ปืนใหญ่สนาม และจรวด BM-21 เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนถึง 08.00 น. […]

ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาอาจบานปลายได้

ปักกิ่ง 25 ก.ค. – ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทหารของจีนกล่าววานนี้ว่า การปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชากำลังทวีความรุนแรงขึ้นด้วยการนำอาวุธหนัก เช่น เครื่องบินรบและปืนใหญ่จรวดมาใช้ หลังเกิดเหตุการณ์ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนที่มีข้อพิพาท พร้อมกับเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดความรุนแรงยิ่งขึ้นระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านที่ต่างก็เป็นมิตรประเทศของจีน จาง จุนเซ่อ ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทหารของจีน กล่าวกับโกลบอล ไทมส์ (Global Times) หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของทางการจีนในวันพฤหัสบดีว่า การที่กองทัพไทยนำเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 มาใช้และกัมพูชานำเครื่องยิงจรวดมาใช้ แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่กำลังย่ำแย่ลง ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะบานปลายต่อไป จากมุมมองทางทหารแล้ว ประเทศไทยได้มีความได้เปรียบเนื่องจากมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยกว่า นายจางกล่าวว่า ทั้งประเทศไทยและกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของจีน และสถานการณ์ที่อาจจะบานปลายนี้ไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือต่อทั้งภูมิภาค วิธีที่ดีที่สุดคือการแก้ไขปัญหาอย่างสันติผ่านการเจรจา สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า สาเหตุของการปะทะล่าสุดเกิดจากทุ่นระเบิด โดยไทยกล่าวหากัมพูชาในสัปดาห์นี้ว่าวางทุ่นระเบิดในพื้นที่พิพาทซึ่งทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ ในขณะที่กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวและกล่าวว่าทหารลาดตระเวณออกจากเส้นทางที่ตกลงกันไว้และเหยียบทุ่มระเบิดเก่าที่หลงเหลือมาจากสงครามในกัมพูชา สำหรับจีนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการช่วยเหลือประเทศต่างๆ รวมถึงกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาทุ่นระเบิด ซึ่งจางกล่าวว่าเป็นการแสดงความรับผิดชอบของจีนในการปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ในปี 2567 มหาวิทยาลัยวิศวกรรมกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้จัดหลักสูตรเก็บกู้ระเบิดสองหลักสูตรสำหรับบุคลากรจากกัมพูชาและลาว ที่เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากทุ่นระเบิด กองทัพจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการเก็บกู้ระเบิด ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา จีนได้ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บกู้ระเบิดกว่า 700 คนจากกว่า 20 ประเทศ และส่งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญไปต่างประเทศเพื่อดำเนินการสอนภาคสนามหลายครั้ง.-813.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นเอสซีจะประชุมฉุกเฉินเรื่องไทย-กัมพูชาวันนี้

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี จะประชุมฉุกเฉินในวันนี้ เกี่ยวกับเหตุปะทะตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา แหล่งข่าวด้านการทูตเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศสว่า การประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปตามคำร้องขอของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต ของกัมพูชาจะเป็นการประชุมลับ ในเวลา 15.00 น. ตามเวลาในนครนิวยอร์คของสหรัฐ ซึ่งเป็นที่ตั้งของยูเอ็นเอสซี หรือ ตรงกับ 02.00 น. ของเช้าวันเสาร์ตามเวลาในประเทศไทย สื่อมวลชนกัมพูชา รายงายก่อนหน้านี้ว่านายฮุน มาเน็ต ได้ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการไปยังยูเอ็นเอสซี เรียกร้องให้จัดประชุมด่วนเพื่อยับยั้ง สิ่งที่เขากล่าวหาว่า “ไทยกระทำการรุกรานต่ออธิปไตยของกัมพูชา” ในหนังสือที่ส่งถึงนายอาซิม อิฟติคาร์ อาห์หมัด ผู้แทนถาวรปากีสถานประจำสหประชาชาติซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของยูเอ็นเอสซี นายฮุน มาเน็ตยังเรียกร้องให้ไทยยุติการสู้รบทั้งหมดทันทีและถอนกำลังกลับไปยังฝั่งไทย รวมทั้งหลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุใดๆ เพิ่มเติม.-813.-สำนักข่าวไทย

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

กสม. ประณามกัมพูชาโจมตีพลเรือน-รพ. เป็นอาชญากรรมสงคราม

กสม. 25 ก.ค.-กสม. ประณามกัมพูชาโจมตี พลเรือน-รพ. เป็นอาชญากรรมสงครามละเมิดสิทธิมนุษยชน กฎหมายสากล เรียกร้องเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ วอนทุกฝ่ายหยุดการสร้างความเกลียดชังทางเชื้อชาติรวมถึงกับชาวกัมพูชาที่อยู่ในไทย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ ประณามการโจมตีพลเรือนและพื้นที่โรงพยาบาลบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่าตามที่ปรากฏเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม กระทั่งลุกลามไปในหลายพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเหตุให้มีพลเรือนไทยเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก กสม. ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคนและขอประณามการกระทำอันไร้มนุษยธรรมของทหารกัมพูชาที่เปิดฉากโจมตี และมุ่งเป้าไปที่พลเรือนและโรงพยาบาล การโจมตีสถานที่ดังกล่าวถือเป็นอาชญากรรมสงคราม (war crimes) ที่ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนสากลและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (international humanitarian law: IHL) โดยเฉพาะอนุสัญญาเจนีวาและธรรมนูญกรุงโรม อย่างไม่อาจยอมรับได้ กสม. ในฐานะสถาบันสิทธิมนุษยชนระดับชาติของไทย ขอเรียกร้องให้ทหารกัมพูชาเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และหลักสิทธิมนุษยชนสากล ยุติการกระทำความรุนแรงต่อพลเรือนและกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ความขัดแย้งโดยทันที และขอแสดงความห่วงใยและส่งกำลังใจไปยังทหารและผู้ปฏิบัติหน้าที่ในส่วนต่าง ๆ บริเวณแนวหน้า ขอให้ทุกหน่วยงานดูแลพลเรือนในพื้นที่เสี่ยงอย่างเต็มกำลัง และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดการสร้างความเกลียดชังทางเชื้อชาติ ไม่ส่งต่อและไม่ยอมรับการสร้างความเกลียดชังทางเชื้อชาติต่อชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดกับความขัดแย้งตามแนวชายแดน กสม. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์ความขัดแย้งที่มีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสิทธิ สวัสดิภาพ และความเป็นอยู่ของพลเรือนทั้งสองประเทศจะคลี่คลายโดยเร็วบนหนทางแห่งสันติภาพ.-314.-สำนักข่าวไทย

ทหารเขมรคลั่ง เปิดฉากปะทะทหารไทยตั้งแต่ตี 4

สุรินทร์ 25 ก.ค.-ช่องบก-ภูมะเขือ-พนมดงรัก เดือด! ทหารเขมรคลั่งเปิดฉากปะทะทหารไทยตั้งแต่ตี 4 ระดมยิงอาวุธหนัก ปืนใหญ่สนาม จรวด BM-21 เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 08.47 น. วันที่ 25 ก.ค.68 พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า สถานการณ์ในวันที่ 25 ก.ค.68 กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า เริ่มมีการปะทะตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. ในพื้นที่ช่องบกฯ และภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี รวมถึงในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงด้วยอาวุธหนัก ปืนใหญ่สนาม และจรวด BM-21 เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนถึงเวลาปัจจุบัน (08.00 น.) โดยฝ่ายไทยได้ตอบโต้ด้วยการใช้อาวุธยิงสนับสนุนตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้หลีกเลี่ยงการเข้าในพื้นที่การปะทะ สำหรับความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย On 25 July 2025, the Royal Thai Army received reports […]

รัฐบาลห่วงใยคนไทยทำงานในพื้นที่ชายแดน ย้ำเลี่ยงอยู่พื้นที่เสี่ยง

ทำเนียบ 25 ก.ค.-รัฐบาลห่วงใยคนไทยทำงานในพื้นที่ชายแดน ย้ำหลีกเลี่ยงการเดินทางหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดเหตุความรุนแรง นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อพี่น้องชาวไทยที่ทำงานชายแดนและแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย ขอให้ทุกคนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ชีวิต หลีกเลี่ยงการเดินทางหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดเหตุความรุนแรง ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ แนะนำให้คนไทยที่พำนักหรือพำนักชั่วคราวในประเทศกัมพูชาและไม่มีความจำเป็นเดินทางออกจากประเทศโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถดำเนินการได้อย่างปลอดภัย และขอความร่วมมือให้คนไทยที่ไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดงดการเดินทางมายังกัมพูชาในช่วงนี้ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ในกรณีฉุกเฉินหรือความต้องการความช่วยเหลือ โดยสามารถติดต่อหน่วยงานของไทยได้ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ โทรศัพท์ฉุกเฉิน: (+855) 975 749 682 สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ โทรศัพท์: (+855) 86 608 999 Call Center กรมการกงสุล โทรศัพท์: (+66) 2 572 8442 (ตลอด 24 ชั่วโมง) “รัฐบาลสั่งการหน่วยงานติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกด้าน ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากส่วนราชการอย่างต่อเนื่อง” นางสาวศศิกานต์ ย้ำ.-316.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลพร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 25 ก.ค.-รัฐบาลสั่งการด่วนให้ผู้ว่าฯ ชายแดน รวบรวมรายชื่อผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เพื่อใช้งบประมาณเยียวยาจากกองทุนสำนักนายกฯ เบื้องต้น พร้อมให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังให้การช่วยเหลือชายแดน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สรุปตัวเลขของประชาชนและเจ้าหน้าที่ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ประทะกันตามแนวชายแดน ทั้งในส่วนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และทรัพย์สิน โดยให้ส่งรายละเอียดให้กับแต่ละจังหวัดเพื่อดำเนินการสรุปจำนวน มอบเงินช่วยเหลือชดเชยเยียวยา ทั้งในส่วนข้าราชการทหารและประชาชน โดยเบื้องต้น จะใช้เงินของกองทุนสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น ส่วนการเยียวยาด้านอื่นๆ ให้เร่งรัดสรุปกลับไปยังกระทรวงมหาดไทย และสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดน เช่น กระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงชั่วคราว กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการเปลี่ยนโรงพยาบาลในพื้นที่เป็นโรงพยาบาลสนามชั่วคราว รวมถึงอพยพคนป่วย ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดไปสู่โรงพยาบาลอื่นๆ ที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดูแลเรื่องการเยียวยาและบรรเทาทุกข์เบื้องต้น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ตรวจสอบและแก้ไขประชาสัมพันธ์ข่าวเท็จในสถานการณ์กระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินการตามแผนการ ร่วมกับกองทัพในพื้นที่ในการดูแลประชาชนในทุกมิติ ส่วนมาตรการด้านการต่างประเทศ รัฐบาลยืนยันได้ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาลง โดยได้แจ้ง กระทรวงการต่างประเทศให้เรียกเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทยแล้ว และส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกลับสู่ประเทศ ซึ่งถือเป็นมาตรการที่มีความรุนแรงที่สุดในทางการทูต.-314.-สำนักข่าวไทย

1 40 41 42 43 44 49
...