“แพทองธาร” ส่งกำลังใจถึงกองทัพ เชื่อทั่วโลกประณามกัมพูชา

ฉะเชิงเทรา 24 ก.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ ส่งกำลังใจถึงกองทัพ เชื่อทั่วโลกประณามกัมพูชา เป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ทำประชาชนบาดเจ็บ พร้อมส่งกำลังใจให้ประชาชนในพื้นที่ รัฐบาลเตรียมมาตรการไว้แล้ว ที่อดทนอดกลั้นเพราะไม่อยากให้เสียเลือดเสียเนื้อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางลงพื้นที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อประชุมติดตามผลการดำเนินงาน รายการค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ที่ศาลาว่าการจังหวัดฉะเชิงเทรา ถึงกรณี รัฐบาลและกองทัพร่วมกันทำกรอบการดูแลพี่น้องประชาชนเป็นจุดยืนที่เน้นย้ำมาโดยตลอด แต่ในที่สุดฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ซึ่งฝ่ายกัมพูชาก็อ้างว่า ฝ่ายไทยยิงก่อนเช่นเดิม แต่ในสายตาของชาวโลกนั้น เรามีเครื่องไม้เครื่องมือที่เยอะกว่า ชาวโลดจะเชื่อถือกัมพูชาคงลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ซึ่งทางนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ได้เตรียมความพร้อมอย่างดีในการดูแลพี่น้องประชาชน จากการโทรพูดคุยกันทางโทรศัพท์ เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและมีการประชุมกันการรับมือกับอาวุธที่มีตรงชายแดนพร้อมนานแล้ว หากเทียบกับสถานการณ์ปี 54 พร้อมมากกว่า 2-3 เท่า ในส่วนของกองทัพ แน่นอนว่า ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงตั้งแต่แรกแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วทางกองทัพเตรียมความพร้อมไว้อย่างดี สิ่งสำคัญที่จะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ ความสามัคคีของคนในชาติ สิ่งที่กองทัพและรัฐบาลพยายามมาโดยตลอดคือ ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บ คือสิ่งที่ทำมาเสมอ “เรารักคนของเราประเทศชาติของเราเรา ไม่อยากให้ใครก็ตามได้รับผลกระทบหรือความเจ็บปวดในครั้งนี้” แม้เราจะไม่ทราบว่าฝ่ายนั้นเขาคิดอย่างไรกับประชาชนของเขา แต่เราคิดกับประชาชนเราแบบนี้ เป็นสิ่งที่เน้นย้ำว่ารัฐบาลและกองทัพทำมาโดยตลอด ทั้งนี้รักษาการนายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการให้ดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่ […]

กมธ.มั่นคงแห่งรัฐฯ ถกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

รัฐสภา 24 ก.ค.-กมธ.มั่นคงแห่งรัฐฯ ถกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา “โรม” ถาม “แพทองธาร” ไม่มา-ไม่แจ้งเลยหรือ ด้าน “ชุติพงศ์” สงสัยทำไมไม่ให้ความร่วมมือ ขณะที่ “เพื่อไทย” ป้องกลัวบังคับใช้อำนาจเรียกแล้วมีคนร้องศาล ยันไม่ได้ปกป้องใคร ด้าน “ทูตรัศม์” ร่วมประชุมไม่นาน รีบกลับ กต. ด่วน เหตุ “ไทย-เขมร” ปะทะกัน การประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณากรณีความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ และกลไกการพูดคุย JBC และวาระพิจารณากรณีคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยสัปดาห์นี้ ที่ประชุมมีมติใช้อำนาจเรียกบุคคลให้มาแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความเห็นต่อคณะกรรมาธิการฯ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อำนาจเรียกของคณะกรรมาธิการของรัฐสภา ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร […]

ผู้ว่าฯ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลฯ บุรีรัมย์ อพยพประชาชนแล้ว

กทม.24 ก.ค.-ปลัดมหาดไทย เผยผู้ว่าฯ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลฯ บุรีรัมย์ อพยพประชาชนแล้ว พร้อมสั่งการผู้ว่าฯ-นายอำเภอชายแดนไทย-กัมพูชา ภาคตะวันออก เตรียมอพยพประชาชนหากสถานการณ์ลุกลาม และปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง โดย “คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กองทัพบกได้รายงานสถานการณ์เกิดการปะทะในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ปราสาทตาเมือนทม จ.สุรินทร์ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ด่านสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลฯ และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังมีการยิงอาวุธใส่พื้นที่ชุมชน บริเวณศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีบัญชาให้กระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง “ในขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี ได้ดำเนินการอพยพประชาชนที่พักอาศัยตามแนวชายแดนไปยังพื้นที่ปลอดภัยตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังแล้ว ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ พื้นที่จังหวัดสระแก้ว จันทบุรี ตราด และ ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา […]

แนะคนไทยในกัมพูชาออกจากประเทศเร็วที่สุด

24 ก.ค. – สถานทูตไทยในในพนมเปญ เเนะคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาเดินทางออกนอกประเทศโดยเร็ว เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างไทยเเละกัมพูชา สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างใกล้ชิด และขณะนี้สถานการณ์ได้ยกระดับความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเกิดการปะทะกันบริเวณแนวชายแดนในหลายพื้นที่ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยืดเยื้อและขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น ขอแนะนำให้คนไทยที่พำนักหรือพำนักชั่วคราวในประเทศกัมพูชาและไม่มีความจำเป็นเดินทางออกจากประเทศโดยเร็วที่สุด และขอความร่วมมือให้คนไทยที่ไม่มีความจำเป็นงดเดินทางมายังกัมพูชาในช่วงนี้ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ในกรณีฉุกเฉินหรือความต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อหน่วยงานของไทยได้ที่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ โทรศัพท์ฉุกเฉิน: (+855) 975 749 682 สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ โทรศัพท์: (+855) 86 608 999 Call Center กรมการกงสุล โทรศัพท์: (+66) 2 572 8442 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาโจมตีร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันกันทรลักษ์ สั่งอพยพ 7 ตำบล

24 ก.ค. – อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ สั่งอพยพประชาชน 7 ตำบล เข้าพื้นที่ปลอดภัยด่วน ขณะที่ร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันถูกโจมตี มีรายงานพบผู้บาดเจ็บจำนวนมาก หลังมีเสียงดังที่ไม่แน่ชัดว่าเป็นเสียงปืนหรือระเบิด ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้ตอนนี้ ทางอำเภอกันทรลักษ์ สั่งการด่วนที่สุด ให้พื้นที่ 7 ตำบลคือ ต.ภูผาหมอก, ต.เสาธงชัย, ต.รุง, ต.ละลาย, ต.โนนสำราญ, ต.บึงมะลู ต.ชำ และ 80 หมู่บ้าน ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยให้ดำเนินการอพยพประชาชน และโรงเรียนต่างๆ ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเร่งด่วน ขณะที่เหตุโจมตีร้านสะดวกซื้อ ในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เบื้องต้นพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยกองทัพภาคที่ 2 รายงานว่าเป็นเหตุกระสุน bm21 จากฝ่ายกัมพูชาตกใส่ปั๊ม .-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. ยืนยันเขมรเปิดฉากยิงก่อน และยิงใส่พื้นที่พลเรือน

ทำเนียบ 24 ก.ค.-ศบ.ทก. ยืนยันเขมรเปิดฉากยิงก่อน แถมพบใช้อาวุธหนัก จรวดหลายลำกล้องยิงใส่พื้นที่พลเรือน ชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย มอบส่วนหน้าปฏิบัติการได้ทันที ขณะที่การทูต รัฐบาลยืนยันเรียกทูตไทยกลับ พร้อมส่งทูตเขมรกลับไป นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่ารัฐบาลได้รับรายงานจากที่ประชุม ศบ.ทก. และ ผู้แทนกองทัพบกว่า สถานการณ์ชายแดนนั้น ยืนยันชัดเจนจากข้อมูล และพยานหลักฐาน พบว่าทหารกัมพูชาได้เปิดฉากใช้อาวุธก่อน โดยมีการบินโดรน (อากาศยานไร้คนขับ) เข้ามาในพื้นที่ของประเทศไทยเพื่อยั่วยุ จากนั้น ทหารกัมพูชาได้เปิดฉาก ยิงเข้าใส่ ทหารไทย ซึ่งกัมพูชามีการใช้อาวุธหนักอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้จรวดหลายลำกล้องขนาด122 มม.( จลก. BM 21) ยิงเข้าใส่พลเรือนไทยที่ชุมชนบริเวณชายแดนอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ กระสุนฝ่ายกัมพูชา ตกใส่ บ้านประชาชนคนไทย โดยมีพลเรือนเสียชีวิตหนึ่งราย และเด็กอายุห้าขวบได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมคนในครอบครัวอีกสองคน ซึ่งฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองได้อพยพประชาชนในพื้นที่ไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ขณะที่ทหารไทยได้รับรายงานว่ามีบาดเจ็บกว่า 7 นาย โดยที่ประชุม ศบ.ทก.ได้รับรายงานว่ากองทัพไทยได้ตอบโต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ โดย ศบ.ทก. […]

“จตุพร” กำชับดูแลสินค้าชายแดน–พื้นที่น้ำท่วม

กรุงเทพฯ​ 24 ก.ค. – รมว.พาณิชย์ ​สั่งกรม​การค้า​ภายใน​ติดตาม​สถานการณ์​สินค้า​อุปโภค​บริโภค​ชายแดน​ไทย-​กัมพูชา​ รวมทั้ง​พื้นที่​ประสบภัย​น้ำท่วม​ ไม่ให้ขาดตลาด–ไม่ให้โก่งราคา​ บรรเทา​ความเดือดร้อน​ของ​ประชาชน​ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ได้มีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ชายแดนเฝ้าระวังและดูแลการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลนหรือการจำหน่ายในราคาที่ไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้สั่งการให้ติดตามพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยจากพายุโซนร้อน “วิภา” โดยเร่งดูแลการกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคไปยังผู้ประสบภัย เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสิ่งของจำเป็นได้อย่างต่อเนื่องและไม่ต้องเผชิญภาวะขาดตลาดหรือราคาสูงผิดปกติ ขณะนี้​กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเร่งประสานกับภาคเอกชนเพื่อกระจายสินค้าจำเป็นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมขอให้ประชาชนในพื้นที่มั่นใจว่ารัฐบาลจะดูแลให้มีสินค้าเพียงพอและราคายุติธรรม หากพบปัญหาการกักตุนหรือการปรับขึ้นราคาสินค้าเกินควร สามารถแจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน โทร. 1569 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.​ -512 – สำนักข่าว​ไทย​

“แพทองธาร” รัวแชร์โพสต์ สวน “ฮุนเซน” ไม่ผิดคาด

กรุงเทพฯ 24 ก.ค.-“แพทองธาร” รัวแชร์โพสต์ สวน “ฮุนเซน” ไม่ผิดคาด ยิงก่อนบอกเราเริ่ม แต่ทำตัวเป็นเหยื่อ หลังเกิดเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้กองทัพถูกยั่วยุมาตลอด ความอดทนย่อมมีที่สิ้นสุด ภายหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกันในพื้นที่บริเวณชายแดนไทยกัมพูชาในหลายจังหวัด ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้แชร์ภาพบทสัมภาษณ์ของพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมข้อความที่ระบุว่า ฝ่ายกัมพูชาเป็นคนเปิดฉากยิงก่อน คงไม่คุยกันแล้วกองทัพไทยอดทนถึงที่สุดแล้ว ซึ่งนางสาวแพทองธาร ได้ระบุข้อความว่า “ที่สุดค่ะ ทุกท่านไม่ลงไปเล่นเกม ทุกท่านพยายามรักษาความสงบ อดทน อดกลั้น เป็นผู้ใหญ่กว่าในทุกเหตุการณ์ ทั้ง ๆ ที่ถูกยั่วยุมาตลอด ความอดทนย่อมมีที่สิ้นสุดส่ง กำลังใจให้กองทัพทีมทำงานทุกท่านค่ะ” นางสาวแพทองธาร ยังได้แชร์ภาพข่าวที่ระบุว่า โฆษกกลาโหมกัมพูชาอ้างไทยเป็นฝ่ายยิงก่อน โดยนางสาวแพทองธาร ระบุข้อความว่า ”ตามคาด! ยิงก่อนบอกเราเริ่ม!!!!“ ทั้งนี้ ยังแชร์ภาพข่าวของสมเด็จฯ ฮุน เซน ที่โพสต์ว่า กัมพูชาไม่มีทางเลือกนอกจากสู้กลับ โดยนางสาวแพทองธาร ระบุข้อความว่า ”ตามคาด!!! ทำตัวเป็นเหยื่อ!!!!“.-316.-สำนักข่าวไทย

“โรม” ประณามรัฐบาลกัมพูชา เหตุปะทะเดือดไทย-กัมพูชา

รัฐสภา 24 ก.ค.-“โรม” ประณามรัฐบาลกัมพูชา เหตุปะทะเดือดชายแดนไทย-กัมพูชา ไทยต้องแจ้งนานาประเทศทราบ ห่วงประชาชน กลุ่มเปราะบางได้รับผลกระทบ ชี้ “ฮุนเซน” อายุเยอะ คาดใช้แผนยั่วไปโฆษณาว่าชนะไทย รัฐบาลต้องรักษาศักดิ์ศรีประเทศ ด้วยการตอบโต้ตามเหตุจำเป็น นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ล่าสุดเกิดการใช้อาวุธและการประทะกันแล้วว่าอยากใช้โอกาสนี้ในการประณามรัฐบาลกัมพูชา คิดว่าพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นการยั่วยุการใช้ความรุนแรงการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา โดยใช้ระเบิดในลักษณะที่เป็นกับดักซึ่งเป็นอาวุธที่ไม่ควรมีการใช้อีกแล้วคิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่ก้าวร้าวที่ยอมรับไม่ได้ดังนั้นประเทศไทยก็คงต้องประณามการกระทำของรัฐบาลกัมพูชาที่ดำเนินการให้เรื่องนี้เกิดขึ้นซึ่งตนเชื่อว่าการที่รัฐบาลกัมพูชาจะต้องมีส่วนรู้เห็น การกระทำนี้อย่างแน่นอน มองว่ากัมพูชาควรที่จะเข้าใจกว่าหลายประเทศด้วยซ้ำว่าความร้ายแรงเน้นเรื่องกับดักระเบิดเป็นอย่างไรว่าชาวบ้านและ คนกัมพูชาได้รับความสูญเสียในเรื่องกับดักระเบิดนี้มาเป็นเวลานานกัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบเรื่องนี้มากที่สุดแต่กลับใช้พฤติกรรมนี้ กับฝ่ายไทยดังนั้นต้องยอมรับว่าการที่จะพูดคุยเจรจาเรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายฝ่ายไทยคงต้อง มีการตอบโต้เรื่องนี้ อย่างเหมาะสมคิดว่าเบื้องต้น ที่ฝ่ายไทยสามารถดำเนินได้หลังจากที่ได้ชี้แจงต่อทูตทหารต่อหลายประเทศ ที่สามารถทำได้ทันทีคือการสังเกตสถานการณ์โดยเชิญทูตจากประเทศต่างๆร่วมสังเกตการณ์ด้วย เรื่องนี้โลกต้องเห็น และมีข้อมูลที่เพียบพร้อมว่ากัมพูชามีความก้าวร้าวที่จะยั่วยุเพื่อให้สถานการณ์บานปลาย และกระทรวงการต่างประเทศต้องทำงาน เชิงรุกกว่านี้การไปรอเดือนธันวาคมเพื่อหารือในอนุสัญญาออตตาวา เป็นสิ่งที่ช้าเกินไปและมากไปกว่านั้นในสิ่งที่เป็นรูปธรรมคือควรนำเรื่องนี้นำเสนอต่อ UNGA ที่เป็นเวทีสำคัญของสหประชาชาติเพื่อให้ทั่วโลกได้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติกรรมที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าวันนี้มีการยิงปืนใหญ่แล้วสถานการณ์บานปลายสิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดคือพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบสิ่งนี้ต้องเตรียมความพร้อมเบื้องต้นทราบว่ามีการซักซ้อมในพื้นที่ ที่เชื่อว่ามีความพร้อมแต่ไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายไปนานแค่ไหนดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องเตรียมความเป็นไปได้เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนทั่วไปและผู้บริสุทธิ์ไม่สมควรได้รับผลกระทบ ต้องหาวิธีรองรับให้มากที่สุดโดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยติดเตียง และเด็กที่ต้องหามาตรการรองรับต้องฝากไปถึงรัฐบาลเมื่อมีการขัดกันทางอาวุธเกิดขึ้น กลุ่มเปราะบางประชาชนทั่วไปเค้าควรจะได้รับความปลอดภัย นายรังสิมันต์ กล่าวว่าการประชุมคณะกรรมาธิการวันนี้เป็นการ ใช้อำนาจเรียกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายหรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายภูมิธรรม […]

รมว. ศธ.สั่งปิดโรงเรียน​ชายแดนสุรินทร์​-ตั้งศูนย์​พักพิง​

กรุงเทพฯ​ 24​ ก.ค.​- รมว.ศึกษาธิการ สั่งปิดโรงเรียนชายแดนสุรินทร์ หลังเกิดเหตุปะทะไทย-กัมพูชา พร้อมจัดแผนหลบภัยดูแลนักเรียน​ ตลอด​จนตั้งศูนย์​พักพิง​รองรับ​นักเรียน​และครอบครัว​ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานสถานการณ์ความไม่สงบจากเหตุปะทะระหว่างกำลังความมั่นคง บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ใกล้พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.ค.) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ครู และเจ้าหน้าที่ ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งในเขตที่เกิดเหตุปะทะเป็นการชั่วคราว “ดิฉันกำชับให้โรงเรียนชายแดนจัดทำแผนรับมืออย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการเตรียมหลุมหลบภัยหรือพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน รวมถึงสั่งตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ปลอดภัย เพื่อรองรับนักเรียนและครอบครัวที่อาจต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง” ศ.ดร.นฤมล กล่าว กระทรวงศึกษาธิการจะประเมินสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง และจะพิจารณาเปิดเรียนตามปกติเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเรียนการสอนของนักเรียนในระยะยาว. -512-สำนักข่าว​ไทย​

ตลาดทุนจับตาสถานการณ์ชายแดน

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – “ตลาดทุน-ตลาดเงิน” จับตาสถานการณ์ชายแดน และความคืบหน้าเจรจาภาษีไทย-สหรัฐ ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทย นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.11/13 บาท/ดอลลาร์ฯ จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.15 บาท/ดอลลาร์ฯ เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่า หลังดอลลาร์สหรัฐและราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลง โดยตลาดยังคงจับตาดูความคืบหน้าของการเจรจาภาษีสหรัฐทั่วโลก รวมถึงการต่อรองการค้าไทยกับสหรัฐฯ เป็นหลัก รวมถึงปัจจัยใหม่ที่เข้ามาคือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดความบานปลาย สถานการณ์นี้กำลังถูกจับตามองจากสื่อระหว่างประเทศ และอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศในระยะยาวและสร้างปัจจัยเสี่ยงเพิ่ม DOWNSIDE GDP ไทยในช่วงครึ่งหลังปี 68 เป็นต้นไป จากตัวเลข NET EXPORTS (การค้าระหว่างประเทศ) ที่มีสัดส่วนราว 5% ของ GDP โดยกัมพูชามีดุลการค้ากับไทยราว 8 พันล้านเหรียญฯ ณ ปี 2567 (ไทยเกินดุลการค้ากับกัมพูชาเป็นอันดับ 2) หากพิจารณา 10 […]

กองทัพบกประณามกัมพูชา โจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตไทย

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวด BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไปโดยเร็วที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย

1 35 36 37 38
...