ตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ไทย-กัมพูชา ยังปะทะกันเดือด

สุรินทร์ 24 ก.ค. – ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม สุรินทร์ จุดแรกที่มีรายงานว่าเกิดเหตุปะทะ ตั้งแต่เช้า และตอนนี้เสียงปืนยังดังต่อเนื่อง และลูกปืนใหญ่ของกัมพูชาที่ยิงตกกลางหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านบาดเจ็บหลายราย บางรายสาหัส ผู้สื่อข่าวปักหลักรายงานอยู่บริเวณบ้านหนองคันนา จุดที่อยู่ห่างตาเมือนธม 2 กิโลเมตร .-สำนักข่าวไทย

มท.ยันพร้อมอพยพประชาชนแนวชายแดน

กทม. 24 ก.ค.- มหาดไทย ยันมีความพร้อมอพยพประชาชนตามแนวชายแดน ย้ำ เหตุชาวบ้านเสียชีวิตไม่ใช่ความล่าช้า แต่อยู่ระหว่างขนคนออกจากพื้นที่เสี่ยง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อสั่งการภายหลังจากที่มีการปะทะกันบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ว่า ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการประสานผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดนสุรินทร์ ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ ที่เป็นพื้นที่ที่มีการปะทะกันว่าให้อพยพผู้คนทันที เช่น อำเภอพนมดงรัก ที่อยู่ติดกับชายแดนมายังพื้นที่อำเภอปราสาทที่อยู่ไกลจากชายแดนเข้ามาหน่อย ส่วนคนที่ยังอยู่ในพื้นที่ได้ให้อยู่ในหลุมหลบภัย ตามที่นายอำเภอได้มีการเตรียมการไว้ ซึ่งในการอพยพมีทั้งหน่วยแพทย์ พยาบาล ที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน รวมถึงการตั้งโรงครัว เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ตนจึงได้มีการกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ดูแลพื้นที่ส่วนหลัง รวมถึงพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดน และให้อพยพเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ตามที่ นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการตั้งแต่เช้าว่าตอนนี้สถานการณ์เริ่มตึงเครียดแล้ว นอกจากนี้ นายอรรษิษฐ์ ยังกล่าวต่อว่าเหตุการณ์ที่มีประชาชนเสียชีวิต ไม่ได้เกิดจากการล่าช้าในการอพยพ หรือ ประชาชนไม่ยอมออกจากพื้นที่ แต่อยู่ในขณะกำลังเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ทำให้เกิดการสูญเสียขึ้น พร้อมยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทยมีความพร้อมที่จะอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง ส่วนอีก 3 จังหวัดที่อยู่ติดแนวชายแดน ประกอบด้วย […]

“สุริยะ”สั่ง กพท.-บวท. เฝ้าติดตามสถานการณ์ชายแดน

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – “สุริยะ” เผยหลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา สั่งการ กพท.- บวท. เฝ้าติดตามสถานการณ์-พร้อมอำนวยความสะดวกเครื่องบินทหารเป็นอันดับแรก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยขณะนี้ได้สั่งการให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์และกำหนดแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ พร้อมประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและประเทศชาติ โดยทางด้าน บวท.ได้เร่งดำเนินการทุกกระบวนการด้านความปลอดภัย และพร้อมอำนวยความสะดวกให้เครื่องบินทหารเป็นอันดับแรก ทั้งนี้หน่วยงานได้ดำเนินการตามมาตรการ เร่งด่วนดังนี้ 1.เตรียมพร้อมการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศโดยคำนึงถึงลำดับความสำคัญเร่งด่วน (Prioriy) ตามวิธีปฏิบัติที่กำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติการบินของภารกิจด้านความมั่นคง 2.เตรียมพร้อมการจัดอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้สอดรับกับสถานการณ์และภารกิจที่เกิดขึ้น ทั้งในสถานการณ์ปกติ และสถานการณ์ฉุกเฉิน 3. เตรียมพร้อมให้การสนับสนุน ประสานงานและอำนวยความสะดวกการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศ ตามภารกิจพิเศษต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ในทุกมิติ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเที่ยวบินพาณิชย์ ยังคงให้บริการตามปกติ โดย กพท. และ บวท. […]

ศบ.ทก.ย้ำมาตรการปกป้องอธิปไตยเป็นไปตามขั้นตอน

ทำเนียบ 24 ก.ค.- ศบ.ทก.เผยความจำเป็นในการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา หลังสถานการณ์ตึงเครียดลุกลาม ย้ำ มาตรการปกป้องอธิปไตยเป็นไปตามขั้นตอน พร้อมเดินหน้าประท้วง และประณามกัมพูชาอย่างที่สุดในการละเมิดอธิปไตย นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ว่า ที่ผ่านมา ศบ.ทก. ยืนยันมาโดยตลอดว่า ไม่ปิดด่านเพียงแต่เพิ่มความเข้มงวด ซึ่งเป็นไปตามที่หารือกันในที่ประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และเพื่อความปลอดภัยของประชาชน แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน ทางการไทยมีความจำเป็นต้องปิดด่านในจุดต่างๆ เพื่อปกป้องอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นมาตรการอย่างเป็นขั้นตอน จากขั้น 1-2 ที่ผ่านมา จนขณะนี้มาถึงขั้นที่ 4 ส่วนการดำเนินการด้านการต่างประเทศ ของกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวานนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตต่างประเทศ และผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ในเรื่องเหตุการณ์ทุ่นระเบิดที่อำเภอช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี และการประท้วงของฝ่ายไทย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี โดยมีผู้แทนคณะทูตต่างประเทศมาเข้าร่วม จำนวน 93 คน จาก 68 ประเทศ โดยฝ่ายไทยได้ชี้แจงท่าทีและจุดยืนในเรื่องดังกล่าว และการดำเนินการในเรื่องนี้ ทั้งการประท้วงฝ่ายกัมพูชาโดยตรง […]

ศบ.ทก.เปิดไทม์ไลน์เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 24 ก.ค.- โฆษก ศบ.ทก. ไล่เลียงไทม์ไลน์ เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำทหารกัมพูชาวางอาวุธครบมือ พร้อมเปิดฉากยิงก่อน ใกล้ปราสาทตาเมือนธม ก่อนขยายการปะทะไปอีก 6 จุด ประชาชนตาย 1 บาดเจ็บ 3 เด็ก 5 ขวบเจ็บด้วย ชี้ ศบ.ทก. ยกระดับขั้นที่ 4 ปิดทุกด่านชายแดน วอนนักพนันไทยดูแลตัวเอง เดินทางกลับไม่ได้ พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ศบ.ทก. แถลงว่า ที่ประชุม ศบ.ทก. ได้มีการพูดคุยติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยไล่เรียงเหตุการณ์ก่อนเกิดการปะทะ โดยเฉพาะล่าสุด เหตุการณ์รอบวางระเบิดที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เกิดเหตุให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสาหัส ยืนยันว่า เป็นพื้นที่ปฏิบัติการของฝ่ายไทย มีการลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 7:35 น. ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้โดรนบิน เพื่อตรวจการการวางกำลังของฝ่ายไทย บริเวณประสาทตาเมือน จากนั้นได้พบความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชานำอาวุธเข้าประจำการบริเวณด้านหน้าลวดหนาม พร้อมกำลังพล […]

แนะรัฐปฏิบัติการเชิงรุกตามหลักสากล ปมกัมพูชายิงถล่ม

กรุงเทพฯ 24 ก.ค.- นักวิชาการ แนะรัฐปฏิบัติการเชิงรุกตามหลักสากล ปมกัมพูชายิงถล่ม เร่งเปิดโปงหลักฐานพฤติกรรมฟ้องชาวโลก เพื่อลดท่าทีแข็งกร้าวเขมร ชี้ใครยิงก่อนไม่สำคัญเท่าการยิงเข้ามาในพื้นที่อธิปไตยไทย ขณะเดียวกันหาช่องทางเจรจาบนพื้นฐานความเข้มแข็ง เชื่อไม่บานปลาย เหตุกัมพูชาไม่ได้หวังทำสงคราม แค่อยากยั่วยุ หวังใช้ประโยชน์ พร้อมบอก กต.ต้องทำงานมากขึ้น เแค่เชิญทูตแจงยังไม่พอ สัญญาณอ่อน ต้องสื่อสารตรงผู้นำทั่วโลก นายปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดการปะทะกันหลังกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้ามา ว่า ไทยต้องดำเนินการตามแผนที่วางเอาไว้ ไม่ว่าจะแผนอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ แผนการสถาปนากำลังเข้าไปตามแนวอำนาจอธิปไตยที่เรียกกว่าแผนจักรพงศ์ภูวนาถที่ใช้มาแล้ว แต่ครั้งนี้ต้องเข้มข้นขึ้น เพราะสถานการณ์ซับซ้อนขึ้น ขณะเดียวกันจะต้องใช้แผนการทางการทูตและการเมืองระหว่างประเทศ ที่จะต้องใช้ช่องทางพิเศษในการสื่อสารกับกัมพูชาให้เข้าใจถึงตั้งใจในการปกป้องอธิปไตยแต่ไม่รุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชา แม้แต่พื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทแต่การดำเนินการตั้งรับแบบเชิงรุกก็ต้องทำให้เข้มข้นขึ้น การเก็บทุ่นระเบิด การปิดพื้นที่บางพื้นที่ เช่น ตัวปราสาททั้ง 2 แห่ง ในทางปฏิบัติเราอาจดำเนินการเชิงรุก หากมีการโต้ตอบเราก็หาทางป้องกันตนเอง หรือบางกรณีก็ต้องปฏิบัติการเชิงรุก ซึ่งทำได้ทั้งหมดตามหลักสากลเพียง แต่ต้องมีความชัดเจนและต้องสื่อสารกับนานาชาติว่าเราปฏิบัติการทางทหารในรูปแบบใด โดยจำกัดอยู่ที่กองทัพบก เรายังไม่ได้ประกอบกำลังรบแบบพร้อมรบจริงๆ แบบที่จะมีกองทัพอากาศ กองทัพเรือ และบัญชาการโดยกองทัพไทย ดังนั้นสถานการณ์ยังมีทางออกอยู่ และจำเป็นต้องสื่อสารกันทางการเมืองด้วย หากการสื่อสารกับฝ่ายการเมืองด้วยช่องทางพิเศษในยามวิกฤตเช่นนี้ทำได้ การสั่งลงมาให้แต่ละฝ่ายยึดแนวปฏิบัติที่ชัดเจนขึ้น พร้อมไปคุยกันในเรื่องกฎการปะทะ กฎในการปฏิบัติในการวางกำลัง สถานการณ์ก็จะคลี่คลายเร็ว […]

เรียกร้องนานาอารยประเทศ ประณาม “กัมพูชา” เปิดฉากยิงก่อน

ทำเนียบ 24 ก.ค.- รัฐบาลไทยเรียกร้องนานาอารยประเทศ ประณามความโหดร้ายไร้มนุษยธรรมของ “กัมพูชา” กระหายสงคราม เปิดฉากยิงก่อนช่วงเช้า ระดมใช้อาวุธหนัก ไม่สนใจเป้าหมายทางพลเรือน กระสุนปืนใหญ่ตกใส่โรงพยาบาล บ้านเรือนชาวไทย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวว่าจากพยานหลักฐานชัดเจนว่า กัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารไทยก่อน และยังใช้อาวุธหนักอย่างต่อเนื่องเข้าใส่เป้าหมายทางพลเรือน และขอเรียกร้องให้ทั่วโลกประณามความเลวร้ายของกัมพูชาโดยกัมพูชาเป็นผู้กระหายสงคราม โดยไม่สนหลักสิทธิมนุษยชนใด ๆ แม้แต่น้อย ทั้งนี้ โดยผู้แทนกองทัพบกรายงาน ต่อ ศก.ทก ว่า สถานการณ์ชายแดนนั้น ยืนยันชัดเจนจากข้อมูล และพยานหลักฐาน พบว่า ทหารกัมพูชาได้มีเจตนาพิเศษดำเนินการในลักษณะยั่วยุ และละเมิดข้อตกลงมาตั้งแต่ต้นปี และในเช้าวันนี้ ( 24 กค.) ได้เปิดฉากใช้อาวุธก่อนโดยมีการบินโดรน (อากาศยานไร้คนขับ) เข้ามาในพื้นที่ของประเทศไทยเพื่อยั่วยุจากนั้น ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารไทย ซึ่งกัมพูชามีการใช้อาวุธหนักอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้จรวดหลายลำกล้องขนาด122 มม.( จลก. BM 21) และ จรวด RPG ยิงเข้าใส่พลเรือนไทยที่ชุมชนบริเวณชายแดนอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ และอีกหลายพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา […]

กัมพูชาประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย

พนมเปญ 24 ก.ค. – รัฐบาลกัมพูชาประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยเป็นระดับต่ำสุด ขณะที่สื่อกัมพูชารายงานข่าวสถานการณ์ชายแดนเช้าวันนี้ว่าเป็นการตอบโต้ของกองทัพกัมพูชาต่อการรุกรานของไทยและการปิดปราสาทตาเมือนธม วันนี้รัฐบาลกัมพูชาประกาศตัดสินใจลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยลงเป็นระดับต่ำสุด เพื่อตอบโต้รัฐบาลไทยที่เมื่อวานนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีประกาศตัดสินใจลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา หลังเกิดเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเป็นครั้งที่สองเมื่อวานนี้ กัมพูชาระบุว่าจะตอบสนองด้วยการลดความสัมพันธ์ทางการทูตลงเหลือเพียงระดับ “อุปทูตลำดับที่สอง” เท่านั้น นอกจากนี้นักการทูตกัมพูชาทุกคนที่ประจำการอยู่ที่สถานทูตกัมพูชาในกรุงเทพ ยังได้รับคำสั่งให้เดินทางกลับบ้านด้วยและทางฝ่ายไทยได้รับคำสั่งให้นักการทูตไทยเดินทางออกจากกัมพูชาด้วยเช่นกัน อีกด้านหนึ่งกระทรวงกลาโหมกัมพูชา โดยนางมาลี โสเชตา ปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อคืนนี้แถลงปฏิเสธข้อกล่าวหาของฝ่ายไทยอย่างเด็ดขาดเรื่องทหารไทยเหยียบกับระเบิดเมื่อวานนี้ ซึ่งทางกัมพูชาอ้างว่าเหตุเกิดในพื้นที่หมู่บ้านอัน เสส ตำบลและอำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารของกัมพูชา นางมาลีระบุว่าข้อกล่าวของไทยที่ว่ากับระเบิดในอยู่เขตแดนไทยและเป็นระเบิดฝังใหม่โดยทหารกัมพูชานั้นไม่มีมูลความจริงซึ่งกัมพูชาขอปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยหลีกเลี่ยงการกระทำที่ขัดต่อการใช้เส้นทางลาดตระเวนที่กำหนดเอาไว้ในเอ็มโอยี 43 นอกจากนี้นางมาลียังบอกด้วยว่าเป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ประเทศไทยไม่เพียงแต่ไม่รับผิดชอบต่อการกระทำที่ก้าวร้าวของตนเท่านั้น แต่ยังกล่าวหากัมพูชาว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ในขณะที่กัมพูชาเองเป็นเหยื่อของความ อยุติธรรมจากการละเมิดของฝ่ายไทย ขณะที่สื่อของกัมพูชารายงานสถานการณ์เช้าวันนี้ว่า“กองทัพกัมพูชาเปิดฉากโจมตีตอบโต้การรุกรานของทหารไทยและการสั่งปิดปราสาทตาเมือนธม” โดยอ้างข้อมูลจากนายทหารระดับสูงของกัมพูชาที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเฟรชนิวส์จากพื้นชายแดนในเช้าวันนี้ ซึ่งทางกัมพูชาอ้างว่าจุดปะทะอยู่ในจังหวัดพระวิหาร และหลังจากการปะทะที่ตาเมือนธมในจังหวัดอุดรมีชัยแล้ว ขณะนี้การสู้รบได้ขยายพื้นที่ออกไปยังพนมกมุช ในจังหวัดพระวิหาร เวลานี้กำลังมีการยิงตอบโต้กันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ซึ่งซึ่งกัมพูชาได้อ้างรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ทหารไทยบาดเจ็บ 2 นายแต่ฝั่งกัมพูชาไม่มีผู้บาดเจ็บ.-816.-สำนักข่าวไทย

อ.น้ำยืน อพยพชาวบ้าน ไปยังพื้นที่ปลอดภัย

อุบลราชธานี 24 ก.ค. – ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดการปะทะตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยเฉพาะ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านได้อพยพออกจากบ้าน เตรียมเดินทางไปยังพื้นที่ปลอดภัย เมื่อเวลา 10.00 น. ทีมข่าวเดินทางติดตามชาวบ้านในอำเภอน้ำยืน อพยพออกจากบ้านมายังจุดรวมพล ที่โรงเรียนน้ำยืนวิทยา ตามแผนฉุกเฉินที่เคยซักซ้อมไว้ โดยจุดรวมพลแห่งนี้เป็นส่วนกลางรับผิดชอบของเทศบาลตำบลน้ำยืนให้ข้อมูลว่ามีประชาชนที่พร้อมอพยพประมาณ 4500 คนโดยจะแยกเป็นหมู่บ้านซึ่งจุดรวมแห่งนี้มีทั้งหมด 10 หมู่บ้าน รวมไปถึงหมู่บ้านข้างเคียงอย่างตำบลสีวิเชียร จากนั้นจะมีรถจากทางอำเภอในหน่วยงานที่รับผิดชอบมาขึ้นรถอพยพไปยังอำเภอเดชอุดมยังที่ปลอดภัยเนื่องจากพ้นระยะแนวการยิงของปืนใหญ่ ชาวบ้านต่างพากันอพยพกันมาด้วยความด้วยความโกลาหล ได้รับแจ้งข่าวจากผู้นำชุมชนเมื่อเวลา 09.00 น. ผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศเสียงตามสายโทรศัพท์แจ้งทางออนไลน์ทุกช่องทางจนทุกคนได้บอกต่อกันและมารวมพลกันตามแผนซ้อมอพยพเบื้องต้น ณ ขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตในพื้นที่อำเภอน้ำยืน ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า ได้ยินชาวบ้านแจ้งกันผ่านเสียงตามสายโทรศัพท์ให้พากันอพยพโดยด่วน ซึ่งชาวบ้านบอกว่ารู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก ตนเองเอาเฉพาะของที่จำเป็นแล้ววิ่งออกมาโดยไม่คิดชีวิต และยังอยากฝากให้ทั้งสองประเทศเจรจาสงบศึกให้เร็ว เนื่องจากได้รับผลกระทบทั้งการทำมาหากินทางเศรษฐกิจที่แย่และเป็นหนี้เป็นสิน อีกทั้งยังต้องมาวิ่งเอาชีวิตรอดหลบกระสุนปืน รู้สึกเครียดมากกับเหตุการณ์ในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ส่งกำลังใจถึงกองทัพ เชื่อทั่วโลกประณามกัมพูชา

ฉะเชิงเทรา 24 ก.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ ส่งกำลังใจถึงกองทัพ เชื่อทั่วโลกประณามกัมพูชา เป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ทำประชาชนบาดเจ็บ พร้อมส่งกำลังใจให้ประชาชนในพื้นที่ รัฐบาลเตรียมมาตรการไว้แล้ว ที่อดทนอดกลั้นเพราะไม่อยากให้เสียเลือดเสียเนื้อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางลงพื้นที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อประชุมติดตามผลการดำเนินงาน รายการค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ที่ศาลาว่าการจังหวัดฉะเชิงเทรา ถึงกรณี รัฐบาลและกองทัพร่วมกันทำกรอบการดูแลพี่น้องประชาชนเป็นจุดยืนที่เน้นย้ำมาโดยตลอด แต่ในที่สุดฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ซึ่งฝ่ายกัมพูชาก็อ้างว่า ฝ่ายไทยยิงก่อนเช่นเดิม แต่ในสายตาของชาวโลกนั้น เรามีเครื่องไม้เครื่องมือที่เยอะกว่า ชาวโลดจะเชื่อถือกัมพูชาคงลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ซึ่งทางนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ได้เตรียมความพร้อมอย่างดีในการดูแลพี่น้องประชาชน จากการโทรพูดคุยกันทางโทรศัพท์ เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและมีการประชุมกันการรับมือกับอาวุธที่มีตรงชายแดนพร้อมนานแล้ว หากเทียบกับสถานการณ์ปี 54 พร้อมมากกว่า 2-3 เท่า ในส่วนของกองทัพ แน่นอนว่า ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงตั้งแต่แรกแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วทางกองทัพเตรียมความพร้อมไว้อย่างดี สิ่งสำคัญที่จะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ ความสามัคคีของคนในชาติ สิ่งที่กองทัพและรัฐบาลพยายามมาโดยตลอดคือ ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บ คือสิ่งที่ทำมาเสมอ “เรารักคนของเราประเทศชาติของเราเรา ไม่อยากให้ใครก็ตามได้รับผลกระทบหรือความเจ็บปวดในครั้งนี้” แม้เราจะไม่ทราบว่าฝ่ายนั้นเขาคิดอย่างไรกับประชาชนของเขา แต่เราคิดกับประชาชนเราแบบนี้ เป็นสิ่งที่เน้นย้ำว่ารัฐบาลและกองทัพทำมาโดยตลอด ทั้งนี้รักษาการนายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการให้ดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่ […]

กมธ.มั่นคงแห่งรัฐฯ ถกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

รัฐสภา 24 ก.ค.-กมธ.มั่นคงแห่งรัฐฯ ถกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา “โรม” ถาม “แพทองธาร” ไม่มา-ไม่แจ้งเลยหรือ ด้าน “ชุติพงศ์” สงสัยทำไมไม่ให้ความร่วมมือ ขณะที่ “เพื่อไทย” ป้องกลัวบังคับใช้อำนาจเรียกแล้วมีคนร้องศาล ยันไม่ได้ปกป้องใคร ด้าน “ทูตรัศม์” ร่วมประชุมไม่นาน รีบกลับ กต. ด่วน เหตุ “ไทย-เขมร” ปะทะกัน การประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณากรณีความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ และกลไกการพูดคุย JBC และวาระพิจารณากรณีคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยสัปดาห์นี้ ที่ประชุมมีมติใช้อำนาจเรียกบุคคลให้มาแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความเห็นต่อคณะกรรมาธิการฯ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อำนาจเรียกของคณะกรรมาธิการของรัฐสภา ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร […]

ผู้ว่าฯ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลฯ บุรีรัมย์ อพยพประชาชนแล้ว

กทม.24 ก.ค.-ปลัดมหาดไทย เผยผู้ว่าฯ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลฯ บุรีรัมย์ อพยพประชาชนแล้ว พร้อมสั่งการผู้ว่าฯ-นายอำเภอชายแดนไทย-กัมพูชา ภาคตะวันออก เตรียมอพยพประชาชนหากสถานการณ์ลุกลาม และปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง โดย “คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กองทัพบกได้รายงานสถานการณ์เกิดการปะทะในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ปราสาทตาเมือนทม จ.สุรินทร์ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ด่านสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลฯ และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังมีการยิงอาวุธใส่พื้นที่ชุมชน บริเวณศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีบัญชาให้กระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง “ในขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี ได้ดำเนินการอพยพประชาชนที่พักอาศัยตามแนวชายแดนไปยังพื้นที่ปลอดภัยตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังแล้ว ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ พื้นที่จังหวัดสระแก้ว จันทบุรี ตราด และ ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา […]

1 34 35 36 37 38
...