
ชัวร์ก่อนแชร์: เลือดผู้ฉีดวัคซีนโควิด แข็งตัวในหลอดทดลองใน 3 นาที จริงหรือ?
หลอดในภาพที่แชร์คือหลอดแยกซีรั่ม ซึ่งมีสารกระตุ้นการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดแข็งตัวภายใน 5-10 นาที
หลอดในภาพที่แชร์คือหลอดแยกซีรั่ม ซึ่งมีสารกระตุ้นการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดแข็งตัวภายใน 5-10 นาที
11 มีนาคม 2567 – ตามที่มีการแชร์เตือนว่า การฉีดวัคซีนโควิด มีอันตราย ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เกิดลิ่มเลือดอุดตันเส้นเลือดฝอย เซลล์ตายเพราะขาดออกซิเจนนั้น บทสรุป : จริงบางส่วน ไม่ควรแชร์ ⚠️ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ รศ.นพ.สุพจน์ ศรีมหาโชตะ สาขาวิชาโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายกสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ การฉีดวัคซีนโควิด มีอันตราย ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จริงหรือ ? : มีรายงานพบว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 พบว่า มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ แต่หากรวบรวมข้อมูลในการฉีดวัคซีนหลายชนิดตั้งแต่อดีต พบว่าวัคซีนมีผลข้างเคียงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบทั้งสิ้น โดยผลเสียเหล่านี้ถือว่าพบน้อยมาก ข้อดีของวัคซีนในการป้องกันอันตรายจากโรคโควิด-19 มีมากกว่าผลเสียเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ วัคซีนจะก่อมะเร็งใน 5 ปี และอาจจะก่อให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจ เพราะเซลล์เม็ดเลือดขาวฆ่าเซลล์หลอดเลือดของตัวเอง จริงหรือ ? : ไม่จริง ยังไม่มีรายงานว่าวัคซีนโควิด-19 ทำให้เส้นเลือดหัวใจตีบ อุดตัน แต่อย่างใด วัคซีนชนิด mRNA จะทำให้หัวใจเกิดลิ่มเลือดอุดตันเส้นเลือดฝอย จนเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจตาย […]
การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มความเสี่ยงการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน ไม่ว่าในผู้ป่วยหนักหรือผู้ป่วยปานกลาง-เบา
ตามที่มีการแชร์เตือนระวังใบแจ้งค่าไฟปลอม หลอกสแกนดูดเงินหมดบัญชี นั้น📌 บทสรุป : ❌ ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ ❌ เป็นเอกสารจริงของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับเพจเฟซบุ๊กทางการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ยืนยันว่า เอกสารที่มีการแชร์กัน เป็นเอกสารจริง โดยเป็นใบแจ้งเตือนให้ชำระค่าไฟฟ้า ตามระเบียบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1 มีระยะเวลาในการชำระค่าไฟ นับตั้งแต่วันที่จดหน่วย รวม 21 วัน หากเกินระยะเวลาที่กำหนด เจ้าหน้าที่สามารถเข้างดจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ ซึ่งจะมีการส่งใบแจ้งเตือนให้กับทางผู้ใช้ไฟก่อนจะงดจ่ายกระแสไฟฟ้า 18 มีนาคม 2567 – เพจเฟซบุ๊กทางการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้ลงรูปประชาสัมพันธ์ ความแตกต่างระหว่าง ใบแจ้งค่าไฟฟ้า กับ ใบแจ้งเตือนค่าไฟฟ้าค้างชำระ ใบแจ้งค่าไฟฟ้าและใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษี รูปแบบใหม่ ผู้ใช้ไฟฟ้าจะได้รับตามรอบการใช้ไฟฟ้า โดยมีระยะเวลาในการชำระเงินตามวันที่ระบุในใบแจ้งค่าไฟฟ้า 10 วัน ใบแจ้งเตือนค่าไฟฟ้าค้างชำระ เป็นการแจ้งเตือนกรณีมีค่าไฟฟ้าค้างชำระ จะจัดส่งให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าหลังจากวันครบกำหนดในใบแจ้งค่าไฟฟ้า มีกำหนดชำระเงิน 7 วัน 👉 จากฐานข้อมูลศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ […]
บนสังคมออนไลน์แชร์ข่าวเตือนว่า ชายหลอดเลือดสมองแตกหลังอาบน้ำเหตุเจออากาศเย็น ถูกส่งโรงพยาบาลพบความดันสูง หลอดเลือดสมองตีบอันตรายถึงชีวิต บทสรุป : จริงบางส่วน ไม่ควรแชร์ ⚠️ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ แพทย์หญิงวริสา วงศ์ภาณุวิชญ์ นายแพทย์ชำนาญการ กลุ่มงานประสาทศัลยศาสตร์สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ “ข่าวที่แชร์มายังบอกข้อมูลไม่ครบ ว่าคนไข้มีอาการป่วยอื่น ๆ ร่วมด้วยหรือไม่ ตามปกติอาการหลอดเลือดสมองแตกสามารถเกิดได้ตลอดเวลาและไม่เกี่ยวกับการอาบน้ำแต่อย่างใด เนื่องจากอากาศที่ร้อนหรืออุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลงมาก ๆ ร่างกายของเราจะมีกลไกการหดตัวหรือขยายตัวของหลอดเลือดที่ผิวหนัง เพื่อควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้คงที่ซึ่งแทบไม่ส่งผลกับหลอดเลือดสมองเลย”
10 มีนาคม 2567 ตาแฉะเกิดจากสาเหตุใด เป็นสัญญาณของโรคทางตาหรือไม่ และจะต้องดูแลอย่างไร ต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ ศาสตราจารย์วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ภาวะตาแฉะ คือ อาการน้ำตาไหลบ่อย ขี้ตาเป็นเมือกเหนียว สีขุ่นขาวหรือมีสีเหลือง สีของขี้ตาบ่งบอกภาวะของโรคได้ ภาวะตาแฉะเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาการตาแฉะมักเริ่มที่ข้างใดข้างหนึ่งก่อน หากมีการรักษาความสะอาดดี ก็อาจจะหาย แต่บ่อยครั้งเรามักเผลอเอามือไปสัมผัสตาข้างที่เป็น มาโดนตาอีกข้างหนึ่งก็มักจะทำให้เป็น หรือทำให้ติดเชื้อสองตาได้ การรักษา หากคุณสงสัยว่าปัญหา ขี้ตา เยอะนั้นอาจจะเป็นเพราะโรคภูมิแพ้ ควรเข้ารับการตรวจกับแพทย์ เพื่อหาดูว่าคุณเป็นโรคภูมิแพ้ต่ออะไรกันแน่ หรืออาจจะบรรเทาอาการด้วยยาแก้แพ้ และใช้น้ำตาเทียม เพื่อช่วยลดความระคายเคืองต่อดวงตาลงไปได้ สัมภาษณ์เมื่อ : 27 กุมภาพันธ์ 2567ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์เรียบเรียงโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส
ลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นในร่างกายแต่ละส่วนมีโครงสร้างที่แตกต่างกัน จึงบอกไม่ได้ว่าความแตกต่างนี้เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนหรือไม่
7 มีนาคม 2567 บนสังคมออนไลน์มีข้อสงสัยเกี่ยวกับ สัญญาณของโรคพาร์กินสัน มีอาการอะไรบ้าง และจะมีวิธีการรักษาอย่างไร ติดตามข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ ศ.นพ.รุ่งโรจน์ พิทยศิริ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สัญญาณเตือนโรคพาร์กินสัน อาการสั่น ส่วนมากเป็นสั่นข้างเดียว ควบคุมตนเองไม่ได้ หากอายุน้อยมักมีอาการเกร็ง เคลื่อนไหวช้า ทรงตัวได้ไม่ดี นอกจากนี้ยังอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยได้ เช่น ก้าวสั้นแต่ก้าวถี่ เขียนหนังสือตัวเล็กลง การรักษาโรคพาร์กินสัน ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ช่วยรักษาบรรเทาอาการไม่ให้แย่ลง โดยที่โรคพาร์กินสันจะมีความก้าวหน้าของโรคไปเรื่อย ๆ การรักษาสามารถรักษาด้วยยา และการผ่าตัดฝังเครื่องกระตุ้นสมองส่วนลึก เพื่อลดอาการสั่น แต่การผ่าตัดอาจมีข้อจำกัดซึ่งอาจไม่สามารถทำได้กับผู้ป่วยทุกราย สัมภาษณ์เมื่อ : 10 กรกฎาคม 2566ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์เรียบเรียงโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส
คนแต่งศพ (Embalmer) ไม่สามารถวิเคราะห์ลิ่มเลือดจากศพได้ เนื่องจากไม่รู้ประวัติสุขภาพหรือประวัติการฉีดวัคซีนของผู้เสียชีวิต
6 มีนาคม 2567 – บนโซเชียลมีการแชร์เกี่ยวกับข้อห้ามการใช้โทรศัพท์มือถือ ทั้งห้ามดูในที่มืดเพราะเสี่ยงตาบอด และห้ามใช้ไฟฉายมือถือส่องตู้ไฟฟ้าบ้าน อันตรายถึงชีวิต ?! เรื่องไหนจริง เรื่องไหนเท็จ พบคำตอบได้ที่ชัวร์ก่อนแชร์ CHECK-LIST ร้อยเรียงเรื่องฮิต ติดอันดับจากชัวร์ก่อนแชร์ อันดับที่ 1 : ดูมือถือในที่มืดทำให้ตาบอด จริงหรือ ? มีการแชร์ข้อความเตือนว่า ถ้าเปิดดูจอมือถือในที่มืดจะทำให้ตาบอดได้ บทสรุป : ไม่จริง ไม่ควรแชร์ ❌ ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ : นายแพทย์ นนท์ รัตนิน จักษุแพทย์ โรงพยาบาลจักษุรัตนิน และ นายแพทย์ สมเกียรติ อธิคมกุลชัย จักษุแพทย์ โรงพยาบาลเอกชัย “การเล่นมือถือในที่มืดไม่ได้ทำให้ตาบอด แต่จะทำให้เกิดความไม่สบายตามากกว่าการเล่นมือถือขณะเปิดไฟ เพราะจะต้องเพ่งมากกว่าปกติ และมีแสงสะท้อนเข้าตามากกว่าปกติ ทำให้เกิดความไม่สบายตา ทำให้ตาล้ามากขึ้น อาการจากการใช้อุปกรณ์เหล่านี้จะเป็นอาการเพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อพักและหยุดใช้งานไป ก็จะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม” อันดับที่ 2 : ชาร์จมือถือไป เล่นไป อันตรายถึงชีวิต จริงหรือ ? มีการแชร์ข้อความเตือนว่า แชร์เตือนว่า การชาร์จโทรศัพท์มือถือไปด้วย เล่นไปด้วย เป็นอันตรายถึงชีวิต เพราะที่ชาร์จจะร้อนจนฉนวนภายในหลอมละลาย และไฟฟ้า 310 โวลต์ จะวิ่งเข้ามาช็อตทันที บทสรุป : จริงบางส่วน ไม่ควรแชร์ […]
Global Vaccine Data Network หน่วยงานตรวจสอบความปลอดภัยวัคซีน เผยแพร่การสำรวจอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มตัวอย่างจำนวนกว่า 99 ล้านรายใน 8 ประเทศ
5 มีนาคม 2567 – ตามที่มีการแชร์สัญญาณที่เตือนว่า ผ้าเบรกของรถยนต์ใกล้หมดแล้ว เช่น เบรกแล้วมีเสียงดัง และ น้ำมันเบรกในกระปุกน้ำมันเบรกลดลงนั้น บทสรุป : แชร์ได้ อธิบายเพิ่ม ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ นายสุรมิส เจริญงาม นักทดสอบและผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยียานยนต์ สัญญาณบอกอาการผ้าเบรกหมด มีดังนี้ 1. แป้นเบรกลึกขึ้น ระยะของผ้าเบรกอยู่ห่างจากจานเบรกมากขึ้น จึงทำให้ต้องเหยียบเบรกลึกขึ้น กรณีหากมีการตรวจเช็กแล้วว่าไม่มีรอยรั่ว ก็อาจจะทำให้ระดับของน้ำมันเบรกหายไปด้วย แต่อาการเหยียบแป้นเบรกลึกขึ้น อาจจะไม่ใช่อาการผ้าเบรกหมดซะทีเดียว อาจจะบอกถึงความเสื่อมสภาพของซีลยางของตัวชุดปั๊มเบรก หรือซีลยางในตำแหน่งต่าง ๆ ได้ด้วยเช่นกัน 2. เบรกแล้วมีเสียงดัง ส่วนมากเกิดมาจากผ้าเบรกและจานเบรก หากผ้าเบรกหมดจะทำให้เหล็กผ้าเบรกและจานเบรกที่เป็นเหล็กทั้งคู่เสียดสีกันจนทำให้เกิดเสียง หากผ้าเบรกบางลงจำเป็นที่จะต้องถอดออกมาเปลี่ยนใหม่ เพราะถือว่าเป็นความเสื่อมสภาพของตัวผ้าเบรกจนทำให้เหยียบเบรกแล้วมีเสียงดังเกิดขึ้น 3. น้ำมันเบรกในกระปุกลดลง หากน้ำมันเบรกลดต่ำกว่าปกติ แต่ตรวจเช็กแล้วไม่พบรอยรั่วใด ๆ อาจเป็นไปได้ว่าความหนาของผ้าเบรกลดลง จนทำให้น้ำมันเบรกเข้าไปอยู่ตามสายเบรกและลูกสูบเบรก เพราะลูกสูบที่อยู่ในคาลิปเปอร์เบรก จะเลื่อนตัวออกมามาก เพื่อดันให้ผ้าเบรกจับกับจานเบรกน้ำมันเบรกในกระปุกจึงลดลง สัมภาษณ์เมื่อ : 20 กุมภาพันธ์ 2567ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : […]