ไทยพบจุดความร้อนอันดับ 1 ในภูมิภาค มากที่สุด คือ เขตป่าสงวนฯ
GISTDA ระบุ ดาวเทียมพบจุดความร้อนมากที่สุดในเขตป่าสงวนฯ โดยไทยขึ้นเป็นอันดับ 1 ที่พบจุดความร้อนในภูมิภาค
GISTDA ระบุ ดาวเทียมพบจุดความร้อนมากที่สุดในเขตป่าสงวนฯ โดยไทยขึ้นเป็นอันดับ 1 ที่พบจุดความร้อนในภูมิภาค
ระยอง 31 ม.ค. – กรมอุทยานฯ ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจพิสูจน์ หลังพบคราบน้ำมันที่ชายหาด นำโดรนบินสำรวจ ยังไม่พบกลุ่มน้ำมันบนผิวน้ำใกล้หาด
อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งระบุ เจ้าหน้าที่ตรวจพบคราบน้ำมันที่อ่าวพร้าวแล้วช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ตรวจคุณภาพน้ำพบว่า ยังเป็นปกติ เร่งตรวจปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนรวมในน้ำทะเลและดินตะกอน
ระยอง 31 ม.ค. – รมว. ทส. ระบุ ปฏิบัติการวาง Boom ดักน้ำมัน 5 ชุดเพื่อกั้นร่องเสม็ดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังไม่พบคราบน้ำมันพัดสู่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด แต่ต้องเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมงเพราะเป็นหาดสำคัญและมีปะการังน้ำตื้น ด้านบริษัท SPRC ออกแถลงการณ์ยินดีรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุ สัตวแพทย์ผ่าชันสูตรซากเต่าและโลมา ในพื้นที่เกิดน้ำมันดิบรั่วไหลจากท่อกลางทะเลบริเวณมาบตาพุด จ.ระยอง พบตายหลายวันแล้ว ซากเน่าจนไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ แต่ไม่พบคราบน้ำมันในทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ
รมว.ทส. เผยการเก็บกู้คราบน้ำมันที่พัดขึ้นหาดแม่รำพึงทำได้อย่างรวดเร็ว จนใกล้เข้าสู่สภาพปกติ นายกฯ-รองนายกฯ ประวิตรกำชับทุกหน่วยงานเร่งฟื้นฟู แต่ยังต้องเฝ้าระวังคราบน้ำมันที่เหลือในทะเลเคลื่อนตัวสู่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด
รมว.ทส. หวั่นแหล่งปะการัง-หญ้าทะเล บริเวณหมู่เกาะเสม็ดและเขาแหลมหญ้า จะได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันดิบรั่วลงทะเล จ.ระยอง โดยขณะนี้มวลน้ำมันอยู่ห่างจากชายฝั่งหมู่เกาะเสม็ด 11.5 กม. หากทิศทางการเคลื่อนตัวเปลี่ยนจากขณะนี้ อาจตรงเข้าไปสู่เกาะเสม็ดและหัวเขาแหลมหญ้า
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษระบุ คราบน้ำมันดิบที่พัดสู่ฝั่งชุดแรกเมื่อ 22.10 น. คืนที่ผ่านมา คือส่วนที่เป็นฟิล์มบางปนกับเขม่าเรือ โดยกำลังจะมีส่วนที่เป็นกลุ่มน้ำมันสีน้ำตาลตามมาเป็นชุดที่ 2 ซึ่งจะต้องกำจัดด้วยสารย่อยสลายน้ำมันชนิดชีวภาพ แล้วทำความสะอาดแนวโขดหินและทรายที่ปนเปื้อน ย้ำต้องจัดเก็บอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
รมว.ทส. ระบุหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเฝ้าระวังผลกระทบจากเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเล จ.ระยอง ต่อไปอีก 1-2 ปี เนื่องจากสารเคมีที่ใช้กำจัดคราบน้ำมันอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงห่วงโซ่อาหารของสัตว์ทะเล ซึ่งบริษัทเจ้าของท่อน้ำมันต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ยืนยันคราบน้ำมันยังไม่เคลื่อนตัวสู่ชายหาด แต่ใช้เรือไดหมึกออกเฝ้าระวังและแจ้งเตือนล่วงหน้า พร้อมออกคำแนะนำประชาชนกรณีพบคราบน้ำมันที่อาจพัดสู่ฝั่ง โดยห้ามจัดเก็บเอง เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
กรมอุทยานฯ จัดตั้งกองอำนวยการเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาคราบน้ำมันจากเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลบริเวณมาบตาพุด จ.ระยอง พร้อมเตรียมอุปกรณ์กำจัดคราบน้ำมัน หากคราบน้ำมันเคลื่อนตัวสู่ฝั่ง
ชาวบ้านปิล็อกคี่ถูกเสือโคร่งกัดบาดเจ็บในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล พร้อมจัดกำลังเฝ้าระวังภัยแล้ว