กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.- อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เชื่อว่า กรมที่ดินจะไม่ชักช้าในการพิจารณาเพิกถอนโฉนดซึ่งออกทับที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หลังป.ป.ช. ชี้มูลความผิด “สุนทร-กนกวรรณกับพวก” เกี่ยวกับการออกโฉนดโดยมิชอบ ส่วนคดีรุกป่าที่แจ้งความในปี 60 อยู่ระหว่างการพิจารณาของ DSI ส่วนคดีปี 63 อัยการสั่งไม่ฟ้อง
นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืชกล่าวว่า สั่งการให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตรวจสอบที่ดินในคดีที่นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรีและนางกนกวรรณวิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการครอบครอง โดยทั้งแปลงที่ไม่มีโฉนดและมีโฉนด ไม่มีการเข้าใช้ประโยชน์แล้วตั้งแต่แจ้งความดำเนินคดีเมื่อปี 2563
สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งแจ้งความต่อสภ. เมืองปราจีนบุรี 2 ครั้งคือครั้งแรกในปี 2560 พื้นที่นอกโฉนดเนื้อที่ 1 งาน 29 ตารางวา พนักงานสอบสวนส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ดำเนินการเป็นคดีพิเศษ ขณะที่คดีที่แจ้งความในปี 2563 พื้นที่นอกโฉนดเชนกัน เนื้อที่ 11 ไร่กว่า แต่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ไม่เห็นพ้องด้วยกับความเห็นไม่สั่งฟ้องของพนักงานอัยการจึงได้ส่งความเห็นแย้งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณามีคำสั่งชี้ขาดแล้ว ขณะนี้ยังไม่ทราบผลคดีชี้ขาด
ส่วนที่ดินซึ่งนายสุนทรและนางกนกวรรณอ้างว่า ครอบครองโดยมีโฉนดถูกต้องรวม 7 แปลง เนื้อที่กว่า 100 ไร่ ตั้งแต่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ตรวจพบก็เชื่อว่า เป็นโฉนดที่ได้มาโดยมิชอบ เมื่อตรวจสอบด้วยการแปลภาพถ่ายจากดาวเทียมย้อนหลัง 6,000 ปี ไม่พบร่องรอยการทำประโยชน์ทำให้มั่นใจว่า โฉนดออกทับซ้อนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงส่งหนังสือถึงกรมที่ดินให้พิจารณาเพิกถอนโฉนด แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่เพิกถอนนั้น กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะนำผลการชี้มูลความผิดของป.ป.ช. เกี่ยวกับการออกโฉนดโดยมิชอบมาเป็นหลักฐาน แล้วเร่งส่งให้กรมที่ดินพิจารณาเพิกถอนโฉนดที่ทับซ้อนกับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่จำเป็นต้องรอให้ได้เอกสารราชการที่ป.ป.ช. ส่งถึงกรมอุทยานแห่งชาติฯ ก่อน จากนั้นจึงจะทราบว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติมอย่างไร ยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจและดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมายด้วยความรอบคอบ.-สำนักข่าไทย