เยอรมนีพบคนติดโควิดโอไมครอนแม้ฉีดวัคซีนครบโดส

เบอร์ลิน 1 ธ.ค. – สำนักงานสาธารณสุขท้องถิ่นของเยอรมนีระบุวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในพื้นที่ทางใต้ของประเทศ แม้ว่าทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดส ขณะที่ทางการเยอรมนีรายงานยอดผู้เสียชีวิตรายวันจากโรคโควิด-19 สูงสุดในรอบ 9 เดือน สำนักงานสาธารณสุขของรัฐบาเดิน-เวอร์ทเทมแบร์กในเยอรมนีระบุว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 4 คนในพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ แม้ทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสแล้วก็ตาม ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อ 3 คนที่เพิ่งเดินทางกลับจากแอฟริกาใต้ในวันที่ 26 และ 27 พฤศจิกายน และผู้ป่วยติดเชื้ออีกคนเป็นสมาชิกครอบครัวของหนึ่งในผู้ป่วยที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้ โดยที่ทั้งหมดมีอาการป่วยเล็กน้อย สถาบันโรเบิร์ต ค็อก หรืออาร์เคไอ ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมและป้องกันโรคของเยอรมนี รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 67,186 คน และผู้เสียชีวิต 446 คน ซึ่งเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ของปีนี้ ทำให้เยอรมนีมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 5.8 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 101,000 คน ในขณะเดียวกัน รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นของเยอรมนีได้ลงมติเห็นชอบเมื่อวันอังคารในการใช้มาตรการควบคุมการระบาดระลอกที่สี่ เช่น การเร่งฉีดวัคซีนโควิดและการจำกัดการพบปะทางสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มประชาชนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิด นอกจากนี้ บรรดาผู้นำของเยอรมนียังเห็นด้วยต่อการตัดสินใจอย่างหนักแน่นในวันพฤหัสบดีเกี่ยวกับข้อเสนอต่าง ๆ เช่น […]

ที่ปรึกษาเอฟดีเอสหรัฐไฟเขียวให้ใช้ยาโมลนูพิราเวียร์

วอชิงตัน 1 ธ.ค. – คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่เป็นที่ปรึกษาของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ หรือเอฟดีเอ มีมติอย่างเฉียดฉิวเห็นชอบให้เอฟดีเออนุมัติใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ของเมิร์ค แอนด์ โค บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ เพื่อรักษาโรคโควิด-19 ด้วยคะแนนเสียง 13 ต่อ 10 นพ. เดวิด ฮาร์ดี หนึ่งในคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่เป็นที่ปรึกษาของเอฟดีเอและลงมติเห็นชอบให้อนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีความจำเป็นต้องพึ่งยาโมลนูพิราเวียร์ หากเอฟดีเออนุมัติใช้ยังดังกล่าว ก็จะถือเป็นครั้งแรกที่มียารักษาโรคโควิด-19 แบบรับประทานให้แก่กลุ่มผู้ป่วยนอกที่มีอาการป่วยเล็กน้อยถึงปานกลาง แม้ว่าเขาจะยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพในระยะยาวของยาโมลนูพิราเวียร์ก็ตาม ขณะที่คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนที่ลงมติเห็นชอบระบุว่า ผลการทดลองทางคลินิกที่ชี้ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ที่ลดลงในกลุ่มอาสาสมัครที่รับยาดังกล่าวทำให้พวกเขาลงมติเห็นชอบให้เอฟดีเออนุมัติใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ ทั้งนี้ หากเอฟดีเออนุมัติใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ จะทำให้ยาดังกล่าวกลายเป็นยารักษาโรคโควิด-19 แบบรับประทานขนานแรกที่ใช้สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อที่รักษาตัวที่บ้านได้นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 เกือบครบสองปี อย่างไรก็ดี เมิร์ค แอนด์ โค ได้เปิดเผยข้อมูลล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ระบุว่า ยาโมลนูพิราเวียร์อาจมีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีอัตราลดอาการป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและเสียชีวิตในกลุ่มคนเสี่ยงติดเชื้อโควิดสูงที่ร้อยละ 30 ซึ่งลดลงจากเดิมที่มีร้อยละ 50.-สำนักข่าวไทย

สายการบินญี่ปุ่นงดจองตั๋วเข้าถึงสิ้นเดือน ธ.ค.

2 สายการบินหลักของญี่ปุ่นงดรับจองตั๋วโดยสารระหว่างประเทศเข้าญี่ปุ่นจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม ขณะที่รัฐบาลขยายมาตรการห้ามการเดินทางเข้าประเทศ เพื่อสกัดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนที่ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อเป็นรายที่ 2 แล้ว

เตรียมสุ่มตรวจภูมิคุ้มกันคนไทยที่ไม่เคยรับวัคซีน

สธ.1ธ.ค.-กรมวิทย์ฯ เตรียมแถลงสุ่มตรวจภูมิคุ้มคนไทย ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก พบ1% มีติดเชื้อไม่เคยรับวัคซีน ไม่เคยมีประวัติตรวจหาเชื้อ โดยแถลงข่าวอย่างเป็นทางการศุกร์นี้ ทั้งนี้เพื่อเชิญชวนคนไทยชวนรับวัคซีน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ลงนามความร่วมมือกับ ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการจัดตั้งศูนย์ตรวจวิเคราะห์สายพันธุ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในภาคใต้ พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีองค์ความรู้ต่างในการตรวจ ทั้งการตรวจระดับ จีโนมิกส์ หรือการตรวจไวรัสทั้งตัว เพื่อช่วยตรวจวิเคราะห์สายพันธุ์ของโควิดในภาคใต้ เริ่มตั้งแต่วันนี้ (1ธ.ค.) ถึง 30 พ.ย.67 ซึ่งปัจจุบันการตรวจหาเชื้อไวรัสในระดับจีโนมิกส์ ทำได้ในโรงเรียนแพทย์ขนาดใหญ่ และกรมวิทยาศาสตร์ ฯ ได้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , ศูนย์จีโนม ของ รพ.รามาธิบดี ส่วนการสุ่มตรวจหาภูมิคุ้มกันของคนไทย ก่อนรับวัคซีนเพื่อดูว่าเคยมีการติดเชื้อมาก่อนหรือไม่ นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการเก็บตัวอย่างคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็ม แรก ใน12 เขตสุขภาพทั่วประเทศ และแปลผลว่าเคยมีการติดเชื้อโควิดมาก่อนหรือไม่ เพื่อใช้ในการเปรียบเทียบ คาดว่าจะมีการแถลงข่าวในวันศุกร์ 3 ธ.ค.นี้ ทั้งนี้ เมื่อทราบผลจะได้เชิญชวนมารับวัคซีนเพราะเชื่อว่ายังมีคนบางส่วนที่ไม่เคยติดเชื้อ (กลุ่มเวอร์จิ้น) และไม่ได้รับวัคซีน (ไม่มีภูมิคุ้มกัน ) […]

อังกฤษตั้งเป้าฉีดเข็มกระตุ้น ม.ค.ปีหน้า

อังกฤษ ตั้งเป้าฉีดเข็มกระตุ้นให้ประชาชนอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ภายในเดือน ม.ค. ปีหน้า ย้ำการป้องกัน “โอไมครอน” ที่ดีที่สุดในขณะนี้ คือ การฉีดวัคซีนและวัคซีนเข็มกระตุ้น

จับตา 783 คน เดินทางจากแอฟริกาอยู่ในไทย

ผบ.ตร. เผยขณะนี้มีบุคคลที่เดินทางจากประเทศกลุ่มทวีปแอฟริกาเข้ามาอยู่ในไทย จำนวน 783 คน จับตาใกล้ชิด หวั่นนำเข้าโควิดสายพันธุ์โอไมครอน

มาเลเซียห้ามคนเดินทางมาจากประเทศเสี่ยงโอไมครอน

กัวลาลัมเปอร์ 1 ธ.ค.- มาเลเซียจะห้ามผู้เดินทางมาจากประเทศที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน เข้ามาเลเซียเป็นการชั่วคราว นับเป็นประเทศล่าสุดที่จำกัดการเดินทางเพื่อสกัดไวรัสกลายพันธุ์นี้ เว็บไซต์มาเลย์เมล์รายงานว่า นายไครี จามาลุดดิน รัฐมนตรีสาธารณสุขมาเลเซียแถลงวันนี้ว่า จนถึงขณะนี้มี 18 ประเทศแล้วที่รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนอาจแพร่ได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ และได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะทำให้ติดเชื้อได้มากขึ้น ซึ่งอาจทำให้กลุ่มที่มีภูมิต้านทานต่ำมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจึงตัดสินใจใช้มาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศเป็นการชั่วคราวกับชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูงว่าเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนได้แพร่ระบาดแล้ว หรือผู้ที่อยู่ในประเทศเหล่านี้ในช่วง 14 วันก่อนหน้านั้นประกอบด้วย แอฟริกาใต้ บอตสวานา เอสวาตีนี เลโซโท โมซัมบิก นามิเบีย ซิมบับเว และมาลาวี โดยจะครอบคลุมถึงแรงงานต่างถิ่นและนักศึกษาต่างชาติที่มาจากประเทศเหล่านี้ด้วย ส่วนชาวมาเลเซีย ผู้มีสิทธิพำนักถาวร และผู้ได้รับอนุญาตให้พำนักระยะยาวที่เดินทางมาจากประเทศเหล่านี้สามารถเข้าประเทศได้ แต่ต้องกักโรคเป็นเวลา 14 วัน นอกจาก 8 ประเทศในทวีปแอฟริกาแล้ว ประเทศและดินแดนที่ยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนได้แก่ เนเธอร์แลนด์ โปรตุเกส สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ฮ่องกง อิตาลี บราซิล แคนาดา เดนมาร์ก สเปน ฝรั่งเศส อิสราเอล ออสเตรีย เบลเยียม […]

ฮ่องกงแยกเชื้อโควิดโอไมครอนสำเร็จที่แรกในเอเชีย

ฮ่องกง 1 ธ.ค. – นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮ่องกงประสบความสำเร็จจากการแยกเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในขั้นตอนเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางคลินิกเป็นแห่งแรกในทวีปเอเชีย ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะช่วยในการพัฒนาวัคซีนโควิดที่มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อดังกล่าวได้ในอนาคต มหาวิทยาลัยฮ่องกงระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารว่า นักวิจัยของภาควิชาจุลชีววิทยาของมหาวิทยาลัยฮ่องกงประสบความสำเร็จจากการแยกเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในขั้นตอนเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางคลินิกที่สามารถช่วยให้เกิดการพัฒนาและผลิตวัคซีนต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งองค์การอนามัยโลกจัดให้อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล ขณะนี้ คณะนักวิจัยกำลังนำเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนไปศึกษาในด้านการแพร่กระจาย ความสามารถในการหลี่กเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีน และความสามารถก่อโรคด้วยการทดลองในสัตว์ มหาวิทยาลัยฮ่องกงยังระบุว่า คณะนักวิจัยกำลังศึกษาเกี่ยวกับโอกาสในการพัฒนาและผลิตวัคซีนต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอย่างเร่งด่วนด้วยเทคโนโลยีวัคซีนเชื้อตาย ทั้งนี้ คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยฮ่องกงประสบความสำเร็จจากการแยกเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้ในช่วงค่ำวันจันทร์ ซึ่งใช้เวลาเพียง 4 วันหลังฮ่องกงพบผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าว 2 รายแรกในวันที่ 25 พฤศจิกายน และเป็นเวลา 5 วันหลังจากแอฟริกาใต้แจ้งต่อองค์การอนามัยโลกว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นครั้งแรกในวันที่ 24 พฤศจิกายน.-สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกเตือนคำสั่งห้ามเดินทางไม่ช่วยสกัดโอไมครอน

เจนีวา 1 ธ.ค. – องค์การอนามัยโลกเตือนว่า การใช้มาตรการห้ามการเดินทางแบบปูพรมกว้างขวางไปทั่วจะไม่ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนท่ามกลางสถานการณ์ที่หลายประเทศรีบประกาศใช้มาตรการดังกล่าวมากขึ้น ในขณะที่ภูมิภาคลาตินอเมริกาพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 2 รายแรกแล้ว องค์การอนามัยโลกระบุเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า การใช้มาตรการห้ามการเดินทางที่ครอบคลุมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดผลร้ายมากกว่าผลดี หลังแคนาดาประกาศห้ามอีก 3 ประเทศจากทวีปแอฟริกาเดินทางเข้าประเทศ ได้แก่ ไนจีเรีย มาลาวี และอียิปต์ องค์การอนามัยโลกยังระบุในประกาศคำแนะนำการเดินทางว่า การใช้มาตรการดังกล่าวจะทำให้เกิดอุปสรรคระหว่างประเทศต่าง ๆ ในด้านการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกได้แนะนำให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิดสูงและยังไม่ฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า เขาเข้าใจว่าประเทศต่าง ๆ ต้องหาทางปกป้องพลเมืองของตนจากเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่ยังไม่มีข้อมูลอธิบายอย่างชัดเจน แต่เขาขอให้ทั่วโลกอย่าตื่นตระหนก ให้ความร่วมมือ และทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ใช้มาตรการควบคุมเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอย่างสมเหตุสมผล ในขณะเดียวกัน ภูมิภาคลาตินอเมริการะบุเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 2 รายแรกที่เดินทางจากแอฟริกาใต้ไปยังบราซิล ขณะที่ญี่ปุ่นเผยว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกเมื่อวานนี้หลังใช้มาตรการห้ามผู้เดินทางต่างชาติเข้าประเทศได้เพียงวันเดียว ขณะนี้ มีหลายสิบประเทศและดินแดนทั่วโลกที่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ […]

เกาหลีใต้มียอดป่วยโควิดทะลุ 5,000 คนครั้งแรก

โซล 1 ธ.ค. – เกาหลีใต้ระบุวันนี้ว่า พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทะลุ 5,000 คนเป็นครั้งแรก และมีตัวเลขผู้ป่วยอาการหนักพุ่งสูงสุดเช่นกัน ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทั่วโลกกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี หรือเคดีซีเอ รายงานว่า เกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 5,123 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 5,075 คน และทำลายสถิติผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุดที่มี 4,115 คนเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ทั้งยังระบุว่า พบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดเพิ่ม 34 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 452,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 3,600 คน นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้ออาการหนัก 723 คน ทำลายสถิติสูงสุดก่อนหน้าที่มี 661 คนเมื่อวันอังคาร สถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทั่วโลกทำให้ทางการเกาหลีใต้เพิ่มความระมัดระวังอย่างมาก หลังเกาหลีใต้พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายแรกที่ต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน แต่เคดีซีเอระบุว่าจำเป็นต้องรอผลการจัดลำดับพันธุกรรมในวันนี้ ขณะนี้ เกาหลีใต้ฉีดวัคซีนโควิดโดสแรกให้ประชาชนราว 42.5 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 83 และฉีดวัคซีนครบสองโดสได้ […]

ญี่ปุ่นห้ามชาวต่างชาติที่มาจากแอฟริกาแม้มีถิ่นที่อยู่ในญี่ปุ่น

โตเกียว 1 ธ.ค.- ญี่ปุ่นจะห้ามชาวต่างชาติที่มีถิ่นที่อยู่ในญี่ปุ่นเดินทางเข้าประเทศเป็นระยะเวลาหนึ่ง หากมาจาก 10 ประเทศในทวีปแอฟริกา เป็นการขยายมาตรการจากเดิมที่ไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติรายใหม่เดินทางเข้าประเทศทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน นายฮิโรกาสุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงวันนี้ว่า เพื่อเป็นการป้องกันล่วงหน้า รัฐบาลไม่เพียงจำกัดการเข้าประเทศของชาวต่างชาติรายใหม่ แต่จะครอบคลุมถึงชาวต่างชาติที่มีถิ่นที่อยู่ในญี่ปุ่นที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ เอสวาตีนี นามิเบีย แซมเบีย มาลาวี โมซัมบิก เลโซโท แองโกลา บอตสวานา และซิมบับเวด้วย ยกเว้นมีเหตุให้ผ่อนผันเป็นพิเศษเท่านั้น และจะปิดพรมแดนประเทศอย่างน้อย 1 เดือน ขณะเดียวกันจะคงสถานะความรู้สึกถึงความเร่งด่วนและติดตามสถานการณ์ในประเทศต่าง ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและมีความยืดหยุ่น ส่วนกรณีที่ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนคนแรกของประเทศเป็นนักการทูตนามิเบียเมื่อวันอังคารนั้น ผู้โดยสาร 70 คนที่โดยสารมาในเที่ยวบินเดียวกันและถูกจัดให้เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครแสดงอาการป่วย ญี่ปุ่นเพิ่งผ่อนคลายมาตรการจำกัดพรมแดนเมื่อไม่นานมานี้ แต่หลังจากแอฟริกาใต้พบเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์โอไมครอนเป็นแห่งแรกของโลก ญี่ปุ่นได้กลับไปใช้มาตรการเข้มงวดอีกครั้ง โดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชนและแกนนำภาคธุรกิจที่แม้บางส่วนอาจได้รับผลกระทบก็ตาม.-สำนักข่าวไทย

ซีอีโอไบออนเทคคาดวัคซีนไฟเซอร์อาจกันโอไมครอนได้

แฟรงก์เฟิร์ต 1 ธ.ค. – นายอูเกอร์ ซาฮิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของไบออนเทค บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของเยอรมนี ระบุว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทค มีแนวโน้มที่จะป้องกันอาการป่วยรุนแรงจากเชื้อโควิดสายพันธุ์ไอไมครอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายซาฮินเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ไบออนเทคกำลังดำเนินการทดสอบวัคซีนป้องกันโรคโควิดที่ใช้เวลา 2 สัปดาห์วิเคราะห์ผลเลือดของกลุ่มอาสาสมัครที่ได้รับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค 2-3 เข็ม เพื่อให้ได้คำตอบว่าแอนติบอดีที่อยู่เลือดจะยับยั้งเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้หรือไม่ และจำเป็นที่จะต้องพัฒนาวัคซีนใหม่หรือไม่ อย่างไรก็ดี ไบออนเทคคาดการณ์ว่าผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน 2-3 เข็มมีแนวโน้มที่จะได้รับการป้องกันจากอาการป่วยหนักที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน นายซาฮินคาดว่าผลการทดสอบวัคซีนในห้องปฏิบัติการจะชี้ว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิดจะมีประสิทธิภาพลดลงเล็กน้อยถึงปานกลาง เนื่องจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน แต่ก็เป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดาว่าจะลดลงเหลือเท่าใด ขณะนี้ ไบออนเทคกำลังเร่งพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิดรุ่นอัปเกรดประสิทธิภาพ แม้ว่าจะยังคงไม่มีความชัดเจนว่าจำเป็นต้องทำเช่นนั้นหรือไม่ เขายังกล่าวว่า การฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันมีแนวโน้มที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันความรุนแรงของโรคในทุกระดับเมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนสองเข็ม ทั้งนี้ ความมั่นใจในประสิทธิภาพวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทคของนายซาฮินถือเป็นท่าทีที่แตกต่างจากนายสเตฟาน บานเซล ซีอีโอของโมเดอร์นา ซึ่งออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่า วัคซีนโควิดที่มีอยู่ในปัจจุบันอาจมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเจอสายพันธุ์โอไมครอน.-สำนักข่าวไทย

1 95 96 97 98 99 1,427
...