สิงคโปร์จะเปิด “ทราเวล บับเบิล” กับ 2 เกาะอินโดนีเซีย

สิงคโปร์ 15 ก.พ. – สิงคโปร์กับอินโดนีเซียจะเปิดบริการเรือเฟอร์รี่เที่ยวแรกภายใต้โครงการระเบียงท่องเที่ยว หรือทราเวล บับเบิล ในเส้นทางเดินเรือระหว่างสิงคโปร์กับเกาะบาตัมและเกาะบินตันของอินโดนีเซีย ที่ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งทางใต้ของสิงคโปร์ราว 20 กิโลเมตร โดยเรือเที่ยวแรกมีกำหนดออกเดินทางจากท่าเรือทานาห์เมราห์ของสิงคโปร์ในวันศุกร์นี้ นายแอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีประสานงานกิจการเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย กล่าวในการประชุมแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์เมื่อวันจันทร์ว่า เรือเฟอร์รี่เที่ยวแรกในโครงการทราเวล บับเบิล ระหว่างสิงคโปร์กับเกาะบาตัมและเกาะบินตันของอินโดนีเซีย จะออกเดินทางจากสิงคโปร์ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ขณะที่ประธานกลุ่มรีสอร์ตของเมืองนองซาปุระบนเกาะบาตัมระบุว่า ในช่วงแรกจะเปิดให้บริการเรือเฟอร์รี่ได้วันละ 1 เที่ยวเท่านั้น เรือเฟอร์รี่บรรทุกผู้โดยสารได้ราว 240 คน แต่จะถูกจำกัดให้บรรทุกได้สูงสุดเพียง 120 คน เนื่องจากข้อกำหนดด้านสุขภาพเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์จะได้รับการแยกให้อยู่ในคนละพื้นที่กับนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซียเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านสุขภาพของรัฐบาล ในขณะเดียวกัน บาตัมฟาสต์ (BatamFast) ผู้ให้บริการเรือเฟอร์รี่ของสิงคโปร์ยืนยันกับสำนักข่าวซีเอ็นเอในวันนี้ว่า สิงคโปร์จะเปิดให้บริการเรือเฟอร์รี่เที่ยวแรกภายใต้โครงการทราเวล บับเบิล ไปยังเมืองนองซาปุระบนเกาะบาตัมของอินโดนีเซียจากท่าเรือทานาห์เมราห์ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ และมีข้อกำหนดว่านักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ที่พำนักอยู่ในสิงคโปร์ครบ 14 วันก่อนออกเดินทาง และต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบสองโดส แต่มีข้อแม้ว่าต้องได้รับการฉีดวัคซีนโดสสองครบ 14 วันก่อนออกเดินทาง. -สำนักข่าวไทย

ผู้นำฮ่องกงยังไม่คิดล็อกดาวน์ทั้งเมือง

ฮ่องกง 15 ก.พ.- นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารฮ่องกงเผยว่า ยังไม่มีแผนการใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วทั้งเมืองในขณะที่ยอดผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น และไม่คิดยอมแพ้ให้แก่การระบาดด้วย นางหล่ำกล่าวในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์วันนี้ว่า ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะเลื่อนการเลือกตั้งผู้บริหารฮ่องกงที่กำหนดมีขึ้นในเดือนมีนาคม โดยไม่ได้เผยว่าเธอจะลงเลือกตั้งอีกสมัยหรือไม่ เธอยอมรับว่า การรับมือกับการระบาดของทางการยังถือว่าไม่น่าพอใจ เนื่องจากโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ยังคงทำงานอย่างตึงตัว อย่างไรก็ดี ทางการยังไม่มีแผนการจะล็อกดาวน์ทั้งเมือง และได้ย้ำเรื่องการใช้ยุทธศาสตร์ควบคุมโควิดเป็นศูนย์ แบบเดียวกับที่จีนแผ่นดินใหญ่ใช้ควบคุมการระบาดทันทีที่พบผู้ติดเชื้อ เพราะไม่สามารถยอมแพ้ให้แก่เชื้อไวรัสได้ ผู้บริหารฮ่องกงเผยด้วยว่า รัฐบาลจีนจะจัดส่งชุดตรวจหาเชื้อจำนวนมากกว่า 100 ล้านชุดมาให้ฮ่องกงตามที่รับปากว่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพของฮ่องกงในการตรวจหาเชื้อ รักษา และกักโรค ขณะเดียวกันทางการจะปรับเปลี่ยนการเคหะและโรงแรมบางส่วนให้เป็นสถานที่กักโรค เพื่อรับมือกับยอดผู้ติดเชื้อรายวันที่เพิ่มขึ้น 20 เท่าจาก 2 สัปดาห์ก่อน โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุด 2,071 คนเมื่อวันจันทร์ และผู้ต้องสงสัยติดเชื้ออีก 4,500 คน ยอดติดเชื้อสะสมขณะนี้อยู่ที่ราว 25,000 คน เสียชีวิต 200 คนเศษ ชาวฮ่องกง 7 ล้าน 5 แสนคนฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วร้อยละ 84 แต่ผู้สูงอายุจำนวนมากยังลังเลที่จะฉีด ล่าสุดทางการจะเริ่มใช้มาตรการต้องแสดงใบรับรองฉีดวัคซีนก่อนเข้าร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต […]

ดัชเชสคามิลลาทรงติดเชื้อโควิด

ลอนดอน 15 ก.พ. – พระตำหนักแคลเรนซ์ของอังกฤษยืนยันว่า คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์และพระชายาของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ ทรงมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นบวกและอยู่ในระหว่างการกักพระองค์แล้ว บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระชนมายุ 73 พรรษา ทรงติดเชื้อโควิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว แต่ดัชเชสคามิลลา พระชันษา 74 ปี ทรงเข้าร่วมงานสาธารณะ 3 งานในวันเดียวกันหลังมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ โดยที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงติดโควิดหลังจากที่ทรงเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระชนมพรรษา 95 พรรษา ได้เพียง 2 วัน ขณะที่สำนักพระราชวังบักกิงแฮมระบุว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงไม่มีพระอาการที่เชื่อมโยงกับโรคโควิด และไม่ได้ยืนยันว่าพระองค์ทรงเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดหรือไม่ โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นข้อมูลทางการแพทย์ส่วนพระองค์ ทั้งนี้ คามิลลาทรงติดเชื้อโควิดเป็นครั้งแรก ในขณะที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงติดโควิดเป็นครั้งที่สองแล้ว ในขณะเดียวกัน โฆษกพระตำหนักแคลเรนซ์ระบุว่า ดัชเชสคามิลลาจะทรงกักพระองค์และปฏิบัติตามข้อกำหนดของรัฐบาลอังกฤษต่อไป พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้คณะผู้จัดงานสาธารณะที่ดัชเชสคามิลลาทรงเข้าร่วมเมื่อวันพฤหัสบดี รวมถึงสื่อมวลชนในงานดังกล่าวที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดระมัดระวังตนเองและเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด. -สำนักข่าวไทย

ผู้นำแคนาดาประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉุกเฉินคุมม็อบประท้วงโควิด

ออตตาวา 15 ก.พ. – นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ประกาศใช้พระราชบัญญัติฉุกเฉิน (Emergencies Act) เพื่อปราบปรามกลุ่มม็อบคนขับรถบรรทุกที่ชุมนุมต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาล โดยที่กฎหมายดังกล่าวมีผลให้ธนาคารสามารถอายัดบัญชีธนาคารส่วนตัวของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประท้วงดังกล่าวได้ นายกรัฐมนตรีทรูโด กล่าวว่า การประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉุกเฉินในครั้งนี้มีระยะเวลาจำกัด สมเหตุสมผล และสมควรต่อเหตุการณ์ แต่จะไม่สั่งให้ทหารลงพื้นที่ ธนาคารจะสามารถอายัดบัญชีธนาคารส่วนตัวของผู้ที่เชื่อมโยงกับการประท้วงดังกล่าวได้ การใช้กฎหมายนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ชาวแคนาดาและปกป้องการทำงานของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุประท้วง นอกจากนี้ ตำรวจแคนาดาจะได้รับอุปกรณ์หรือเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อจับกุม ปรับเงิน หรือปกป้องระบบโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ทั้งนี้ การประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉุกเฉินของนายกรัฐมนตรีทรูโดมีขึ้นในขณะที่การประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในแคนาดายืดเยื้อมานาน 3 สัปดาห์ ในขณะเดียวกัน แกนนำกลุ่มผู้ประท้วงในกรุงออตตาวาเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า เธอไม่สนใจการประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉุกเฉินของรัฐบาลแคนาดา ไม่มีภัยคุกคามใดจะทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมหวาดกลัว และทุกคนจะยืนหยัดชุมนุมต่อไป ส่วนนายดั๊ก ฟอร์ด มุขมนตรีรัฐออนแทรีโอ กล่าวว่า เขาสนับสนุนการใช้กฎหมายดังกล่าวของรัฐบาล แต่ยังมีมุขมนตรีอีกหลายรัฐ เช่น รัฐควิเบก รัฐแมนิโทบา รัฐแอลเบอร์ตา และรัฐซัสแคตเชวันที่ระบุว่า […]

พยาบาลออสเตรเลียผละงานหลังเจรจากับรัฐบาลล่ม

ซิดนีย์ 15 ก.พ.- พยาบาลจำนวนมากในรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลียผละงานเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ หลังจากการเจรจากับรัฐบาลเรื่องแก้ปัญหาขาดแคลนคนและขึ้นเงินเดือนไม่ได้ผล พยาบาลและผดุงครรภ์ของโรงพยาบาลมากกว่า 150 แห่งทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์เริ่มการผละงานเป็นเวลา 24 ชั่วโมงในวันนี้ แม้ว่าคณะกรรมการอุตสาหกรรมสัมพันธ์ของรัฐสั่งห้ามเพราะจะทำให้บริการสาธารณสุขตกอยู่ในอันตราย ผู้ผละงานไปรวมตัวหน้ารัฐสภาในนครซิดนีย์ ถือป้ายประท้วงเรื่องทำงานจนเหนื่อยล้า ขอขึ้นเงินเดือนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2.5 และขอให้เพิ่มสัดส่วนจำนวนพยาบาลต่อคนไข้ ด้านหัวหน้าสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุท้องถิ่นว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายและน่าผิดหวังที่พยาบาลยืนกรานผละงาน ทั้งที่ทางการกำลังหาทงแก้ไขอยู่ และว่าการเพิ่มสัดส่วนจำนวนพยาบาลต่อคนไข้อาจทำให้ต้องเพิ่มงบประมาณอีกเป็นจำนวนมหาศาล เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่เข้ามาในออสเตรเลียตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนโรงพยาบาลตึงตัว อย่างไรก็ดี ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ลดลงในช่วงหลายวันมานี้ โดยพบมากกว่า 23,000 คนนับจนถึงเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น และมีผู้ติดเชื้ออาการหนักเข้าโรงพยาบาลราว 3,000 คน จากที่เคยสูงถึง 5,400 คนเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 46 คน รวมเป็น 4,664 คน ยอดติดเชื้อสะสมราว 2 ล้าน 6 แสนคน.-สำนักข่าวไทย

สิงคโปร์อนุมัติใช้วัคซีนของโนวาแวกซ์แล้ว

สิงคโปร์ 14 ก.พ. – สิงคโปร์ประกาศอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของโนวาแวกซ์ ที่มีชื่อว่า นูวาโซวิด (Nuvaxovid) เป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว สำนักงานสาธารณสุขสิงคโปร์ประกาศวันนี้ว่า ได้อนุมัติใช้วัคซีนของโนวาแวกซ์ในผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ โดยที่วัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนแบบฉีดสองโดส โดสละ 5 ไมโครกรัม และเว้นระยะระหว่างโดสแรกกับโดสสองเป็นเวลา 3 สัปดาห์ โดยคาดว่าจะได้รับวัคซีนล็อตแรกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สำนักงานฯ ได้พิจารณาแล้วว่าวัคซีนของโนวาแวกซ์มีคุณภาพ ความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพได้มาตรฐาน รวมถึงมีประโยชน์ทางการรักษามากกว่าความเสี่ยงด้านสุขภาพของประชาชนสิงคโปร์ วัคซีนของโนวาแวกซ์ได้รับการอนุมัติใช้ภายใต้เกณฑ์เส้นทางการเข้าถึงพิเศษในสถานการณ์โรคระบาด (Pandemic Special Access Route) โดยที่มีวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค โมเดอร์นา และซิโนแวกที่ได้รับการอนุมัติภายใต้เกณฑ์ดังกล่าวไปก่อนหน้านี้ สำนักงานสาธารณสุขสิงคโปร์อนุมัติใช้วัคซีนของโนวาแวกซ์โดยพิจารณาเอกสารข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกระยะที่สามในสหรัฐ เม็กซิโก และอังกฤษ โดยมีกลุ่มอาสาสมัครอายุ 18-95 ปีเข้าร่วมการทดลองกว่า 40,000 คน ผลการทดลองดังกล่าวชี้ว่า วัคซีนของโนวาแวกซ์มีประสิทธิภาพป้องกันการติดโควิดแบบแสดงอาการสูงถึงร้อยละ 90 และป้องกันอาการป่วยรุนแรงได้เต็ม 100 อย่างไรก็ดี ประสิทธิภาพดังกล่าวเป็นข้อมูลของการต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์อัลฟาเท่านั้น แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์เดลตาและโอไมครอน เนื่องจากทั้งสองสายพันธุ์ยังไม่แพร่หลายในช่วงที่โนวาแวกซ์ดำเนินการทดลองทางคลินิก. -สำนักข่าวไทย

บุคลากรทางการแพทย์กรีซเรียกร้องขอกลับเข้าทำงาน

บุคลากรทางการแพทย์กรีซที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหลายพันคนจากทั่วประเทศร่วมเดินขบวนมายังกรุงเอเธนส์ เรียกร้องให้รัฐบาลอนุญาตให้พวกเขากลับเข้าทำงานโดยไม่ต้องฉีดวัคซีน

“อนุทิน” ยืนยันไม่ยกเลิกโควิดจากเจ็บป่วยฉุกเฉิน

“อนุทิน” ยืนยันไม่ยกเลิกโควิดจากเจ็บป่วยฉุกเฉิน แต่จะทำให้เป็นโรคปกติ ไม่ใช่โรคฉุกเฉิน หากติดเชื้อและมีอาการหนักสามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลทุกแห่ง

ไต้หวันเล็งลดเวลากักโรคโควิดตั้งแต่เดือน มี.ค.

ไทเป 14 ก.พ.- รัฐบาลไต้หวันเผยวันนี้ว่า จะเริ่มผ่อนคลายระยะเวลากักโรคเพื่อสกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมีนาคม เพราะต้องทยอยกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติและติดต่อกับโลกภายนอกอีกครั้ง สำนักนายกรัฐมนตรีไต้หวันแถลงว่า นายกรัฐมนตรีซู เจินชางได้กล่าวในการประชุมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงว่า แม้ว่าอาจจะมีการติดเชื้อในชุมชนอีก แต่รัฐบาลค่อนข้างมั่นใจในมาตรการต่อต้านการระบาด และจำเป็นต้องคำนึงถึงการดำเนินชีวิต การพัฒนาทางเศรษฐกิจ การทยอยกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ และการก้าวออกไปติดต่อกับโลกภายนอกอีกครั้ง เขาได้ขอให้ศูนย์บัญชาการการระบาดกลางพิจารณาปรับนโยบายกักโรคสำหรับผู้ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้า และพิจารณาให้นักธุรกิจเดินทางเข้า ทั้งนี้จะทำได้ต่อเมื่อไต้หวันมีเวชภัณฑ์และมาตรการเตรียมตัวอย่างเพียงพอ ควบคู่ไปกับการมีอัตราฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้วเท่านั้น ด้านนายเฉิน สือจง รัฐมนตรีสาธารณสุขในฐานะหัวหน้าศูนย์บัญชาการการระบาดกลางเผยกับสื่อว่า ทางศูนย์ต้องการลดระยะเวลากักโรคที่ใช้กับผู้เดินทางเข้ามาทุกคนจาก 2 สัปดาห์ เหลือ 10 วันก่อนกลางเดือนมีนาคม เพราะมั่นใจว่าสามารถตรวจพบเชื้อได้ภายในระยะเวลากักโรคดังกล่าว แต่คงไม่สามารถยกเลิกการกักโรคได้ก่อนถึงเทศกาลวันหยุดฤดูร้อน อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าไต้หวันได้เมื่อใด เนื่องจากปัจจุบันไต้หวันอนุญาตให้เดินทางเข้าได้เฉพาะพลเรือนและชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักถาวร ส่วนนักธุรกิจจะสามารถเดินทางเข้ามาได้อีกครั้งและต้องกักโรค 10 วันเช่นเดียวกัน ชาวไต้หวัน 23 ล้าน 5 แสนคนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วราวร้อยละ 30 เป็นตัวเลขที่กำลังทยอยเพิ่มขึ้น รัฐบาลไต้หวันประกาศว่า ต้องการให้ตัวเลขถึงร้อยละ 50 ก่อนผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้ามา ไต้หวันมียอดติดเชื้อสะสมตั้งแต่พบการระบาดเมื่อ 2 ปีก่อนที่ 19,621 […]

เวียดนามจะไม่ปิดโรงงานแม้ยอดติดโควิดเพิ่ม

ฮานอย 14 ก.พ.- เวียดนามจะไม่ปิดโรงงานผลิตทุกประเภท แม้ยอดผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้น หลังจากที่เคยใช้นโยบายล็อกดาวน์อย่างกว้างขวางเมื่อปีก่อน กระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของร้านค้าปลีกสัญชาติตะวันตกที่ครอบคลุมกระบวนการตั้งแต่การผลิตสินค้าไปจนถึงการจัดส่งถึงมือผู้บริโภค รัฐบาลเวียดนามชี้แจงว่า ขณะนี้คนงานจำนวนมากได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมีการพิสูจน์แล้วว่าการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าการระบาดของสายพันธุ์เดลตาเมื่อ 9 เดือนก่อน ครั้งนั้นโรงงานผลิตให้แก่สินค้าชื่อดังอย่างไนกี้ ซาร่า แอปเปิล ซัมซุง ต้องปิดนานหลายเดือน เวียดนามเริ่มผ่อนคลายมาตรการจำกัดการระบาดแล้ว โดยให้โรงเรียนเปิดการเรียนการสอนเมื่อสัปดาห์ก่อน และจะยกเลิกมาตรการจำกัดเที่ยวบินโดยสารระหว่างประเทศตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ แม้ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 26,000 คนเมื่อวันอาทิตย์ หรือ 2 เท่าของช่วงที่เดลตาระบาดสูงสุด ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามระบุว่า ประชากรมากกว่าร้อยละ 76 ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม เทียบกับต้นเดือนกันยายนปีก่อนที่ฉีดเพียงร้อยละ 3.3 เท่านั้น หอการค้าอเมริกันในเวียดนามคาดว่า สถานการณ์ในปีนี้จะดีกว่าปีก่อน และไม่คิดว่าทางการเวียดนามจะล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้ง เพราะจำนวนผู้ป่วยอาการหนักในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ และทางการได้เรียนรู้แล้วว่ามาตรการจำกัดที่กระทบต่อเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน นอกจากนี้หากโรงงานในเวียดนามดำเนินงานอย่างราบรื่นก็จะช่วยแก้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานติดขัดที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นทั่วโลก เพราะช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเวียดนามได้กลายเป็นตัวเลือกฐานการผลิตของธุรกิจจำนวนมากที่ต้องการลดการพึ่งพาจีน.-สำนักข่าวไทย

ตร.นิวซีแลนด์โวยสภาใช้เพลงไล่ผู้ประท้วงต้านวัคซีนโควิด

เวลลิงตัน 14 ก.พ.- ตำรวจนิวซีแลนด์ที่กำลังรับมือกับผู้ปักหลักประท้วงหน้ารัฐสภาต่อต้านวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตำหนิรัฐสภาที่ใช้การเปิดเพลงเสียงดังเป็นวิธีไล่ผู้ประท้วง นายตำรวจกรุงเวลลิงตันเผยกับสถานีวิทยุในประเทศว่า การที่เจ้าหน้าที่รัฐสภาระดมเปิดเพลงติดหูอย่าง เบบี้ชาร์ก มากาเรนา และแมนดีของแบร์รี แมนิโลว์ทำให้ผู้ประท้วงอยากปักหลักอยู่ต่อไปมากกว่าคิดจะแยกย้าย เป็นวิธีที่ตำรวจไม่เห็นด้วยและไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น พร้อมกับถือโอกาสนี้ชี้แจงเรื่องที่ตำรวจพยายามผลักดันผู้ประท้วงตั้งแต่วันพฤหัสบดีจนเกิดการปะทะกันและมีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 120 คน ตำรวจขอให้ผู้ขับยวดยานมาปิดกั้นถนนหน้ารัฐสภาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนเคลื่อนย้ายรถออกไปและขอให้ผู้จัดการประท้วงหันมาเจรจา ด้านนายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นของนิวซีแลนด์กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ในประเทศว่า เห็นได้ชัดว่าการประท้วงในนิวซีแลนด์ถูกครอบงำโดยกลุ่มคนต่อต้านวัคซีน ต่างจากแคนาดาที่คนขับยวดยานไปปิดถนนเพื่อประท้วงการบังคับฉีดวัคซีน นอกจากนี้ผู้ประท้วงยังแสดงพฤติกรรมน่ากลัว เช่น ตะโกนใส่ผู้สัญจรผ่านที่สวมหน้ากากอนามัย ผู้นำนิวซีแลนด์ไม่ได้แสดงความเห็นเรื่องรัฐสภาใช้เพลงไล่ผู้ประท้วง แต่นักการเมืองฝ่ายค้านพากันตำหนินายเทรเวอร์ มัลลาร์ด ประธานสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคแรงงานของนางอาร์เดิร์นที่อนุมัติให้เจ้าหน้าที่ใช้วิธีนี้ว่า น่าอาย ไร้ผล ทำตัวเหมือนเด็ก และยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง.-สำนักข่าวไทย

ตำรวจแคนาดาสลายม็อบประท้วงโควิดปิดสะพานได้แล้ว

ออตตาวา 14 ก.พ. – ตำรวจแคนาดาสลายม็อบรถบรรทุกปิดสะพานหลักที่เป็นเส้นทางสัญจรเชื่อมระหว่างแคนาดากับสหรัฐได้แล้ว หลังม็อบดังกล่าวได้ชุมนุมขัดขวางการเดินทางในเส้นทางดังกล่าวมาเป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาลแคนาดา ตำรวจแคนาดาระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ตำรวจได้จับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมที่หลงเหลืออยู่หลายสิบคนในความผิดฐานสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือกระทำการก่อกวน รวมถึงได้เคลื่อนย้ายรถบรรทุกหลายคันออกจากพื้นที่โดยที่ไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาขัดขวาง ทั้งนี้ ตำรวจแคนาดาได้พยายามสลายการชุมนุมตั้งแต่ช่วงเช้าวันเสาร์ เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมากยอมออกจากพื้นที่โดยสันติหลังตำรวจประกาศคำสั่งให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ยังคงมีกลุ่มผู้ชุมนุมหลงเหลืออยู่หลายสิบคนจนทำให้ตำรวจต้องจับกุมผู้ชุมนุมกลุ่มนี้ ในขณะเดียวกัน ตำรวจเมืองวินเซอร์ในรัฐออนแทรีโอของแคนาดา ซึ่งมีพรมแดนติดกับเมืองดีทรอยต์ในรัฐมิชิแกนของสหรัฐ ระบุผ่านทวิตเตอร์แจ้งเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสะพานแอมบาสเดอร์ เนื่องจากยังคงมีคำสั่งบังคับใช้ทางกฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุมและตำรวจจะดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ขณะนี้ ตำรวจสามารถควบคุมเส้นทางสัญจรที่สะพานดังกล่าวได้แล้ว แต่ยังคงไม่เปิดสะพาน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า กลุ่มคนขับรถบรรทุกชาวแคนาดาได้ออกมาชุมนุมต่อต้านข้อกำหนดใช้ใบรับรองฉีดวัคซีนโควิดของรัฐบาลเพื่อเดินทางข้ามพรมแดนจนทำให้เส้นทางการค้าที่สะพานแอมบาสเดอร์เป็นอัมพาต ก่อนหน้านี้ ผู้พิพากษาของศาลแคนาดาได้ออกคำสั่งเมื่อวันศุกร์ให้สลายการชุมนุมดังกล่าว แต่ยังคงมีผู้ประท้วงหลายสิบคนที่ไม่ยอมออกจากพื้นที่. -สำนักข่าวไทย

1 43 44 45 46 47 1,427
...