เกาะติดสถานการณ์ไวรัสโคโรนา

ปารีส 14 ก.พ.- ตำรวจกรุงปารีสของฝรั่งเศสจับกุมผู้เข้าร่วมขบวนรถปิดกั้นถนนเพื่อต่อต้านการบังคับใช้ใบรับรองฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยยังคงควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้ 81 คนจากที่จับกุมทั้งหมด 97 คน ผู้ประท้วงจากทั่วฝรั่งเศสขับยวดยานมาปิดกั้นถนนในกรุงปารีสเมื่อวันเสาร์ เลียนแบบการประท้วงในแคนาดา บางส่วนขับต่อไปยังกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมซึ่งเป็นที่ตั้งของสหภาพยุโรป ขณะที่บางส่วนมากกว่า 100 คันรวมตัวกันที่ถนนช็องเซลีเซในกรุงปารีส ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม จนเกิดภาพคล้ายกับเมื่อครั้งที่มีการประท้วงเสื้อกั๊กเหลืองช่วงปี 2561-2562 ตำรวจควบคุมตัวผู้ประท้วงที่ยังไม่ยอมออกจากพื้นที่เมื่อวันอาทิตย์ได้ 97 คน ก่อนปล่อยไปบางส่วนเหลือควบคุมตัวอยู่ 81 คน การประท้วงในฝรั่งเศสเป็นการประท้วงมาตรการบังคับให้ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนเมื่อจะใช้บริการสถานที่สาธารณะ ขณะที่การประท้วงในแคนาดาเป็นการประท้วงมาตรการบังคับให้คนขับรถบรรทุกข้ามพรมแดนแคนาดา-สหรัฐต้องฉีดวัคซีน ด้านเบลเยียมห้ามการชุมนุมและขอให้ผู้ขับขี่ยวดยานกลับไปประท้วงในประเทศตัวเอง ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสที่คาดกันว่าจะลงเลือกตั้งอีกสมัยในเดือนเมษายนนี้เผยว่า เข้าใจดีว่าประชาชนเหนื่อยล้ากับการระบาดที่ยืดเยื้อมา 2 ปี และความเหนื่อยล้ามักนำมาซึ่งความโกรธ แต่ขอให้ทุกคนใจเย็นให้มากที่สุด รัฐบาลเตรียมผ่อนคลายมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยภายในสิ้นเดือนนี้ และหวังว่าจะสามารถยกเลิกการใช้บัตรผ่านวัคซีนได้ภายในปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเมษายน.-สำนักข่าวไทย

นายกรัฐมนตรีนอร์เวย์แถลงยกเลิกมาตรการเข้มงวดรับมือการระบาดของโควิด-19 เกือบทั้งหมด ให้เหตุผลชาวนอร์เวย์ฉีดวัคซีนครบโดสมีสัดส่วนสูง และสถิติคนเข้าโรงพยาบาลอยู่ในระดับต่ำ

ฮานอย 13 ก.พ.- สื่อทางการเวียดนามรายงานวันนี้ว่า เวียดนามจะยกเลิกมาตรการจำกัดจำนวนเที่ยวบินโดยสารระหว่างประเทศจากทุกจุดหมายตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป หนังสือพิมพ์ต่วยแจ๋รายงานอ้างรองผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งเวียดนามว่า เวียดนามจะยกเลิกมาตรการจำกัดเที่ยวบินระหว่างประเทศตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ จำนวนเที่ยวบินจะกลับไปเท่ากับระดับก่อนเกิดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด เวียดนามได้แจ้งนโยบายใหม่นี้ต่อผู้เกี่ยวข้องแล้ว และมีเพียงจีนที่ยังไม่ตกลงเรื่องฟื้นจำนวนเที่ยวบินพาณิชย์กับเวียดนามไปเท่าระดับเดิม ที่ผ่านมาเวียดนามได้ทยอยฟื้นจำนวนเที่ยวบินกับจุดหมาย 15 แห่งแล้วตั้งแต่ต้นปี ควบคู่ไปกับการผ่อนคลายมาตรการกักตัว ด้วยการให้ผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีนแล้วกักตัวเองเพียง 3 วัน เวียดนามมียอดติดเชื้อสะสมเกือบ 2 ล้าน 5 แสนคน มีผู้เสียชีวิตประมาณ 39,000 คน ประชากร 98 ล้านคนฉีดวัคซีนครบโดสแล้วราวร้อยละ 98 เวียดนามใช้มาตรการเข้มงวดพรมแดนตั้งแต่เกิดการระบาด เบื้องต้นได้ผลดี แต่กระทบต่อภาคการท่องเที่ยวที่ครองส่วนแบ่งถึงร้อยละ 10 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP).-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้พบผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ 56,431 คน ในวันนี้ เป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่ เพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ขณะที่รัฐบาลจะให้ประชาชนซื้อชุดตรวจหาเชื้อตามร้านได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้

โตเกียว 13 ก.พ.- แหล่งข่าวเผยว่า ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาเรื่องผ่อนคลายคำสั่งห้ามชาวต่างชาติที่ไม่มีถิ่นพำนักอาศัยเข้าญี่ปุ่นได้ในเดือนมีนาคม หลังจากถูกนักวิชาการและนักธุรกิจตำหนิที่ใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อสกัดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน แหล่งข่าวเผยว่า มาตรการจำกัดทางพรมแดนที่ใช้มาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีก่อนจะสิ้นสุดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ตามกำหนด รัฐบาลเตรียมจะประกาศรายละเอียดขั้นตอนการผ่อนคลายในสัปดาห์หน้าเป็นอย่างเร็วที่สุด ขณะนี้กำลังพิจารณาเรื่องลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้ไม่มีถิ่นพำนักอาศัยที่ได้รับอนุญาตให้เข้าเป็นกรณีพิเศษจาก 7 วัน เหลือ 3-5 วันสำหรับผู้มีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบหรือมีใบรับรองการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และกำลังพิจารณาผ่อนคลายมาตรการที่จำกัดให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศได้สูงสุดวันละ 3,500 คน ทั้งนี้ก่อนหน้าที่จะใช้มาตรการปัจจุบันญี่ปุ่นอนุญาตให้ต่างชาติเข้าประเทศได้สูงสุดวันละ 5,000 คน นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นเผยกับสื่อในวันเสาร์ว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องผ่อนคลายมาตรการจำกัด โดยจะคำนึงถึงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เรื่องเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน สถานการณ์การแพร่เชื้อทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงมาตรการจำกัดทางพรมแดนของประเทศอื่น ๆ หลังจากมีเสียงวิจารณ์จากนักวิชาการและนักธุรกิจชั้นนำว่า มาตรการจำกัดชาวต่างชาติเข้าประเทศทำให้นักศึกษาต่างชาติเปลี่ยนใจไปศึกษาต่อในประเทศอื่น เช่น เกาหลีใต้ และทำให้ญี่ปุ่นประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานเรื้อรัง.-สำนักข่าวไทย

วินด์เซอร์ 13 ก.พ.- ตำรวจแคนาดาจับกุมผู้ประท้วงปิดกั้นสะพานสำคัญที่ข้ามพรมแดนไปยังสหรัฐเป็นรายแรกเมื่อวันเสาร์ หลังจากพยายามหาทางยุติการปิดกั้นด่านที่เป็นเส้นทางการค้าสำคัญระหว่างสองประเทศ กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านมาตรการที่รัฐบาลแคนาดาใช้จำกัดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้นำยวดยานมาปิดกั้นทั้งสองฝั่งของสะพานแอมบาสซาเดอร์ที่เชื่อมเมืองวินด์เซอร์ รัฐออนแทรีโอของแคนาดากับเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกนของสหรัฐมาตั้งแต่วันจันทร์ ทำให้การค้าระหว่างประเทศติดขัด เพราะสะพานเก็บค่าผ่านทางนี้เป็นด่านข้ามพรมแดนทางบกที่พลุกพล่านที่สุดของอเมริกาเหนือ ตำรวจแคนาดาสามารถผลักดันผู้ประท้วงออกจากเชิงสะพานได้แล้ว แต่ก็มีคนเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นจนการจราจรเป็นอัมพาต และมีการจับกุมชายวัย 27 ปี ข้อหากระทำความผิดอาญาที่เกี่ยวข้องกับการประท้วง นับเป็นผู้ปิดกั้นสะพานที่ถูกจับกุมเป็นรายแรก นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดาย้ำระหว่างประชุมคณะที่ปรึกษาเมื่อวันเสาร์ว่า ไม่สามารถปล่อยให้สะพานถูกปิดกั้นได้ และพร้อมพิจารณาทางเลือกทุกอย่าง ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเรียกร้องให้ผู้ประท้วงยุติการปิดกั้นสะพาน จำนวนผู้ประท้วงในเช้าวันเสาร์ลดลงเล็กน้อยจากคืนวันศุกร์ที่มีประมาณ 200 คน นักวิชาการในแคนาดามองว่า การที่ผู้ประท้วงยังไม่สลายตัว ทั้งที่ศาลมีคำสั่งตั้งแต่วันศุกร์ให้ยุติการปิดกั้นสะพาน และรัฐออนแทรีโอประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน สะท้อนว่าทางการไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ยิ่งปล่อยให้ยืดเยื้อ ยิ่งทำให้ผู้ประท้วงคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่ไม่ผิดกฎหมาย ตำรวจแคนาดาระบุว่า การประท้วงได้รับเงินบางส่วนจากผู้สนับสนุนในสหรัฐ ด้านรัฐออนแทรีโอได้ระงับเงินที่บริจาคผ่านแพลตฟอร์มกีฟเซ็นด์โก (GiveSendGo) ของสหรัฐแล้วตั้งแต่วันพฤหัสบดี.-สำนักข่าวไทย

โทรทัศน์ทีวีบี ของฮ่องกงรายงานวันนี้ว่า คาดหมายว่า ฮ่องกงจะประกาศจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในวันนี้สูงเป็นสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ฮ่องกงกำลังพยายามหาทางควบคุมมิให้การระบาดขยายวงกว้างออกไปแม้จะใช้มาตรการเข้มงวดมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยใช้มาก่อนก็ตาม

ผู้ประท้วงที่ต่อต้านมาตรการเข้มงวดในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ยังคงปักหลักยึดครองบริเวณระเบียงการค้าแคนาดา-สหรัฐ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลมีผลบังคับใข้ ให้ผุ้ประท้วงยุติการปิดกั้นสะพานเชื่อมสองประเทศ ที่ส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในทวีปอเมริกาเหนือ

การชุมนุมต่อต้านการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในนิวซีแลนด์และออสเตรเลียที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว มีจำนวนผู้ประท้วงเพิ่มมากขึ้นในวันนี้ โดยผู้ประท้วงปิดกั้นถนนหลายสายและรบกวนการใช้ชีวิตของประชาชนปกติในนครหลวงของนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย