รักษาผู้ป่วยโควิด แบบ “เจอ แจก จบ” แล้วเกือบ 8 พันคน
โฆษกรัฐบาล เผยเฉพาะ 4-8 มี.ค.ที่ผ่านมา ให้การรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบ “เจอ แจก จบ” แล้วเกือบ 8 พันคน “นายกฯ” ขอประชาชนใน 10 จังหวัดผู้ติดเชื้อสูงสุด รีบฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
โฆษกรัฐบาล เผยเฉพาะ 4-8 มี.ค.ที่ผ่านมา ให้การรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบ “เจอ แจก จบ” แล้วเกือบ 8 พันคน “นายกฯ” ขอประชาชนใน 10 จังหวัดผู้ติดเชื้อสูงสุด รีบฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
จ.นครศรีธรรมราช วันนี้พบผู้ป่วยโควิด 1,438 ราย เสียชีวิต 9 คน ทางจังหวัดจึงปรับแผนให้สาธารณสุขประสานพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาด พร้อมย้ำยังจำเป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้น
ปทุมธานี 12 มี.ค. – มีครอบครัวหนึ่งที่ปทุมธานี ติดโควิดไปแล้ว 12 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็ก และมีเด็ก 5 ขวบ ไข้สูงแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก แม่โทรไป 1669 เจ้าหน้าที่บอกให้ชักก่อนค่อยไปโรงพยาบาล แม่จึงขอให้ทีมสายไหมต้องรอดช่วยเหลือ
ฉางชุน 12 มี.ค.- จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์กับประชาชน 9 ล้านคนในเมืองฉางชุน เมืองเอกของมณฑลจี๋หลิน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศตั้งแต่วันศุกร์ เนื่องจากมีผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้นมากจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่ง่าย ชาวเมืองถูกสั่งให้อยู่แต่ในบ้าน โดยให้สมาชิกในครอบครัวออกมาซื้ออาหารและสิ่งจำเป็นได้เพียงคนเดียวในทุก 2 วัน ชาวเมืองทุกคนต้องตรวจหาเชื้อทั้งหมด 3 ครั้ง ธุรกิจไม่จำเป็นถูกสั่งปิด และงดการขนส่งเดินทางทั้งหมด มาตรการล็อกดาวน์ล่าสุดนี้ยังครอบคลุมถึงชาวเมือง 500,000 คนในเมืองหยูเฉิง มณฑลซานตง ทางตะวันออกของจีนด้วย จีนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นการติดเชื้อในประเทศ 397 คนเมื่อวันศุกร์ ในจำนวนนี้ 98 คนอยู่ในมณฑลจี๋หลินที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 1,100 คนแล้ว นับตั้งแต่การะบาดระลอกล่าสุดเริ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน เฉพาะเมืองฉางชุนที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 คนเมื่อวันศุกร์ ทำให้ยอดติดเชื้อรวม 78 คน ทางการจีนประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทุกชุมชนที่พบผู้ติดเชื้อแม้ต่รายเดียว ตามยุทธศาสตร์การควบคุมโควิดให้เป็นศูนย์ที่ใช้มานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 113,500 คน และมีผู้เสียชีวิตคงเดิมที่ 4,636 คน.-สำนักข่าวไทย
ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาเหมาะสมในการยกเลิกมาตรการห้ามเที่ยวบินจาก 9 ประเทศรวมถึงสหรัฐและอังกฤษมาลงจอดที่ฮ่องกง ชี้แผนเปิดประเทศจะต้องเป็นช่วงเวลาหลังควบคุมการระบาดของโควิด -19 รอบล่าสุดที่รุนแรงได้
“โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือสโมสรฮองอันห์ยาลาย ในวีลีก เวียดนาม หายป่วยโควิด-19
ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงห่างไกลจากจุดสิ้นสุด
แอตแลนตา 8 มี.ค.- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) เพิ่มไทย ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ไว้ในรายชื่อสถานที่เสี่ยงระดับ 4 ซึ่งเป็นความเสี่ยงระดับสูงสุดที่จะเดินทาง เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นซีดีซีได้ปรับไทย ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ จากระดับ 3 คือความเสี่ยงสูง ขึ้นเป็นระดับ 4 คือความเสี่ยงสูงมาก ควรหลีกเลี่ยงการเดินทาง ใช้กับสถานที่ที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 500 รายต่อประชากร 100,000 คนในช่วง 28 วันที่ผ่านมา ปัจจุบันมีสถานที่ 135 แห่งที่ถูกซีดีซีจัดให้อยู่ในระดับนี้ ซีเอ็นเอ็นอธิบายเพิ่มเติมว่า ฮ่องกงและนิวซีแลนด์ใช้มาตรการโดดเดี่ยวตัวเองตั้งแต่โควิดระบาด ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อต่ำและได้รับการยกย่องว่าประสบความสำเร็จ แต่เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนทำให้ทั้ง 2 สถานที่นี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะนี้ฮ่องกงยังคงใช้มาตรการจำกัดการระบาดอย่างเข้มงวด ขณะที่นิวซีแลนด์เตรียมเปิดประเทศให้แก่ผู้ฉีดวัคซีนครบโดส ส่วนไทยที่เคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของโลกและมีรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2562 ก่อนโควิดระบาดมากที่สุดในเอเชีย เริ่มใช้มาตรการเทสต์แอนด์โก (Test & Go) ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ อนุญาตให้ผู้เดินทางต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วจากทั่วโลกเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวเป็นเวลานาน.-สำนักข่าวไทย
ฮ่องกง 8 มี.ค.- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของจีนระบุว่า ฮ่องกงจะต้องยึดมั่นตามยุทธศาสตร์การควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้เป็นศูนย์ และมุ่งเน้นเรื่องการลดยอดผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยหนักและผู้เสียชีวิตเป็นหลัก สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนอ้างคำกล่าวของนายเหลียง ว่านเหนียน หนึ่งในคณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติจีนที่กำลังอยู่ในฮ่องกงเพื่อประสานงานการรับมือโควิดระบาดว่า การตรวจหาเชื้อกับคนจำนวนมากจำเป็นต้องทำอย่างถูกเวลาและจัดการรายละเอียดทั้งหมดอย่างรอบคอบ การลดยอดผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยอาการหนักและผู้เสียชีวิตคือภารกิจเร่งด่วนที่สุดและสำคัญที่สุดของฮ่องกงในเวลานี้ เพราะหลังจากบรรลุเป้าหมายแรกแล้วจึงจะสามารถขยับไปยังเป้าหมายต่อไป นายเหลียงกล่าวด้วยว่า การคุมโควิดให้เป็นศูนย์ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เลยในช่วงที่การแพร่ระบาดยังรุนแรงอยู่ แต่ฮ่องกงควรพยายามอย่างเต็มที่เพื่อลดการติดเชื้อและดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาด ผู้เชี่ยวชาญจีนกล่าวเรื่องนี้ในขณะที่ฮ่องกงมียอดติดเชื้อสะสมเกือบ 500,000 คน เสียชีวิตมากกว่า 2,200 คน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมากในวันนี้ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมารัฐบาลได้เปิดตัวเว็บไซต์ให้คนเข้าไปแจ้งลงทะเบียนด้วยตัวเองหากติดเชื้อ และหากอยู่ในที่พักที่แออัด เจ้าหน้าที่จะหาทางนำตัวไปแยกกักโรคต่อไป.-สำนักข่าวไทย
ลอนดอน 8 มี.ค. – ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษพบว่า โรคโควิด-19 เป็นสาเหตุที่ทำให้สมองหดตัว ทำให้เนื้อสมองสีเทาที่ควบคุมอารมณ์และความจำมีขนาดเล็กลง และทำลายเนื้อสมองส่วนที่ควบคุมระบบประสาทรับกลิ่น คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดระบุในผลการวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ (Nature) ซึ่งเป็นวารสารวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ ว่า โรคโควิด-19 เป็นสาเหตุที่ทำให้สมองหดตัว ทำให้เนื้อสมองสีเทาที่ควบคุมอารมณ์และความจำมีขนาดเล็กลง และทำลายเนื้อสมองส่วนที่ควบคุมระบบประสาทรับกลิ่น ผลวิจัยดังกล่าวยังพบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่ไม่ได้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้รับผลกระทบดังกล่าวด้วย แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าผลกระทบนี้จะเกิดขึ้นต่อเนื้อสมองเพียงบางส่วนหรือส่งผลกระทบในระยะยาวหรือไม่ เนื่องจากจำเป็นต้องศึกษาวิจัยเพิ่มเติมต่อไป นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่มีอาการป่วยเพียงเล็กน้อยมีสมองส่วนควบคุมหน้าที่และการบริหารจัดการลดลง และมีขนาดสมองโดยเฉลี่ยหดตัวลงตั้งแต่ร้อยละ 0.2 ถึงร้อยละ 2 ผลวิจัยดังกล่าวได้ทำการศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางสมองของอาสาสมัคร 785 คน ที่มีอายุตั้งแต่ 51-81 ปี แต่ละคนจะได้รับการสแกนสมอง 2 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างระหว่างครั้งแรกกับครั้งที่สองประมาณ 141 วัน และมีอาสาสมัคร 401 คนที่ติดเชื้อโควิดในระหว่างการสแกนสมองครั้งแรกกับครั้งที่สอง ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดได้ทำการศึกษาดังกล่าวในช่วงที่อังกฤษกำลังเผชิญกับการระบาดรุนแรงของเชื้อโควิดสายพันธุ์อัลฟา และเป็นช่วงที่ยังไม่มีอาสาสมัครคนใดติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา.-สำนักข่าวไทย
ฮ่องกง 8 มี.ค. – ฮ่องกงมีอัตราผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทำสถิติสูงที่สุดในโลก หลังมีอัตราผู้เสียชีวิตโดยเฉลี่ยในรอบ 7 วันอยู่ที่ 27 รายต่อประชากร 1 ล้านคนเมื่อวันอาทิตย์ โดยที่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด จากการวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐที่อ้างอิงข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ของสหรัฐ พบว่า ฮ่องกงมียอดผู้เสียชีวิตโดยเฉลี่ยในรอบ 7 วันพุ่งสูงถึง 27 รายต่อประชากร 1 ล้านคน ทำสถิติสูงสุดของโลกและทิ้งห่างลัตเวีย ซึ่งมีอัตราผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับสอง มากถึงสองเท่า นอกจากนี้ อัตราผู้เสียชีวิตของฮ่องกงยังทำลายสถิติอัตราผู้เสียชีวิตสูงสุดของสหรัฐในช่วงที่เผชิญกับการระบาดรุนแรงของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ฮ่องกงรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 25,150 คน และมีผู้เสียชีวิต 161 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 496,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 2,200 คน โดยที่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้ที่ยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด รัฐบาลฮ่องกงได้เปิดแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อให้ประชาชนแจ้งผลจากชุดตรวจหาเชื้อโควิดด้วยตนเองเมื่อวันจันทร์ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฮ่องกงคาดการณ์ว่ายอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ในฮ่องกงจะยังคงมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ แม้ผู้ป่วยใหม่ยังอยู่ที่ 21,162 คน แต่ผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นทำสถิติใหม่ 65 คน