กลุ่ม ปตท. เตรียมงบ 5 ปี 8.6 แสนล้าน ต่อลมหายใจเศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ 12 พ.ย.-กลุ่ม ปตท. เตรียมงบ 5 ปี 8.6 แสนล้าน ต่อลมหายใจเศรษฐกิจผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ นำไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เผยไตรมาส 3/64 มีกำไรสุทธิจำนวน 23,653 ล้านบาท

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความพร้อมสนับสนุนนโยบายเปิดประเทศว่า กลุ่ม ปตท. ได้เตรียมแผนลงทุน 5 ปี รวม 865,000 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจตามกรอบวิสัยทัศน์ Powering Life with Future energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังงานแห่งอนาคต ร่วมผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (New S-Curve) ประกอบด้วยการลงทุนในพลังงานอนาคต (Future Energy) อาทิ พลังงานทดแทน ระบบการกักเก็บพลังงาน ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ศึกษาการใช้พลังงานจากไฮโดรเจน และลงทุนนอกธุรกิจพลังงาน(Beyond) อาทิ ธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (ยา อาหารและโภชนาการ วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์) ต่อยอดธุรกิจปิโตรเคมีสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ปรับธุรกิจน้ำมันให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ธุรกิจโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมจัดตั้งคณะทำงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ กลุ่ม ปตท. (PTT Group Net Zero Task Force : GNTF) เพื่อวางกรอบเป้าหมายที่ชัดเจนในการยกระดับการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศ เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ได้ในปี ค.ศ. 2065 ตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน


ด้านผลการดำเนินงาน ปตท. และบริษัทย่อย ไตรมาส 3 ปี 2564 มีกำไรสุทธิจำนวน 23,653 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 67.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงจากไตรมาส 2 ปี 2564 ที่ 24,578 ล้านบาท ตามกำไรจากการดำเนินงานที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ที่ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชีย โดยสาเหตุหลักจากธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น รวมถึงธุรกิจน้ำมัน เนื่องจากปริมาณขายที่ลดลงจากมาตรการ Lockdown ที่เข้มงวดขึ้น และต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ

สำหรับผลการดำเนินงานของ ปตท. และบริษัทย่อยใน 9 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิ จำนวน 80,819 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 24,619 ล้านบาทหรือ228% โดยปรับตัวดีขึ้นจากเกือบทุกกลุ่มธุรกิจตามทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวจากปีก่อน ประกอบกับ ปตท. สามารถบริหารจัดการด้านการปฏิบัติการ (Operation) อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ดำเนินได้อย่างไม่ติดขัดแม้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากการนำเข้า-ส่งออก ในขณะที่อุตสาหกรรมลักษณะเดียวกันในต่างประเทศบางแห่งต้องปิดตัวลง


ผลการดำเนินงานของ ปตท. และบริษัทย่อยมาจากการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายของกลุ่ม ปตท. โดยกำไรสุทธิของ ปตท. และบริษัทย่อยใน 9 เดือนแรกของปี 2564 มีสัดส่วนจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ร้อยละ 33 เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ไม่ผันผวน ดำเนินการเพื่อความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 23% ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น 22% จากการขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรม และบริษัทย่อยอื่นๆ 13% สำหรับกลุ่มธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 9 ในสถานการณ์โควิด-19 ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน และช่วยบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนโดยชะลอราคาขายปลีกน้ำมันถึงแม้ว่าต้นทุนราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท.สามารถนำส่งเงินเข้ารัฐ สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2564 ทั้งในรูปแบบเงินปันผลและภาษีเงินได้ รวม 55,924 ล้านบาท หากนับตั้งแต่ปี 2544 ถึง 9 เดือนแรกของปี 2564 กลุ่ม ปตท. นำเงินส่งรัฐรวม 1.05 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 ปี 2564 ปตท. และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจำนวน 558,888 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ไตรมาส 2 ปี 2564 จำนวน 25,632 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.8 ส่วนใหญ่จากรายได้ของกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น และธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นตามราคาในตลาดโลก แม้ปริมาณขายลดลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของ COVID-19สายพันธุ์เดลตา อีกทั้งรายได้ของกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติปรับเพิ่มขึ้นโดยหลักจากราคาขายลูกค้าอุตสาหกรรมที่อ้างอิงราคา น้ำมันเตาที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจจัดหาและจัดจาหน่ายก๊าซฯ และจากราคาขายเฉลี่ยที่อ้างอิงราคาปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจโรงแยกก๊าซธรรมชาติ

กลุ่ม ปตท. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า มุ่งดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ในปี 2564 จัดตั้งโครงการ Restart Thailand เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้และสร้างทักษะอาชีพ ผ่านการจ้างนักศึกษาจบใหม่ บัณฑิตว่างงานระดับ ปวช.- ปริญญาตรีในทุกภูมิภาค จำนวนกว่า 25,000 อัตรา นอกจากนี้ จากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ กลุ่ม ปตท. ได้นำทีมพนักงานจิตอาสา “PTT Group SEALs” ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ มอบถุงยังชีพกว่า 15,000 ถุง พร้อมอุปกรณ์จำเป็น ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ตลอดจนเดินหน้าแบ่งเบาภาระภาครัฐในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 และจัดตั้งหน่วยคัดกรองโควิด-19 และโรงพยาบาลสนามครบวงจร ในโครงการลมหายใจเดียวกัน รวมงบประมาณทั้งสิ้น 1,800 ล้านบาท พร้อมเปิดสายด่วน 1745 “End-To-End Mobile@1745” มีพนักงานจิตอาสาจะคอยช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ และส่งรถพยาบาลไปรับถึงที่พัก เพื่อสนับสนุนนโยบายเปิดประเทศ ให้เราผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน.-สำนักข่าว​ไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]

ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

กัมพูชา 10 ก.ย.- ไทย-กัมพูชา เดินหน้าคืนสันติภาพชายแดน ผลประชุม GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง สรุป 5 ประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไปจนถึงจัดการพื้นที่พิพาท รมช.กลาโหม ย้ำสองประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการประชุม GBC ที่มาเลเซียที่ผ่านมา เพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขกลับมาสู่พื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร พร้อมย้ำถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวม หลังการหยุดยิงดำเนินมากว่า 1 เดือน ว่ามีความสงบมากขึ้น แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องแก้ไข เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเต็มร้อย โดยผลการประชุมสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 […]

พนังกั้นน้ำขาด ทะลักท่วมนาข้าว-ถนนถูกตัดขาด

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – ผลพวงอุทกภัยจากพายุหนองฟ้า ทำพนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทรุดตัวและขาด ส่งผลมวลน้ำทะลักท่วมนาข้าวเกือบพันไร่ เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด ภาพนาทีน้ำจากตอนบนในพื้นที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ไหลทะลักท่วมพื้นที่ ทำให้พนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ ถูกน้ำกัดเซาะจนทรุดและขาดกว้างประมาณ 5 เมตร ยาว 6 เมตร และเอ่อเข้าท่วมนาข้าวของชาวบ้าน 3 ตำบล คือ ต.ขวาว, ต.นางาม และ ต.นางาม ชาวบ้านและผู้นำชุมชนต้องระดมเครื่องจักรกล ถุงบิ๊กแบ็ก เข้าอุดพนังที่ขาด เพราะวิตกว่ามวลน้ำจำนวนมากจะทำให้นาข้าวที่กำลังหว่านปุ๋ยรับรวง จำนวนเกือบ 1,000 ไร่ เสียหาย จนไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้ ปภ. ประสานนำเครื่องจักรกลหนักเข้าเสริมกั้นน้ำ นำถุงบิ๊กแบ็ก 280 ถุง เข้า จัดวาง […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย