แกร็บฯ ชี้แจงกรณีพาร์ทเนอร์แกร็บไบค์รวมตัวเรียกร้องการรับงาน

กรุงเทพฯ 10 ส.ค. – แกร็บฯ ชี้แจงกรณีพาร์ทเนอร์แกร็บไบค์รวมตัวเรียกร้องการรับงานในเขตกรุงเทพฯ


จากกรณีที่มีพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บไบค์ (ให้บริการด้วยรถจักรยานยนต์) ในเขตกรุงเทพฯ รวมตัวขอเข้าพบผู้บริหารของแกร็บ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับงานนั้น แกร็บ ประเทศไทยได้รับทราบถึงปัญหาและข้อเสนอแนะจากพาร์ทเนอร์คนขับในประเด็นต่าง ๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ทำการติดต่อตัวแทนพาร์ทเนอร์คนขับ ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มคนขับในเขตกรุงเทพฯ โดยได้เชิญเข้าร่วมประชุมกับผู้บริหาร เพื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยกลุ่มตัวแทนพาร์ทเนอร์คนขับยืนยันที่จะรวมตัวบริเวณหน้าอาคาร ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ

ทั้งนี้ แกร็บ ประเทศไทย ขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้ 1.ปัญหาการรับงานที่เกิดขึ้นจากการแบ่งเขตพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี เนื่องจากการประกาศแบ่งเขตพื้นที่การรับงานของพาร์ทเนอร์คนขับในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้เกิดข้อจำกัดในเชิงเทคนิคบางประการ และส่งผลต่อการรับงานของพาร์ทเนอร์คนขับ รวมถึงประสบการณ์การใช้บริการของลูกค้าในพื้นที่ซึ่งเป็นรอยต่อ ดังนั้น แกร็บจึงประกาศยกเลิกการแบ่งเขตพื้นที่ดังกล่าว โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจนกว่าระบบจะมีความพร้อมในการให้บริการแบบแบ่งเขตพื้นที่ และจะทำการสื่อสารให้พาร์ทเนอร์คนขับทราบรายละเอียดหากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในอนาคต


2.การเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าในการเรียกใช้บริการจัดส่งพัสดุผ่านแกร็บ เอ็กซ์เพรส (GrabExpress) ที่ผ่านมาแกร็บประกาศให้พาร์ทเนอร์คนขับที่รับงานจัดส่งพัสดุผ่านบริการแกร็บเอ็กซ์เพรสจะต้องมีกระเป๋าแกร็บ เพื่อบรรจุและจัดเก็บสินค้าหรือพัสดุที่ผู้ใช้บริการต้องการจัดส่ง ทั้งนี้ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความปลอดภัยในระหว่างการขับรถ พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าสินค้าหรือพัสดุที่ต้องการจัดส่งนั้นจะถูกจัดเก็บเป็นอย่างดีในระหว่างการขนส่งและถึงมือผู้รับปลายทางในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ตระหนักและเข้าใจถึงข้อจำกัดของพาร์ทเนอร์คนขับบางรายที่ไม่สะดวกในการซื้อและใช้กระเป๋าแกร็บ ดังนั้น บริษัทฯ จึงพิจารณาปรับปรุงบริการส่วนนี้ เพื่อตอบสนองต่อรูปแบบการให้บริการที่แตกต่างกันของพาร์ทเนอร์คนขับ รวมทั้งเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคมเป็นต้นไป การจัดส่งสินค้าหรือพัสดุผ่านบริการแกร็บเอ็กซ์เพรสด้วยรถจักรยานยนต์จะถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ แบบต้องการกระเป๋า และแบบไม่ต้องการกระเป๋า โดยผู้ใช้บริการจะสามารถเลือกได้ว่าต้องการใช้บริการแบบใด สำหรับพาร์ทเนอร์คนขับที่เคยถูกยกเลิกไม่ให้รับงานหากไม่มีกระเป๋า บริษัทฯ เปิดสิทธิ์ให้สามารถรับงานจัดส่งพัสดุผ่านบริการแกร็บเอ็กซ์เพรสตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา

3.การให้ความคุ้มครองในระหว่างการรับงาน ความปลอดภัยของผู้ใช้บริการและพาร์ทเนอร์คนขับถือเป็นสิ่งที่แกร็บให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอาจมีพาร์ทเนอร์คนขับบางรายที่ไม่ทราบว่า แกร็บได้จัดทำประกันอุบัติเหตุเพื่อให้ความคุ้มครองกับพาร์ทเนอร์คนขับของเราในทุกเที่ยวของการให้บริการ โดยให้ความคุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุระหว่างการรับงาน และให้ความคุ้มครองสูงสุด 200,000 บาท ในกรณีที่เสียชีวิต ซึ่งถือเป็นสิทธิประโยชน์ที่ดีกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในตลาด ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงได้มีการประกาศให้พาร์ทเนอร์คนขับรับทราบอีกครั้งผ่านทางแอปพลิเคชันของพาร์ทเนอร์คนขับ


แกร็บ ประเทศไทย ขอน้อมรับทุกความคิดเห็นของผู้ใช้บริการ รวมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะจากพาร์ทเนอร์คนขับของเรา เพื่อนำมาใช้พิจารณาและปรับปรุงการให้บริการ ตลอดจนการบริหารงานด้านต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแกร็บ ยังคงเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งส่งเสริมให้คนไทยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยพาร์ทเนอร์คนขับ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ที่ใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชันของเรา สามารถสร้างรายได้เสริมจากการรับงานต่าง ๆ ด้วยรูปแบบการทำงานที่เป็นอิสระ มีความยืดหยุ่น และสามารถเลือกช่วงเวลารับงานได้ตามความสะดวกโดยไม่มีข้อผูกมัด โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโควิด-19 หลายธุรกิจต้องประสบปัญหาและคนไทยจำนวนไม่น้อยได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันแกร็บยังคงมุ่งมั่นพัฒนาบริการของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการในยุคปัจจุบัน ทั้งในด้านบริการการเดินทาง บริการจัดส่งอาหาร-พัสดุ บริการสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ต บริการทางการเงิน และบริการอื่น ๆ ในอนาคต .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]