ป.ป.ช. วันนี้ ( 21 ก.พ.) “หมอตุลย์ – คปท.” ยื่น ป.ป.ช.เอาผิดรัฐมนตรียุติธรรม พร้อมพวก เอื้อประโยชน์ “ทักษิณ” พักโทษโดยมิชอบ จี้เร่งตั้งคณะกรรมการไต่สวน ด้าน “ศรชัย” ยันไม่นิ่งนอนใจ ได้ข้อมูลหลักฐานส่วนหนึ่งแล้ว
น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อดีตแกนนำเสื้อหลากสี นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) กองทัพธรรม พร้อมคณะ เข้ายื่นคำร้องต่อป.ป.ช. ผ่านนายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและพวก ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพักการลงโทษ ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และเร่งรัดให้มีการตั้งคณะกรรมการไต่สวน โดยให้ ป.ป.ช.เชิญแพทย์ผู้เชียวชาญเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับโรคประจำตัวของนายทักษิณมาสอบสวนเพิ่มเติม
น.พ.ตุลย์ กล่าวว่าการพิจารณาพักโทษนายทักษิณ โดยอ้างว่าเพราะมีอายุ 70 ปี ถ้าเป็นกรณีพิเศษคือต้องช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่ภาพที่คนทั้งประเทศเห็นนายทักษิณ ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วนกรณีอ้างโรคร้ายแรงก็ต้องเป็นระดับโรคเอดส์ ไตวายเรื้อรังต้องมีการฟอก ไม่ใช่โรคอะไรก็ได้ ที่สำคัญต้องติดเตียง แต่ 2 วันที่ผ่านมาคนทั้งประเทศก็เห็นว่านายทักษิณ เป็นอย่างไร จึงมองว่าเป็นเรื่องที่คาใจคนทั้งประเทศที่รักความเป็นธรรม
“ที่อยู่โรงพยาบาลมาตั้งแต่กันยายน 2566 แล้วมีการปกปิดข้อมูล แต่มาถึงวันนี้ที่เราเห็นภาพของนายทักษิณ มันเหมือนกับเป็นการแฉตัวเอง ว่าแท้จริงเป็นอย่างไร ฉะนั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช.น่าจะทำงานง่าย ซึ่งเราก็ได้เตรียมเอกสารของกรมราชทัณฑ์ที่เปิดเผยต่อสาธารณะเอามาเทียบเคียง ว่าแล้วข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ความจริงก็จะได้ปรากฏต่อคนทั้งประเทศ” น.พ.ตุลย์กล่าว
นายพิชิต กล่าวว่า ได้ยื่นเรื่องขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบเรื่องนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2566 ซึ่งในวันที่ 27 มีนาคมนี้ จะครบกรอบเวลา 180 วัน ตามที่กฎหมายกำหนดให้ ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้น จึงต้องการมาเร่งรัด เพราะจากการให้สัมภาษณ์ของบุคคลต่างๆ และภาพนายทักษิณที่ปรากฎวันนี้ ชัดเจนว่าไมได้ป่วยตามที่มีการกล่าวอ้าง
ด้านนายศรชัย กล่าวว่า ระยะเวลาตามระเบียบกฎหมายกำหนด เป็นกรอบเบื้องต้นที่จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานภายใน 180 วัน แต่หากดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ก็สามารถขยายเวลาในแต่ละขั้นตอนได้ หลัง ป.ป.ช.รับเรื่องนี้ในช่วงเดือนกันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งเฉย อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ วันนี้มีการขอเอกสาร หลักฐาน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งราชทัณฑ์ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ได้ข้อมูลมาแล้วส่วนหนึ่ง แต่การทำงานของ ป.ป.ช.มีขั้นตอนกระบวนการอยู่ เมื่อรับเรื่องแล้วก็ต้องตรวจดูพยานหลักฐาน ไปหาพยานหลักฐานว่าจะตั้งไต่สวนได้เมื่อไร ยืนยันว่าถ้าข้อเท็จจริงพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องพร้อม และมีมูลความผิดก็จะมีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป .- สำนักข่าวไทย