พัทลุง17 เม.ย.–อดีต รปภ.สวนงูภูเก็ต ”ถูกทำร้ายจนพิการ เข้าชี้ตัวผู้ต้องหา เอี่ยวแก๊ง “ตู้ห่าว” ยืนยันแม้ผ่านมากว่า 10 ปี จำแม่นยำ แม่เผยทั้งน้ำตา ลูกต้องฟอกไต ไร้ความหวังและอนาคต
สืบเนื่องกลางดึกวันที่ 23 เมษายน 2555 กลุ่มคนร้าย 3 คน บุกเข้าไปสำนักงานของบริษัท ภูเก็ต เฮลตี้ นูทรีเม้น จำกัด (สวนงูภูเก็ต) ซ.ตาเอียด ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต แล้วจับตัวนายอนุชิต อายุ 29 ปี (ในขณะนั้น) พนักงานรักษาความปลอดภัย ปิดตา มัดมือมัดเท้าและทุบศีรษะจนสลบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และกลายเป็นคนพิการ จากนั้นได้วางเพลิงเผาสวนงูดังกล่าว หลังเกิดเหตุ สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ได้ขอศาลจังหวัดภูเก็ตอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุ 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายสุวรรณ อายุ 53 ปี 2.นายยุทธนา อายุ 48 ปี และ 3.นายสุรชัย อายุ 42 ปี ต่อมาตำรวจกองปราบฯ สามารถจับกุมนายสุวรรณฯ และนายยุทธนาฯ ได้ เบื้องต้นทั้ง 2 คน สารภาพว่า รับการจ้างวานจากนายชัยณัฐร์ หรือ “ตู้ห่าว” และภรรยา ปมมาจากความขัดแย้งทางธุรกิจ และส่งตัวทั้ง 2 คนให้พนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ดำเนินคดี ต่อมาอัยการไม่สั่งฟ้อง กระทั่งในปี 2566 มีการจับกุมนายสุรชัย อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาที่เหลือตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.546/2555 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2555 ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ ภายในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครฯ เบื้องต้นนายสุรชัยให้การปฏิเสธ จึงนำตัวส่ง สภ.ฉลอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุดวันนี้ (17 เม.ย.66) ที่ สภ.เมืองภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายอนุชิต อายุ 35 ปี อดีตพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ผู้ถูกทำร้ายในคดีเผาสวนงูภูเก็ต เดินทางมาจาก จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยทนายและครอบครัว เพื่อชี้ตัวผู้ต้องหาและรูปผู้ต้องหาบางส่วนที่ร่วมกันทำร้ายในวันเกิดเหตุ เพื่อยืนยันรูปพรรณของคนร้าย โดยเฉพาะผู้ที่จับเขามัดมือมัดเท้าและปิดตา ก่อนที่จะตีที่ศีรษะจนสลบ โดยสามารถชี้ผู้ต้องหาและรูปผู้ต้องหาได้อย่างแม่นยำ แม้ว่าในส่วนของร่างกายอาจจะยังไม่สมบูรณ์นั้น เนื่องจากมีความพิการจากการถูกทำร้าย และต้องผ่าตัดสมองทำให้ร่างกายซีกซ้ายอ่อนแรงไม่สามารถเดินเหินได้สะดวกนอกจากนี้ยังต้องเข้ารับการฟอกไตวันเว้นวันด้วย หากไม่ฟอกจะตัวบวมและน้ำท่วมปอด หายใจไม่สะดวก และมีโอกาสช็อกหมดสติได้ตลอดเวลา ภาพรวมร่างกายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เป็นปกติเพราะร่างกายซีกซ้ายอ่อนแรง และการจะกลับมาปกติเหมือนเดิมยากมาก โดยเฉพาะช่วง 3 ปีหลังร่างกายค่อนข้างอ่อนแอมาก
นางยุพิน ไชยทองงาม แม่ของนายอนุชิตฯ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอและมีน้ำตาว่า นับจากวันที่เกิดเหตุการณ์จนถึงขณะนี้เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ที่ตกอยู่ในสภาพนี้ ไม่รู้ว่าต้องอย่างไร เพราะชีวิตพ่อกับแม่และอนุชิตคงกลับมาเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว ร้องขอความยุติธรรม ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองครอบครัวเราให้อยู่รอดปลอดภัยตลอดไป 10 ปีที่ผ่านมาครอบครัวของเรามีแต่ความทุกข์ทรมาน แม้ว่าที่ผ่านมาเราเรียกร้องขอความเป็นธรรมมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ ครั้งนี้ขอเรียกร้องความเป็นธรรมอีกครั้ง เพราะชีวิตของเขาลำบากทรมานมากว่า 10 ปี ที่อยู่ได้เพราะมีคนใจดีช่วยเหลือมาตลอด หนึ่งในนั้นคือ ทางเจ้าของสวนงูที่ส่งเสียค่ารักษาพยาบาลให้ตลอด ขณะที่พ่อแม่คนอื่นเขารอวันที่ลูกมีอนาคต แต่ครอบครัวเรากลับนั่งรอวันตายของลูก ความในใจมีมากกว่าแต่ไม่สามารถพูดได้หมด.-สำนักข่าวไทย